5 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปีโรงเรียนเดียวกัน โดยมีหลักฐานการแชตพูดคุยกันทางไลน์ของทั้งคู่ ซึ่งสนทนากันในเชิงชู้สาวข้อความหวานซึ้ง ต่างฝ่ายต่างเรียกกันและกันว่า ที่รัก ขณะที่ตัวของ ผอ.โรงเรียน ก็เรียกนักเรียนหญิงว่า เมีย
โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมนครราชสีมา เขต 6 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้แล้ว หลังได้ลงพื้นที่โรงเรียนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว มีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงลักษณะแอบคบหากันฉันชู้สาว พร้อมสอบปากคำคณะกรรมการสถานศึกษาคณะครู ผู้ปกครอง และเพื่อนของเด็กนักเรียนหญิงที่เป็นข่าว โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทางศึกษาธิการจังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับสั่งย้ายและพักราชการ ผอ.คนดังกล่าว และตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 9 คนพิจารณาความผิดด้วยความเป็นธรรมและกลั่นกรองตัดสิน ผอ.คนดังกล่าว ตามที่มีข่าวเสนอไป
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ ที่ห้องประชุมศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา โดยมีพลเอกมารุต ลิ้มเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา และคณะอนุกรรมการ รวม 9 คน อาทิ นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา , นายทอง วิริยะจารุ กรรมการฯ ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาที่มานายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน
โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียดมีการพิจารณากันอย่างรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมอย่างที่สุด โดยเบื้องต้นในชั้นของคณะอนุกรรมการฯชุดใหญ่มีมติเป็นเอกฉันท์เสนอว่า ให้ลงโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก ส่วนประเด็นอาญาก็ให้ว่ากันไป หรือหากมีเรื่องอย่างอื่นก็ว่าไป ในส่วนนี้คือการหาหนทางดูแลเด็ก เนื่องจากเด็กถือว่ายังเป็นผู้เยาว์วัยอยู่และให้เด็กได้ศึกษาจนจบ ตรงนี้คือสิ่งที่ทุกคนเป็นห่วง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด
พลเอกมารุต เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เรื่องการลงวินัยร้ายแรง ผอ.ให้ไล่ออก เราพิจารณาให้ความยุติธรรมด้วยความรอบด้านรอบครอบอย่างดีที่สุด ซึ่งเราดูจากเหตุจากผลของผลการสอบสวนที่ออกมา เราก็ว่าไปตามนั้น และยังมีคณะกรรมการสอบสวนที่เขตการศึกษาฯตั้งขึ้น เราได้นำมาพิจารณาประกอบการสอบสวนและคำให้การของแต่ละคนที่เราตั้งลงไปสอบสวนแล้วนำเข้ามาพิจารณาในชั้นของคณะอนุกรรมการชุดใหญ่วันนี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบลงโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก
"จากนี้ไปก็จะเสนอคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา หรือ กศจ. ที่มีผู้ว่าฯนครราชสีมาเป็นประธานในวันที่ 12 กรกฏาคมนี้ ในส่วนของเราได้ข้อสรุปแบบนี้ถือว่า จบเพียงแค่นี้ ส่วน กศจ.จะตัดสินใจอย่างไรเป็นดุลยพินิจที่ประชุมใหญ่ต่อไป"พลเอกมารุต กล่าวและว่า คณะกลั่นกรองชุดใหญ่ ซึ่งคณะเราเหมือนกับเป็นคณะกลั่นกรองให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสอบสวนที่ กศจ. ได้ตั้งลงมาขั้นต่อจากนี้ไปก็จะเสนอขึ้นไปให้กับ กศจ.นครราชสีมาตัดสิน ตรงนั้นจะถือเป็นที่สิ้นสุดว่า จะไล่ออกตามที่เสนอหรือไม่หรือจะปลดออกก็มีเท่านี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |