5 ก.ค.61 - เมื่อเวลา 09.45 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าการนำตัว 13 เยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ออกมาจากถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ว่า ขณะนี้เรากังวลที่สุดคือ สภาพอากาศ โดยกำลังให้กรมอุตุนิยมวิทยาประเมินสถานการณ์ทุกวันว่าในแต่ละวันจะมีกลุ่มเมฆหรือปริมาณฝนตกบริเวณนี้เท่าไร ก่อนหน้านี้เราทำงานแข่งกับเวลา แต่ตอนนี้เราแข่งกับน้ำ ซึ่งเราสูบเต็มศักยภาพที่เรามีอยู่ แต่ยังมีน้ำเติมเข้ามาได้

สำหรับภารกิจหลักของวันนี้คือ สูบน้ำเหมือนเดิม กับการคำนวณตำแหน่งเนินนมสาว จะเทียบกับพิกัดบนผิวดินกับจุดที่เด็กอยู่ว่าจริงๆ อยู่ตรงไหน เรากำลังหาตำแหน่งที่ตรงหรือใกล้ที่สุดกับจุดที่เด็กอยู่ เอาแบบที่สามารถเข้าไปได้เลย วันนี้จะระดมสรรพกำลังทั้งหมดไปอยู่ตำแหน่งที่คาดว่าตรงกับจุดที่เด็กอยู่ในถ้ำ ซึ่งเรามีอุปกรณ์บนภูเขาอยู่แล้ว

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการเข้าออกจากปากถ้ำไปถึงจุดที่เด็กอยู่ ใช้เวลา 11 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามวันนี้โฟกัสทั้งหมดอยู่ที่ตัวเด็กกับอยู่ที่ทีมที่จะไปนำเขาออกมา ส่วนเรื่องแผนนั้นเราจะดูสภาพอากาศ จะต้องประเมินว่าถ้าปริมาณฝนเติมเข้ามาแล้วน้ำขึ้นเรามีเวลากี่ชั่วโมง กี่วัน เพื่อไม่ให้กลับไปสู่สถานการณ์เดิมคือ น้ำเต็มอีก ตอนนี้น้ำลดลงไปมาก ถ้าเราไม่สามารถรักษาความได้เปรียบตรงนี้ได้น้ำจะไหลเติมเข้าไปอีก ที่น่ากลัวคือ ต้องคำนวณสภาพอากาศทุกวันว่าน้ำจะเติมเข้าไปในถ้ำเท่าไร เราจะมีเวลากี่ชั่วโมง เพราะว่าเราจะเสี่ยงให้น้ำท่วมไม่ได้ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำในถ้ำหลวงฯ ตอนนี้ลดลง 1 เซนติเมตรกว่าต่อชั่วโมง

“วันนี้ให้เตรียมอุปกรณ์ 13 ชุด ว่าถ้าจะต้องออกมาในสภาพที่ความพร้อมไม่ 100% และ ณ กี่เปอร์เซ็นต์ที่เท่าไรเป็นความเสี่ยงที่เราจะรับได้ เช่น ถ้าสภาพทั่วไปโดยรอบบอก 90% เรากู้ได้ ถ้าตกถึงสภาพ 90%  เราจะเอาออกเลย อันนี้คือความพร้อมของเรา วันนี้เราประเมินหมดแล้ว เราต้องการตัวเลขอย่างเดียวว่าแต่ละอย่างนั้นต้องการกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าเข้าตรงนี้ล็อกปุ๊บเราจะปฏิบัติการ แต่ที่สิ่งที่เป็นตัวเร่งเราคือ น้ำจะเติมเข้ามา ตนกังวลเรื่องฝน วันนี้ประเมินหมด เมื่อประเมินแล้วถึงแม้ไม่พร้อมกี่เปอร์เซ็นต์ เราก็ต้องมาดูว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เราต้องทำแผนอะไร เช่น อุปกรณ์กี่ชุด คนประกบกี่คน โดยเราจะเช็กลิสต์ทั้งหมดเพื่อประเมินความพร้อมตรงนี้”

เมื่อถามถึงระยะเวลาในการฝึกเด็กดำน้ำต้องใช้เวลาเท่าไร นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เพิ่งผ่านไปวันกว่าๆ คนที่ไม่เคยฝึกดำน้ำมาก่อนเลยคงไม่ง่ายนัก ต้องให้ครูฝึกประมาณว่าเขามีศักยภาพแค่ไหน จึงยืนยันเวลาไม่ได้ ส่วนร่างกายเด็กยังแข็งแรงดีอยู่ ยังยิ้มแย้มแจ่มใส ยังเล่นกันได้อยู่

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเช้าวันนี้พบว่ามีกลุ่มอาสาสมัครไปขุดเจาะน้ำแล้วอัดน้ำกลับเข้าไป ไม่แน่ใจว่ามีวัตถุประสงค์ใด อาจจะมองว่ามันเป็นวิธีที่อัดแล้วน้ำจะออกได้อีกทางหรือไม่ ซึ่งเราได้รับรายงานมาและกำลังตรวจสอบอยู่ โดยอยากแจ้งว่าอะไรที่อยู่นอกแผนอยากให้มาคุยกันก่อน อย่าทำโดยพลการ

พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สำหรับการนำข้อมูลออกมาจากจุดที่เด็กอยู่ ใช้เวลา 11 ชั่วโมง โดยหน่วยซีลใช้เวลาดำน้ำขาเข้า 6 ชั่วโมง และขาออกใช้เวลา 5 ชั่วโมง ทั้งนี้ หน่วยซีลที่ในจุดที่เด็กอยู่ จะไปหาข้อมูลให้เราทราบว่าเนินที่เป็นปล่อง หรือจุดที่คาดว่าจะมีอากาศภายนอกเข้ามาอยู่บริเวณไหนอีกทาง และหน่วยบนภูเขาจะไปดูเฉพาะจุดที่หน่วยซีลให้ข้อมูล เพื่อนำไปสู่การถึงตัวเด็กให้เร็วที่สุด ยืนยันว่าเรายังทำงาน 24 ชั่วโมง

พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 กล่าวว่า เรื่องการพร่องน้ำขณะนี้เรายังสามารถคุมสถานการณ์ได้ โดยการระบายน้ำที่ถ้ำทรายทำได้ 1,600,000 ลิตรต่อชั่วโมง ส่วนการเจาะบ่อบาดาล มีจำนวน 10 บ่อทำได้บ่อละ 200,000 ลิตรต่อชั่วโมง ส่วนบริเวณหน้าถ้ำหลวงฯ 3 บ่อ บ่อละ 180,000 ลิตรต่อชั่วโมง เราทำเต็มกำลังทั้งหมด ซึ่งจนถึงปัจจุบันเราสามารถผันได้ประมาณ 128,000,000 ลิตร ที่ผันออกจากใต้ดินไป

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า วันนี้ (5 ก.ค.) ภารกิจหลักของเราคือ การเดินขึ้นข้างบนภูเขาเพื่อหาจุดที่คิดว่าเราสงสัยที่สุด และจะปูพรมตรงนั้น