“ลุงตู่” ขนคณะชุดใหญ่เหยียบถิ่น “เมืองสามหมอก” ย้ำไม่ได้มาหาเสียง ปากหวานแค่มาพบครอบครัวที่เคยเยือนตั้งแต่ยศร้อยโท อวย 5 ปีแม่ฮ่องสอนดีขึ้นแน่ ออกลูกอ้อน “อย่าเกลียดผมเลย” ชาวบ้านเชียร์นั่งนายกฯ อีกสมัย เจ้าตัวชี้ให้เป็นเรื่องอนาคต ก่อนเดินสายอธิบายประชาธิปไตยไทยนิยม
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 07.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยเครื่องบิน C-130 ไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจราชการติดตามการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ข้าราชการ และประชาชน มารอต้อนรับ ก่อนเดินทางด้วยรถตู้อัลพาร์ด ทะเบียน 2266 เชียงใหม่ มายัง ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่หอประชุมบุญชู ตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์ฯ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานสักขีพยานมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า มาในนามของนายกฯ ในนามรัฐบาล คสช. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นคณะใหญ่ที่สุดที่เคยมาแม่ฮ่องสอน และเป็นรัฐบาลแรกที่เอาคนมาดูแลมากขนาดนี้
“ไม่ได้ทำเพื่อการเมืองอะไรทั้งสิ้น ท่านคงทราบดีอยู่แล้ว ผมมาที่นี่ตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ยศร้อยโท มากับรัฐมนตรีมหาดไทย และยังมีโอกาสตามเสด็จฯ มาที่นี่ทุกครั้งตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้เข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับ จ.แม่ฮ่องสอนพอสมควร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ ย้ำว่า ที่มาวันนี้นั้น อยากเรียนว่า การพัฒนาประเทศไม่สามารถพัฒนาด้วยระบบพรรคการเมืองได้ทั้งหมด มันเป็นเรื่องของทุกรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลนี้ รัฐบาลหน้า หรือต่อๆ ไปก็ตาม ต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับนโยบายของพรรค คือต้องดูแลคนทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะตามนโยบายพรรค หรือตามที่ ส.ส.ขอไปเฉพาะพื้นที่ของตัวเองเท่านั้น
“กราบเรียนว่ามันไม่ใช่ว่าผมมาเพื่อสร้างคะแนนนิยม ผมจำเป็นต้องมาอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไปมายากลำบาก ซึ่งรัฐบาลต่อไปที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เรียกว่ารัฐบาลหรือประชาธิปไตยไทยนิยม คือทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ต้องได้รับการดูแล มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ละปัญหาและอุปสรรค” นายกฯ ย้ำ
นายกฯ ชี้ว่า จ.แม่ฮ่องสอนน่าจะดีขึ้นได้ภายใน 5 ปี ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด และฝากความหวังเรื่องประชาธิปไตยของเราต่อไปว่า ต้องเป็นการเมืองที่ไทยนิยม คือเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ มีการปฏิรูปประเทศ ที่มีอยู่ 11 เรื่องที่รัฐบาลทำไว้ให้ และใครก็แล้วแต่ที่สืบสานเรื่องเหล่านี้ นั่นแหละประชาธิปไตยไทยนิยม ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นก็ตาม ถ้าเขาไม่ทำก็ค่อยว่ากันอีกที เป็นเรื่องของท่าน เพราะท่านเป็นคนเลือกรัฐบาล ก็ขอให้เลือกให้ถูก อย่าให้เขาพูดว่าอันนี้มาก็ได้ พออีกพวกมาไม่ได้ รัฐบาลทำอย่างนั้นไม่ได้ ต้องทำต่อเนื่องกัน นี่คือยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งไม่ได้ว่าใคร เดี๋ยวหาว่ายุ่งกับนักการเมืองอีก
ในช่วงท้าย มีกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง จ.แม่ฮ่องสอน ที่สวมชุดประจำชนเผ่าต่างๆ มาต้อนรับ ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ชนเผ่าต่างๆ แต่งตัวสวยทุกคน แต่งทุกวันหรือเปล่า ถามไปอย่างนั้นแหละ พอกลับไปก็เปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์ ซึ่งไม่เป็นไร มันถูไถได้ แต่อย่าใส่กางเกงยีนส์คับเกินไป จะมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากนี้ระหว่างเยี่ยมชมผลิตผลและผลิตภัณฑ์ต่างๆ นายกฯ ได้ป้อนนมให้แกะกินและคุยกับแกะว่า "นี่มันหิวนะ ชุดนี้ต้องไปโชว์ทุกที่ไหม แล้วมันไม่เมารถเหรอ มีหน้าที่โชว์ตัวนะลูกนะ เหนื่อยไหม ทนหน่อยนะ" จากนั้นยังได้ลองชิมชากุหลาบ กินไก่ย่าง ไก่ทอด ที่ทำจากไก่พันธุ์พื้นเมืองแม่ฮ่องสอน โดยระหว่างนั้นได้หันไปเจอไก่แจ้ป่าที่นำมาโชว์ พร้อมกล่าวว่า "ไม่น่ากินไก่ตรงนี้เลย ไก่ที่ยืนตรงหน้าทำหน้าจ๋อยๆ สงสัยกลัวเป็นไก่ย่าง" นอกจากนี้ ชาวบ้านที่นำสิ่งของมามอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้คนติดตามนำซองเงินมอบให้พร้อมพูดว่า "ไม่ใช่เงินหลวง เป็นเงินส่วนตัว เพิ่งเบิกมาจากธนาคาร"
อ้อนอย่าเกลียดผมเลย
