4 ก.ค. 61 - ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี   เป็นประธานวันสถาปนาหน่วยครบ 68 ปี ซึ่งมีอดีตผู้บังคับการกรมฯ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตนายทหาร เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยมี พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาค1 และ พ.อ.สุทธิชัย ศรลัมพ์ ผู้บังคับการกรม ร.21รอ. ให้การต้อนรับ

สำหรับบรรยากาศในงาน มีอดีตนายทหารที่รับราชการใน ร.21 รอ. ซึ่งเป็นลูกน้องเก่ามารอต้อนรับ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาแม่บ้านที่มารอขอถ่ายรูปโดย นายกฯ กล่าวสั้นๆ ว่า “ดีใจนะที่มาได้เจอกัน ดีใจนะดีใจ ปลื้มใจด้วย “ ขณะที่แม่บ้าน บอกว่า “นายกฯสู้ๆ”

โดย นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ร่วมพิธีสงฆ์ และเป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้กับบุตร-ธิดาของกำลังพล พร้อมทั้งเดินทางไปดูอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมกล่าวกับกำลังพล ว่า ขอให้ดูแลรักษายุทโธปกรณ์เสมือนบ้านตนเอง เพราะราคาแพง เรายังผลิตเองไม่ได้ อีกทั้งเรากำลังจะสร้างศูนย์ซ่อมสร้างเองด้วย แม้ไม่ได้เอามารบก็เอามาช่วยเหลือประชาชนได้ เช่น น้ำท่วม อย่ามาโจมตีกัน

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสร้างสระดำน้ำทางยุทธวิธีทางทะเล หลักสูตรทหารเสือ ว่า  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับสั่งให้ถอดบทเรียนกรณีช่วยชีวิตนักฟุตบอล และโค้ชหมูป่าอะคาเดมี 13 คน ที่ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอง จ.เชียงราย ซึ่งอยากให้หน่วยนำมาประยุกต์กับหลักสูตรการฝึก เพื่อในอนาคตจะได้จัดระเบียบได้  ทั้งนี้หน่วยซีล กู้ภัย และหน่วยต่างๆมาร่วมกัน ถือเป็นกรณีศึกษา ซึ่งการดำน้ำภายในถ้ำไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีช่องแคบต่างๆ หรือต้องถอดถังอากาศบางช่วงด้วย จึงต้องสร้างเพื่อรองรับต่อไป ซึ่งการมาตรวจการก่อสร้างทางว่ายน้ำทางยุทธวิธี ที่ ร.21 รอ. ตรงกับสถานการณ์พอดี ซึ่งจะได้ใช้ในการกู้ภัย ไม่ใช่ไปเป็นพระเอก เพื่อไปสนับสนุน ซึ่งวันนี้ได้มีการจัดกำลังไปเพื่อนำทั้ง 13 คนออกมา

นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน เมื่อเช้านี้ทางร.21 รอ. ได้ส่งกำลังพลที่จบการฝึกหลักสูตรทหารเสือราชินีไปช่วยในภารกิจถ้ำหลวงแล้ว เพื่อไปช่วยหมุนเวียนกำลังของซีล ได้ออกมาพักบ้างและช่วงเย็นนี้จะส่งอุปกรณ์ดำน้ำโดยเฉพาะหน้ากากดำน้ำที่มีประสิทธิภาพเข้าไปเพิ่มเติมด้วย

ส่วนความคืบหน้าการนำเด็กทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำนั้น  มี 2 ทาง คือเจาะโพรงจากบนถ้ำลงมา ต้องหาช่องทางให้เจอซึ่งจะเร็วกว่า และการนำตัวเด็กดำน้ำออกมา แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากถ้ำมีลักษณะคดเคี้ยวไม่ใช่เป็นเส้นตรง ต้องลำเลียงออกทีละคนและต้องดูความพร้อมของเด็กด้วย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะนำตัวเด็กทั้ง 13 คนออกมาจากทำให้เร็วที่สุด แต่ไม่อยากให้ระบุว่าต้องเป็นวันนี้หรือวันไหน

"เรื่องงบประมาณการเยียวยาของภาครัฐ ทางผู้เกี่ยวข้องกำลังบริหารจัดการ และผมจะให้จังหวัดพิจารณาถึงความเหมาะสมในการดูแลเยียวยาจิตใจ ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าเด็กทั้ง 13 คนเป็นฮีโร่ ต้องให้ทั้งจังหวัดเป็นผู้พิจารณาดูอีกทีถึงความเหมาะสม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเด็กทั้ง 13 คนออกมาแล้วต้องเป็นคนดีของสังคมและต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เขาได้กระทำ" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ.