จับตากลุ่มแบงก์ทยอยแจ้งงบไตรมาส 2 ปี 61 คาดรายได้หด หลังประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แบงก์ใหญ่หนักสุด กสิกร, กรุงไทย และไทยพาณิชย์
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.นี้ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง จะเป็นกลุ่มแรกที่ทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 61 ต่อ ตลท. โดยคาดว่าแต่ละแห่งจะได้รับผลกระทบจากการประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนใช้ช่องทางดังกล่าวมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธนาคารที่ได้จากค่าธรรมเนียมจะปรับลดลง
รายงานข่าวจาก บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยกเว้นค่าธรรมเนียม สำหรับการทำธุรกรรมทางโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ต ตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด และเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่การตั้งสำรองกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้โอกาสการปรับลดการตั้งสำรองน่าจะมีจำกัด
ทั้งนี้ คาดว่าธนาคารกสิกรไทย จะได้รับผลกระทบสูงสุดจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมจะมีกำไรลดลงมากที่สุด 19% จากไตรมาสก่อนหน้า รองลงมาคือ ธนาคารกรุงไทย ลดลง 14% และธนาคารไทยพาณิชย์ ลดลง 10% ส่วนธนาคารกรุงเทพ อาจทำรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากการขายผลิตภัณฑ์เอไอเอ และสัดส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ต่ำกว่า ทำให้คาดว่ากำไรลดลงเพียง 6%
ขณะที่ ผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กมีน้อยกว่า แต่ยังมีปัญหา โดยคาดว่ากำไรของธนาคารทิสโก้ จะลดลง 1% จากไตรมาสก่อนหน้า หลังจากโอนพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลไปให้กับธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ขณะที่ รายได้ของธนาคารเกียรตินาคิน อาจหดตัวลง 1% เนื่องจากรายได้จากตลาดทุนมีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามราคาสินทรัพย์ที่ผันผวนในไตรมาส 2 ปี 61 ส่วนบมจ.ทุนธนชาต (ธนาคารธนชาต) ที่สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่หมดอายุ อาจทำให้กำไรสุทธิ ลดลง 10%
รายงานข่าวจาก บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า กำไรไตรมาส 2 ปี 61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งที่ศึกษา คาดว่าจะอยู่ที่ 46,600 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังเพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียม สำหรับธุรกรรมออนไลน์ที่หายไปในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ส่งผลให้คาดการณ์รายได้ค่าธรรมเนียม ไตรมาส 2 ปี 61 ลดลง 10.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 0.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังจะได้รับปัจจัยสินเชื่อ มาช่วยหักล้างผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ยังเป็นทิศทางลงต่อเนื่องได้บางส่วน เนื่องจากแรงส่งการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ การใช้จ่ายของภาคเอกชนและภาครัฐ รวมถึงภาคการส่งออกที่ยังเติบโตต่อเนื่อง จะส่งผลบวกต่อแนวโน้มความต้องการสินเชื่อในปี61-62 เดินหน้าฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี60 นำด้วยการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |