วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้คนทั่วทั้งโลกจ้องมองมาที่ประเทศไทย เพราะปฏิบัติการลำเลียง 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ที่เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงสาย เป็นการนับถอยหลังที่สุดระทึก! ท่ามกลางกระแสข่าว 4 คนแรกจะได้ออกมาก่อน บวกกับคำแถลงข่าวของ "ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร" ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.)  ที่ใครได้ฟังแล้ว ยอมรับว่า ต้องลุ้น! ...๐

      “วันนี้พร้อมที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ดำน้ำ 13 คนได้เข้าปฏิบัติ และซีล 5 คนเข้าไปช่วยตั้งแต่เวลา 10.00 น. เพราะน้ำต่ำสุดในรอบกว่า 10 วัน และพายุลูกใหม่กำลังเข้ามา หากเรารอเราจะเหนื่อยอีก ความพร้อมของน้อง 13 คนก็สูงมาก เด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น น้องๆ พร้อมออกมาด้วย และรับทราบแล้ว เขายืนยันว่าเขาพร้อมจะออกมา ซึ่งครอบครัวทั้ง 13 คนก็ทราบแล้วและเห็นด้วย ส่วนทีมการแพทย์และทีมปฏิบัติการก็ซ้อมมา 3-4 วัน ก็ขอให้ทุกคนรอฟังข่าวและช่วยให้ประสบความสำเร็จ 100% โดยเร็วที่สุดคนแรกน่าจะออกมา 3 ทุ่ม และจะทยอยออกมาจนครบ” ช่วงเย็นถึงจะได้ข่าวดี หมูป่าคนที่ 1, 2, 3 ได้รับความช่วยเหลือตามมาติดๆ ตั้งแต่เวลา 17.37 น., 17.50 น. และ 18.06 น. ทีมแพทย์รับตัวเข้าดูแลทันทีที่โรงพยาบาลสนามตั้งแต่บริเวณหน้าปากถ้ำ ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พบว่าทั้ง 3 คนร่างกายแข็งแรงดี ...๐ 

      พล็อตเรื่องยิ่งกว่าหนังฮอลลีวู้ด มีทั้งบีบ ผ่อนคลาย ลุ่นระทึก แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เอนดิ้ง นี่จึงเป็นสาเหตุให้เรื่องราวของ 13 หมูป่าติดถ้ำได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และข่าวนี้จะเป็นหนึ่งในข่าวที่มีผู้คนติดตามมากที่สุดเป็นอันดับแรกๆ ของโลกในปีนี้ แต่ประเด็นสำคัญคือ เมื่อเสพข่าวแล้ว มวลมนุษยชาติได้อะไรจากกรณีนี้บ้าง คำตอบคือ สำหรับมนุษย์ทุกคนได้รับบทเรียนที่สุดแสนจะคุ้มค่า ...๐

      บทเรียนแรกมนุษย์ไม่อาจเอาชนะธรรมชาติได้ ทำได้แค่ประคับประคองบรรเทาให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่อาจยุติความสูญเสียได้ อย่างไรก็ตาม  1 ชีวิตที่สูญเสียไปคือ "จ.อ.สมาน กุนัน" ก็มิได้เสียเปล่า แต่นำมาซึ่งแบบอย่างที่ดีที่มนุษย์ผู้อื่นควรเอาแบบอย่าง นั่นคือ การช่วยเหลือผู้อื่นโดยมิหวังสิ่งตอบแทน แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต จะนำมาซึ่งโลกที่มีแต่ความเอื้ออาทรระหว่างกัน ส่วนบทเรียนการกู้ภัยในถ้ำที่เต็มไปด้วยน้ำเช่นถ้ำหลวงนี้ หน่วยกู้ภัยทั่วโลกต้องศึกษา เพราะไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำรอยที่ใดที่หนึ่งในโลกใบนี้ก็ได้ ...๐

      การกู้ภัยครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากนักดำน้ำชั้นเยี่ยมจากหลายประเทศ เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยจากชาติต่างๆ บุคคลสำคัญระดับโลกทั้งระดับรัฐบาล บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ ต่างให้ความสำคัญกันจำนวนมาก นี่ก็เป็นการถอดบทเรียนว่ามนุษย์ไม่อาจอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ เมื่อเกิดวิกฤติต่างก็ให้ความช่วยเหลือ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แม้จะเป็นศัตรูกัน แต่ยามวิกฤติการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้น มักพาทุกฝ่ายฝ่าวิกฤติไปได้เสมอ ...๐

      ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า หลายคนต้องได้รับการยกย่อง ไม่ว่าจะเป็นทีมกู้ภัย นักดำน้ำ นักปีนเขา  เจ้าหน้าที่ขุดเจาะ หน่วยแพทย์ ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ฯลฯ คงจะกล่าวในที่นี้ไม่หมด ทุกคนต้องได้รับการยกย่องชมเชยว่าได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ในการกู้ภัยครั้งใหญ่และยากที่สุดในโลกครั้งหนึ่ง และจะถูกจารึกไปอีกนาน ...๐

      "อีลอน มัสก์" (Elon Musk) ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง Tesla, SpaceX และ Boring Company เป็นอีกคนที่ต้องนับถือในน้ำใจ นอกจากแสดงความเห็นว่า "นี่เป็นทีมนักประดาน้ำที่เก่งกาจสุดๆ เป็นเรื่องเหมาะสมแล้วที่ได้ตัดสินใจช่วยตอนนี้ เพราะมรสุมกำลังมา โชคดีจงมีแด่ทุกคน" แล้ว  “อีลอน มัสก์” ได้ระดมทีมวิศวกรของ SpaceX ออกแบบสด พร้อมระดมคนงาน 30 คน และลดงานในโรงงานลงครึ่งหนึ่ง เพื่อประกอบด่วนจนเสร็จและส่งถึงหน้างานทันเวลา แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าทีมหมูป่าได้ใช้บริการหรือไม่ แต่ "อีลอน” บอกว่า “โครงการนี้ยังคงเดินหน้าต่อ ถึงจะไม่ได้ใช้ตอนนี้ แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจต้องใช้ก็ได้” และนี่คือการถอดบทเรียนที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้การช่วยเหลือในกรณีอื่นๆ หลังจากนี้ ...๐