จากนั้น 12.00 น. ที่ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริฯ ต.ผาบ่อง อ.เมือง คณะ พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมชมผลผลิตโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนวทางการพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้ของชาวแม่ฮ่องสอน 6 กลุ่ม ก่อนจะกล่าวย้ำในเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งการแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาล โดยกล่าวกับชาวบ้านด้วยว่า “ขอร้องว่าอย่าเกลียดผมเลย และขอบคุณที่ยังมีคนรักอยู่บ้าง รักผมก็ขอบคุณ” พร้อมย้อนถามว่า “แล้วจะเลือกใครในวันที่มีการเลือกตั้ง” เมื่อชาวบ้านบอกว่าจะเลือกนายกฯ นั่นแหละ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบทันทีว่า “อันนั้นค่อยว่ากันอีกรอบ เดี๋ยวจะหาว่าผมมาหาเสียง ยืนยันไม่ได้มาหาเสียง มาเยี่ยมเยียนในฐานะพี่น้อง วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่อการเมือง ถือว่าเป็นการมาพบกับครอบครัวของผม รวมถึงรองนายกฯ และรัฐมนตรีทุกคน” ก่อนจะขอให้ชาวบ้านยิ้มหวานๆ มีความสุข
ต่อมาเวลา 12.40 น. ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยกล่าวภายหลังว่า ได้อนุมัติในหลักการหลายเรื่อง และจะสรุปทุกอย่างให้ได้ใน 1 เดือน เพื่อให้รับทราบว่าเราทำอะไรให้บ้างโดยทันที และจะมีในระยะต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนประชาชนต้องการให้เป็นนายกฯ ต่อ รู้สึกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็เฉยๆ ผมยังทำหน้าที่ของผมยังไม่เสร็จสิ้น อย่าไปพูดถึงอนาคต อนาคตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าเอาอนาคตมาปนกับปัจจุบัน และเอาปัจจุบันไปปนกับอดีต มันก็แก้กันไม่ได้สักอย่าง มันก็พันกันไปทั้งหมด ผมกำลังทำปัจจุบัน และวางอนาคตไปข้างหน้า ไม่ว่าจะใครก็ตาม ต้องทำตามนี้ ทำตามนี้หมายความว่าทำโดยใช้วิธีการที่ถูกต้อง ที่เป็นธรรม ที่ทั่วถึง เท่าเทียม ผมพูดมาเสมอ ถ้าทุกท่านจับประเด็นที่ผมพูดมาทั้งหมด มันก็คือแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกคนสนเรื่องไทยนิยม ก็พยายามอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า ไทยนิยมคือการขับเคลื่อนจากบนลงล่าง ระดับข้างล่างก็มีประชารัฐอยู่ในพื้นที่ วันนี้เราจะขับเคลื่อนไทยนิยม คือประชาชนร่วมมือกันทำในสิ่งที่ตรงกับความต้องการของเขา นั่นแหละคือไทยนิยม ถ้าเราไปทำอะไรที่ไม่ตรงตามความต้องการของเขา มันก็ไม่สำเร็จสักอย่าง ฉะนั้นกลไกสำคัญในเรื่องนี้คือประชารัฐ และต้องสอดคล้องกับการปรองดองสมานฉันท์ ทำสัญญาประชาคม ทั้งหมดจะต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน
ตอกย้ำ ปชต.ไทยนิยม
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่บ้านผาบ่อง อ.เมือง คณะ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปยังชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ได้รับรางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ดีเด่น ประจำปี 2560 ก่อนนั่งรถรางไปยังศูนย์เรียนรู้ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (กาดซอกจ่า) บ้านผาบ่อง เพื่อเยี่ยมชมตลาดประชารัฐ โดยทางตลาดได้จัดแสดงฟ้อนรำต้อนรับ ซึ่งนายกฯ ได้ร่วมวงฟ้อนรำอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง จากนั้นเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของภูโคลนคันทรีคลับ พร้อมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์โคลนธรรมชาติภูโคลน
ทั้งนี้ ระหว่างเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ นายกฯ ได้ร่วมจัดรายการวิทยุกับชาวชาติพันธุ์ ทั้งชาวไทยใหญ่และปกาเกอะญอ ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียง 914 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย โดยชี้แจงประเด็นการลงพื้นที่ และประชาธิปไตยแบบไทยนิยม ที่มีความหมายว่า ไม่ว่าคนจากชนชาติใดอาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย ขอให้นิยมการทำความดี และสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ มีธรรมาภิบาล มีการเลือกตั้งที่โปร่งใส ได้รัฐบาลที่ทำเพื่อคนทั้งประเทศ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยให้ชาวไทยใหญ่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น สื่อสารไปยังพี่น้องด้วย
จากนั้นนายกฯ ได้เข้าสักการะพระธาตุดอยกองมู สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวแม่ฮ่องสอน โดยวางพุ่มดอกไม้และไม้สืบชะตา ก่อนขอพรหลวงพ่อทันใจ ว่า “อธิษฐานขอให้ทำงานสำเร็จทุกอย่าง ประเทศชาติสงบยั่งยืน” พร้อมกันนี้ยังได้เคาะระฆัง 3 ครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล และตามความเชื่อท้องถิ่นที่ว่า ผู้ที่เคาะระฆังแล้วจะได้กลับมาที่ จ.แม่ฮ่องสอนอีก จากนั้นนายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมทัศนียภาพมุมสูง พร้อมกล่าวทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก่อนนำคณะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงค่ำวันเดียวกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |