18 ม.ค. 61 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ รายการ "เข้าใจตรงกันนะ" ช่วงหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชนะคีดที่เป็นโจทก์ฟ้อง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกคำสั่งปลดออกจากราชการทหารย้อนหลังถึง 23 ปี ว่านายอภิสิทธิ์ คงยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช)ให้ฟื้นคดีตามที่พูดไว้ โดยอ้างคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นหลักฐานใหม่หลังป.ป.ช.เคยมีมติยกคำร้องเอาผิดพล.อ.อ.สุกำพลไปแล้ว ไม่ต่างกันกับที่ตนเรียกร้องต่อป.ป.ช.ให้รื้อฟื้นคดีนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ สลายการชุมนุมนปช.ปี 53 ซึ่งเราพบว่ามีหลักฐานใหม่เช่นกัน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่านายอภิสิทธิ์ โชคดี ก็ประกาศดีใจกันไป ไม่ว่าอะไรกัน เพราะเมื่อศาลฎีกาพิพากษาอย่างไรก็ถือเป็นข้อยุติ ต้องเคารพในคำพิพากษา ที่ตนบอกว่าโชคดี คือพ้นจากตำแหน่งราชการมา 23 ปี ศาลท่านก็วินิจฉัยว่าพล.อ.อ.สุกำพลจะไปปลดย้อนหลังไม่ได้ เพราะคุณอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว
เขายกกรณีนางสางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่กลับถูกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ถอดถอน ทั้งที่ไม่ได้มีกฎหมายให้อำนาจไว้ตรงๆ ว่ามีอำนาจ แต่ตีความกันเองว่ามีอำนาจ คำว่าถอดถอนกับคำว่าปลดในทางการเมืองมีจุดร่วมกันคือถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองทั้งคู่ เพียงแต่นายอภิสิทธิ์ เมื่อศาลฎีกาพิพากษาออกมากก็มีความมั่นใจเรื่องสถานะทางการเมือง แต่กรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ โดนไม่รู้กี่ดาบ จนต้องไปพำนักอยู่ต่างประเทศ
แกนนำนปช.ผู้นี้กล่าวอีกว่า กรณีนายอภิสิทธิ์ มีการถกเถียงตรวจสอบกันมาตลอด ถามกันไปถามกันว่าได้ผ่านการเกณฑ์ทหารหรือไม่ จนนายอภิสิทธิ์ยอมรับในสภาว่าไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ แต่ว่าได้ไปสมัครเข้ารับราชการ เป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย ก็ลาออก แล้วนำมาอธิบายว่าได้สิ้นพันธะทางทหารแล้ว
“คำถามมันจึงเกิดว่าหลักฐาน เอกสารที่นายอภิสิทธิ์ใช้เข้ารับราชการนั้น เป็นของจริงหรือชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และหากมีใครสักคนใช้เอกสารหลักฐานปลอมไปสมัครเข้ารับราชการแล้วไปเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนนายร้อยมันมีความชอบธรรมที่จะประกาศว่าตัวเองถูกต้องหรือไม่ เรื่องนี้มีคนจำนวนมากเห็นว่าเป็นปัญหา แต่คนอีกส่วนหนึ่งมองว่าไม่เป็นอะไร ขอให้เป็นคนดีก็ใช้ได้ ทั้งที่ในใจบางคนก็รู้ว่าเรื่องนี้มีปัญหา” นายณัฐวุฒิ กล่าวและว่าคำถามดังกล่าวมีความหมาย ซึ่งไม่ใช่การฟื้นฝอย หากคิดเช่นนี้สังคมไทยจะเหนื่อย ต้องใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึกว่าฝ่ายใครฝ่ายมัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |