หนุ่มใหญ่วัย 57 ยิงแสกหน้าฆ่าแม่บ้านห้องเช่า เหตุเพราะแค้นทวงค่าเช่าที่ติดค้างมาหลายเดือน ตำรวจเข้าตรวจสอบเจอปืนขู่ ใครเข้ามา-ยิง ผบช.น.นำหน่วยอรินทราชเข้าเจรจาไม่เป็นผล ต้องใช้ไปป์บอมบ์เบิกทางหลังมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พบคนร้ายระเบิดขมับหนีผิด พบพกปืนถึง 4 กระบอก
    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 กรกฎาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขันรับแจ้งเหตุหญิงถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 68/14 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. จึงไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 4 ชั้น ลักษณะคล้ายทาวน์โฮม แบ่งให้เช่า ทราบว่าผู้ตายคือนางศิริพร โภชนดา อายุ 63 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าผาก นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณชั้นล่าง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปชันสูตรพลิกศพ เพราะคนร้ายผู้ก่อเหตุคือนายปิยะวัฒน์ เมษศิริเลิศ อายุ 57 ปี ผู้เช่าอยู่ในห้องพักชั้น 3 ได้ตะโกนออกมาว่า หากใครเข้าไปในบ้านพักจะยิงทันที ทั้งยังขู่ว่าจะยิงตัวตายด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้แต่ปิดล้อมบริเวณดังกล่าวไว้
    กระทั่งเวลาเที่ยงเศษ ตำรวจ สน.บางยี่ขันพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายปิยะวัฒน์มอบตัว แต่ไม่เป็นผล และสังเกตเห็นว่านายปิยะวัฒน์ถือปืนลูกซองโดยยังเหน็บปืนพกไว้ที่เอว และมีข้อมูลจากเพื่อนบ้านระบุว่านายปิยะวัฒน์อดีตเป็นตำรวจ แต่ไม่ทราบยศอะไร เจ้าหน้าที่จึงประสานหน่วยอรินทราชเข้าระงับเหตุ 
    ต่อมา พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.บุญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 พร้อมตำรวจหน่วยอรินทราช และตำรวจ สน.บางยี่ขัน เข้าปิดล้อมอาคาร 4 ชั้น และพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายปิยะวัฒน์ยอมมอบตัว แต่ในที่สุดก็มีเสียงปืนจากในห้องที่นายปิยะวัฒน์ซ่อนตัวอยู่ดังขึ้น 1 นัด จากนั้นมีเสียงระเบิดดังตูมใหญ่ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายปิยะวัฒน์นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าชันสูตรพลิกศพแล้ว
    นางศิริวรรณ โภชนดา น้องสาวนางศิริพร เปิดเผยว่า พี่สาวเป็นคนดูแลห้องพักให้กับเจ้าของอาคาร เคยมีปากเสียงกับคนร้ายเรื่องความสะอาดของห้องพัก โดยคนร้ายพักอาศัยที่นี่มานานกว่า 5 ปี ไม่เห็นประกอบอาชีพอะไร จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ พบว่าได้ยินเสียงปืนตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.ค. แต่ไม่มีใครติดใจสงสัย กระทั่งเช้าวันที่ 5 ก.ค. นางศิริพรหายตัวไป จึงเข้าไปตรวจสอบภายในอาคาร พบว่าถูกล็อกกุญแจข้างใน เข้าใจว่าหมดสติ จึงเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาตรวจสอบและพบศพดังกล่าว
    หลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.ท.ชาญเทพเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานได้ความว่า สาเหตุที่นายปิยะวัฒน์ก่อเหตุน่าจะมาจากความเครียด เนื่องจากไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรและติดค้างค่าเช่าห้องมาหลายเดือน ถูกนางศิริพรทวงค่าเช่าหลายครั้งจนมีปากเสียงกันมาตลอด ส่วนสถานะทางครอบครัวหย่ากับภรรยานานแล้ว โดยมีลูกชาย 1 คน เมื่อถูกทวงค่าเช่าบ่อยครั้งคงสะสมความเครียดจนระเบิดและก่อเหตุดังกล่าว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเวลา 14.00 น. ได้จัดชุดเจรจากับนายปิยะวัฒน์ แต่นายปิยะวัฒน์ไม่ยอมคุยด้วย เพียงแต่บอกว่าขอเวลาจนถึง 15.00 น. กระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนจึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์โดยการปาไปป์บอมบ์เบิกทางตามยุทธวิธี 1 ลูก ไม่ได้ยิงปืนแต่อย่างใด จนควันจางก็พบว่านายปิยะวัฒน์นอนเสียชีวิตทับปืนพกของตัวเอง มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับ ทั้งนี้ ภายในห้องพบปืนทั้งปืนพกและปืนยาวรวม 4 กระบอก จึงต้องตรวจสอบว่าครอบครองถูกกฎหมายหรือไม่
    ผบช.น.กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ยังพบจดหมายที่นายปิยะวัฒน์เขียนสั่งเสียลูกชายทิ้งไว้ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่านายปิยะวัฒน์ฆ่าตัวตาย ส่วนที่มีข่าวว่าเป็นอดีตตำรวจนั้น ในเบื้องต้นไม่พบว่าเป็นตำรวจ แต่จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง.