คนนับหมื่นบุกบ้านหมอแสงที่ปราจีนฯ ค้างคืนรอรับสมุนสมุนไพรรักษามะเร็ง หลังปากต่อปากยืนยันรักษาโรคร้ายให้หายได้ชะงัด ไม่วายทรชนฉวยโอกาสหากิน เรียกรายละพันห้าอ้างแลกบัตรพิเศษไม่ต้องต่อคิว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง เจ้าของฉายา "หมอเทวดา" ที่ ต.บางเดชะ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี คลาคล่ำไปด้วยผู้ป่วยและญาติเรือนหมื่นคน ตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อรอรับแจกยาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่าหลายคนรับประทานแล้วโรคร้ายหายขาด โดยทางทีมงานของหมอแสงเริ่มแจกบัตรคิวตั้งแต่เวลา 22.00 น. และเริ่มแจกจ่ายสมุนไพรตั้งแต่เวลา 02.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ทีมงานหมอแสงได้แบ่งการแจกสมุนไพรเป็น 3 กลุ่ม คือ ผู้ป่วยเก่าที่มารอรับด้วยตนเอง ผู้ป่วยที่เคยมา แต่ให้ญาติมารับแทน และผู้ป่วยเพิ่มที่เพิ่งมาครั้งแรก ซึ่งหมอแสงยืนยันว่าทุกคนที่ผ่านการคัดกรองจะได้รับสมุนไพรแน่นอน
กระทั่งเช้าวันอาทิตย์ยังมีผู้เข้าคิวรอรับสมุนไพรอีกจำนวนมาก บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทำให้การแจกสมุนไพรคล่องตัวและรวดเร็วขึ้น ขณะที่จำนวนญาติและผู้ป่วยที่มารับสมุนไพรในวันนี้มีมากกว่าเดือนที่แล้ว ทำให้รถจอดเต็มพื้นที่ 2 ฝั่ง บริเวณหน้าบ้านหมอแสง และยาวไปหลายกิโลเมตร โดยยอดผู้มาขอลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองปราจีนบุรีเพื่อขอรับยาตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ถึงวันที่ 2 ธ.ค. จำนวนกว่า 8,000 ราย ขณะที่วันที่ 3 ธ.ค.มีผู้ดำเนินมาสมทบอีกจำนวนมากจนคาดว่ายอดรวมทั้งสิ้นจะเกินหมื่นคน
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพอ้างว่าสามารถรับยาได้โดยไม่ต้องต่อคิวด้วยการออกบัตรพิเศษ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 1,500 บาท หลังตำรวจทราบข่าวก็ได้ออกตรวจสอบเพื่อจับกุมดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้หมอแสงได้เปิดเผยส่วนประกอบของสมุนไพรที่นำมาแจกจ่ายว่ามีหลายชนิด เช่น รำข้าว ข้าวเย็นเหนือข้าวเย็นใต้ รังนก ถั่งเช่า เกสรดอกพิลังกาสา เห็ดกระถินพิมาน ทั้งนี้ ส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือ รำข้าว มีมากถึงร้อยละ 80 ขณะที่ส่วนประกอบอื่นๆ ยังนำมาใช้ไม่ได้ทันที ต้องนำมาหมักรวมกันนานถึง 6 เดือน แล้วนำมาผสมกับรำข้าว ก่อนอัดเป็นแคปซูล
เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นำหมอแสงเปิดแถลงข่าว ระบุว่า ที่ผ่านมาประชาชนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งจากทั่วประเทศได้เดินทางไปรับยาสมุนไพรจากหมอแสงเดือนละกว่า 5 พันคน กรมการแพทย์แผนไทยฯ เห็นว่าข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ เพราะมีสมุนไพรจำนวนมากสามารถนำมาพัฒนาเป็นยารักษาโรคได้ จึงได้ประสานกับหมอแสง และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการวิจัยพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้เกิดความชัดเจน ว่าสมุนไพรของหมอแสงมีประสิทธิผลและความปลอดภัยหรือไม่ โดยระยะแรกรู้ผลภายใน 3 เดือน หรือมีนาคมปีหน้า หากผลเป็นบวก ไม่มีอาการข้างเคียงหรืออันตราย จะนำมาพัฒนาและศึกษาวิจัยในคนต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน
ขณะที่หมอแสงเปิดเผยว่า ได้มีต่างชาติติดต่อขอซื้อสมุนไพรที่ตนคิดค้นขึ้น แต่ไม่ขาย เพราะอยากทำเพื่อแผ่นดินไทย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |