ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎหมายส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ชูสิทธิประโยชน์ทางภาษี มาตรการส่งเสริมการลงทุนในวิสาหกิจเพื่อสังคม เงินทุน หวังดึงภาคเอกชนลุยจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม คาด 10 ปี กว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ... โดยเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จะช่วยส่งเสริมหรือสนับสนุนจากภาครัฐ และจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการจากภาคเอกชนเข้ามาประกอบกิจการหรือดำเนินงานเพื่อสังคมมากขึ้น
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าว เป็นการกำหนดให้มีกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการในการส่งเสริมวิสาหกิจที่ดำเนินการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินค้า การให้บริการหรือการอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มแรกในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชน สังคมหรือสิ่งแวดล้อม เป็นหลัก ไม่ใช่การสร้างกำไรสูงสุดต่อผู้ถือหุ้นและเจ้าของ เพื่อให้เข้ามาประกอบกิจการเพื่อสังคมมากขึ้น
“การตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นองค์กรรูปแบบใหม่ มีโครงสร้างองค์กรเหมือนบริษัทเอกชน มีรายได้หลักมาจากการขายสินค้าหรือบริการ แต่พันธกิจหลัก คือ การแก้ปัญหาทางสังคม ไม่ใช่มุ่งหากำไรมาแบ่งปันกัน โครงสร้างดังกล่าวทำให้วิสาหกิจเพื่อสังคมมีความแตกต่างจากองค์กรทุกรูปแบบ” นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือ การให้สิทธิประโยชน์และมาตรการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยมีทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร มาตรการส่งเสริมการลงทุนในวิสาหกิจเพื่อสังคม การได้รับความช่วยเหลือด้านเงินทุน การช่วยเหลือด้านงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจะให้มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ขาดแคลนเงินทุนในระยะแรก โดยกองทุนจะมีรายได้หลักจากเงินบริจาคของภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ดี การจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคมจะทำให้องค์กรที่ดำเนินการในลักษณะวิสาหกิจเพื่อสังคมอยู่แล้วกว่า 300 แห่ง และองค์กรเอกชนที่มีศักยภาพในการดำเนินกิจการทางสังคม รวมทั้งบริษัทเอกชนที่ต้องการตั้งบริษัทลูกเพื่อดำเนินกิจการทางสังคม หันมาดำเนินการในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยคาดว่าใน 10 ปีจะทำให้เกิดวิสาหกิจเพื่อสังคมกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งเชื่อว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้พิการ 2 ล้านคน ผู้สูงอายุ 12 ล้านคน ผู้ด้อยโอกาส 5 ล้านคน รวม 19 ล้านคน สามารถเปลี่ยนสถานะจากภาระของสังคมเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และพึ่งพาตัวเองได้ ทำให้ประชาชนที่ขาดแคลนเงินเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม และเกิดระบบรองรับมาตรฐานและระบบประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินโครงการทางสังคม ส่งเสริมการตลาดแลละการลงทุนทางสังคมในระยะยาว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |