4 ก.ค.61- เพจ ThaiArmedForce.com รายงานว่าวันนี้นักข่าวต่างประเทศคือคุณ James Longman ผู้โด่งดังได้นำตัวอย่างอาหารห่อสีน้ำตาลมาให้ดู บอกว่าได้มาจากทหารสหรัฐหน้าถ้ำ และเป็นตัวเลือกหนึ่งของอาหารที่จะถูกส่งเข้าไปให้เด็ก ๆ ทานกันในระหว่างที่รอวางแผนการออกจากถ้ำต่อไป

อาหารที่ว่านี้คือ #MRE หรือ Meal Ready-to-Eat ครับ

MRE คืออาหารที่ปรุงสุกเรียบร้อยแล้วบรรจุในซองพร้อมทานนั่นเอง เมนูจะถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความสะดวกในการรับประทาน เพราะใช้วิธีฉีกซองก็กินได้เลย และอาหารจะถูกคำนวณอย่างระมัดระวังว่าจะให้พลังงานเพียงพอสำหรับทหารแต่ละหน่วยที่ต้องใช้ในแต่ละวัน เมื่อพิจารณาจากภารกิจที่ทำ

ปัญหาของ MRE ก็คือ ในเมื่อวัตถุประสงค์หลักคือการมีอาหารกินในสนามรบหรือพื้นที่ยากลำบากโดยไม่ต้องมานั่งทำ วัตถุประสงค์รองจึงกลายเป็นรสชาติ มีคำพูดล้อเลียน MRE ว่ามันไม่ได้ย่อว่า Meal Ready-to-Eat หรอก แต่มันย่อมาจาก Meals Rejected by Everyone (อาหารที่ไม่มีใครอยากกิน) มั่ง Meals Rejected by the Enemy (อาหารที่ข้าศึกก็ไม่กิน) บ้าง หรือ Materials Resembling Edibles (เศษวัสดกินได้) แม้แต่ Meals Ready to Excrete (อาหารที่กินปุ๊บท้องเสียปั๊บ) เมนูก็มีหลากหลายเป็นสิบ ๆ ชนิดเพราะกองทัพสหรัฐมีทหารมากมายหลายเชื้อชาติและหลายความเชื่อ

ในสงครามอ่าวเปอร์เซียร์ครั้งแรก มีเรื่องเล่าว่าทหารสหรัฐบ่นกันว่า จับซัดดัมว่ายากแล้ว กระเดือก MRE ลงท้องนี่ยากยิ่งกว่า นี่คงการันตีรสชาติในแบบที่เชฟมิชลินสตาร์ยังต้องหลบ

กองทัพบกไทยก็มี MRE เหมือนกันครับ กรมพลาธิการทหารบกก็พัฒนาเมนูเช่นพวกข้าวผัดหรือไก่กระเทียม ซึ่งว่ากันว่ารสชาติพอกินได้มากกว่าของอเมริกัน แต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงอาหารตามสั่งที่ร้านสวัสดิการหลังกองพันสักเท่าไหร่ หลัง ๆ ทางกองทัพก็มีการจ้างเหมาะเอกชนให้ผลิต MRE ให้ เนื่องจากเทคโนโลยีของการผลิตอาหารสมัยนี้ค่อนข้างก้าวหน้าแล้ว รสชาติจึงก้าวมาจากว่า "กรูยอมอดดีกว่า" มาเป็น "กินกันตายไปเหอะ" แล้ว

ก็ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่ที่น้อง ๆ จะพร้อมกินอาหารปกติได้ เพราะในช่วงแรกต้องกินอาหารอ่อนเพื่อปรับสภาพก่อน และถ้าได้กินอาหารปกติแล้ว จะกินอะไร และถ้าต้องกิน MRE จริง ไม่รู้ว่าน้อง ๆ จะชอบหรือจะบอกว่าผมขอติดถ้ำกินน้ำหยดต่อดีกว่าหรือเปล่านะครับ.