2 ก.ค.61 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวอดีตแกนนำ นปช.บางคน ไปร่วมกับกลุ่มสามมิตร ว่า เท่าที่เห็นมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ที่มีตำแหน่งเป็นอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ซึ่งความสัมพันธ์กับ นปช.หมดไปนานแล้ว เพราะเขาหนีไปหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553  ความสัมพันธ์ได้จางหายไปตั้งแต่ช่วงปี 2554 เมื่อมีรัฐบาลเลือกตั้งก็ไปทำงานการเมืองมากกว่า จากนั้นหลังรัฐประหารปี 2557 ก็ไปเข้าร่วมกับการปรองดองกับคณะกรรมการศึกษาแนวทางการปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่มีนายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน และไปทำกิจกรรมอื่นๆ และไม่ได้ใช้ชื่อนปช. แล้ว นอกจากนั้นก็มีนายชินวัฒน์ หาบุญพาด และพ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ที่ในตอนหลังออกไปร่วมกับทางพรรคการเมืองมากกว่า นปช.มีหลายคนหลายรุ่นบางคนก็กลับมา บางคนก็ไปทำงานและมีตำแหน่งกับพรรค แต่ก็ไม่ทราบว่ากลุ่มนี้จะไปร่วมกับกลุ่มสามมิตรหรือไม่

นางธิดา กล่าวว่า แนวร่วม นปช.มีสารพัดทั้งศิลปิน นักการเมือง ตลก อดีตนักต่อสู้ ซึ่งหลังจากที่เรามีนโยบายและหลักการชัดเจนคนที่เห็นด้วยก็ยังอยู่ร่วมหัวจมท้ายกันมา ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่มาร่วมกับเรา คนที่ไม่พอใจนโยบายของ นปช.เขาก็ไปตั้งกลุ่มอิสระ ความเป็นจริงก็คือหลังการต่อสู้ปี 2553 มีความเสียหายถึงแก่ชีวิต หลังจากนั้นก็กระจัดกระจายกันไปตามทาง ทางใครทางมันคล้ายกับพรรคการเมืองที่อดีต ส.ส.มีหลายรุ่น แกนนำ นปช. ก็มีหลายระยะหลายรุ่น พวกเหล่านี้ก็นับเป็นแกนนำรุ่นก่อนซึ่งแยกตัวไป อย่างเช่น แรมโบ้ ส่วนจะมีความสัมพันธ์กับพรรคในระดับใดตนไม่รู้ แต่กับ นปช. ไม่ได้มาร่วมนานแล้ว ไม่ใช่ร่วมหัวจมท้ายในปัจจุบัน แต่บางคนก็ยังอยู่

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เพราะสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับการยอมรับของมวลชน ไม่เหมือนกรรมการบริหารพรรคที่ต้องได้รับการยอมรับจากคนในพรรค ถ้าเป็นแกนนำ แต่ไม่มีมวลชนนั้นมันไม่ใช่  บางคนอย่าว่าเป็นนักต่อสู้เลย เป็นนักการเมืองที่ดีก็เป็นไม่ได้ เป็นนักการเมืองที่ย้ายพรรคใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าอยู่ฝ่ายเสรีนิยมแล้วย้ายค่ายไปสนับสนุนรัฐประหารนั้นมีปัญหาแล้ว การร่วมทุกข์ร่วมสุขและการยอมรับของประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่เคยขึ้นเวทีปราศรัย แต่ต้องอยู่ในใจของพี่น้องประชาชนด้วย"นางธิดากล่าว