“ทักษิณ” โดนหมายจับใบที่ 4 แล้ว ศาลฎีกาให้เวลา 3 เดือนล่าตัวในคดีให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่า 4 พันล้าน คิดดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน “เสี่ยไก่” ภาคเสธผิด พ.ร.บ.คอมพ์ พร้อมเดินหน้าวิจารณ์ต่อ
เมื่อพุธที่ 4 ก.ค. องค์คณะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดพิจารณาครั้งแรกคดีหมายเลขดำ อม.3/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการกรณีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ให้รัฐบาลพม่า (ในขณะนั้น) วงเงิน 4,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนของ ธสน. โดยคดียื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2551 และในวันที่ 16 ก.ย.2551 ศาลฎีกานัดพิจารณาครั้งแรก ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ (ยศขณะนั้น) ไม่มา จึงให้จำหน่ายคดีชั่วคราวและออกหมายจับ และหลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2560 ทำให้ศาลฎีกาสามารถรื้อฟื้นพิจารณาต่อไปได้ลับหลังจำเลย
โดย ป.ป.ช.โจทก์ได้เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมา องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นว่า นายทักษิณทราบนัดโดยชอบแล้วไม่เดินทางมาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือแจ้งเลื่อน มีพฤติการณ์ควรเชื่อว่าหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ กำหนดไว้ 3 เดือน หากไม่สามารถจับกุมได้ ศาลมีอำนาจให้ดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่ต้องทำต่อหน้าจำเลย แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการต่อสู้คดี และให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 31 ต.ค.2561 เวลา 09.00 น. โดยให้โจทก์ยื่นบัญชีพยานหลักฐานก่อนวันนัดไต่สวนไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้ส่งหมายแจ้งให้จำเลยทราบ หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมายต่อไป
สำหรับคดีนี้เป็นการออกหมายจับใบที่ 4 ในการให้ติดตามจับกุมนายทักษิณเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี หลังรื้อฟื้นคดีของนายทักษิณขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยก่อนหน้านี้มีคดีออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต, คดีร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษดามหานคร และคดีฟื้นฟูทีพีไอ
วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.นวพล พัฒนิบูลย์ รอง สว.(สอบสวน) กอง กก.3 บก.ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กรณีวิจารณ์รัฐบาลดำเนินคดีกับเจ้าของเพจ KonthaiUk (คนไทยยูเค) ที่แสดงความเห็นในเรื่องการซื้อดาวเทียมไธอา (THEIA) จากสหรัฐอเมริกามูลค่า 91,200 ล้านบาท
โดยนายวัฒนายืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แค่วิจารณ์การใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งมั่นใจว่าตัวเองและเจ้าของเพจไม่ผิด ถ้าประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ภาษีของเขาไม่ได้ แล้วจะมีประเทศนี้ไว้ทำไม โดยการเดินทางมาในวันนี้ เป็นการเข้าพบก่อนกำหนดหมายเรียกในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้ และยืนยันว่าจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
หลังรับทราบข้อกล่าวหาเสร็จ นายวัฒนาย้ำอีกครั้งว่า ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งหลังจากนี้จะทำเป็นลายลักษณ์อักษรในเวลา 30 วัน และหลังจากนี้ก็ยังจะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานรัฐบาลต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |