“โรยัล คานิน” โหมโปรโมทแบรนด์มองตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตได้มาก


เพิ่มเพื่อน    

“โรยัล คานิน” จัดเต็มงบตลาด 200 ล้านบาท เร่งเกมสร้างแบรนด์ไปยังคนรักสัตว์มากขึ้น เผยโอกาสของธุรกิจอาหารสุนัขและแมวยังมี เนื่องจากการเข้าถึงยังน้อย และกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายสูง

น.สพ.จดล สุวรรณฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจอาหารสำหรับสุนัขและแมวภายใต้แบรนด์ "โรยัล คานิน" (ROYAL CANIN) จากประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ในปี 2561 เตรียมใช้งบประมาณมากกว่า 200 ล้านบาทในการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ รวมถึงให้ลูกค้าได้รู้จักและทดลองสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยจะเน้นในเรื่องการสื่อสารการตลาดครบวงจร ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ มีเป้าหมายให้ผู้เลี้ยงมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมวที่แตกต่างจากคนและเปลี่ยนมาใช้อาหารสำเร็จรูปแทนการให้อาหารปรุงเอง เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้อย่างน้อย 15%

สำหรับโอกาสการเติบโตของธุรกิจอาหารสุนัขและแมวในประเทศไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสำคัญคือประเทศไทยยังมีอัตราการเข้าถึงอาหารสำเร็จรูปในเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างต่ำ คือสุนัข 22.4% และแมว 46.7% จึงเตรียมแผนในการขยายตลาดกลุ่มโภชนาการเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้เลี้ยง รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเน้นทำการตลาดเชิงรุกด้วยการตลาดเชิงดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต

ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดอาหารสุนัขและแมวมีการเติบโตต่อเนื่อง เป็นเพราะพฤติกรรมคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมและไลฟ์สไตล์ เช่น การแต่งงานช้าและน้อยลง อัตราการมีบุตรลดลง การดำรงสถานะโสดมากขึ้น การอยู่อาศัยในลักษณะครอบครัวเชิงเดี่ยว หรือการอาศัยเพียงลำพังมากขึ้น ตลอดจนการเริ่มเป็นสังคมผู้สูงวัย ทำให้ผู้คนนิยมเลี้ยงสุนัขและแมวได้รับเพื่อทดแทนเพื่อน หรือลูกหลานมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงยังมีความใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยสัตว์เลี้ยงมากขึ้น และมีกำลังซื้อสูงทำให้มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดสินค้าและบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มอาหารสุนัขและแมวมีมูลค่ามากกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดประมาณ 45% โดยมีผู้ผลิตและผู้นำเข้ามากกว่า 20 แบรนด์ ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของจำนวนสัตว์เลี้ยงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2560 ประเทศไทยมีจำนวนสุนัขและแมวรวมมากกว่า 12 ล้านตัว แบ่งเป็นสุนัข 8 ล้านตัว และแมว 4 ล้านตัว จึงคาดว่าในปี 2561 ตลาดอาหารสุนัขและแมวจะเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% โดยตลาดอาหารแมวมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงกว่าอาหารสุนัข


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"