ต้องบอกว่า “สายล่อฟ้า” ประจำรัฐบาลคืนความสุขอย่าง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้นคงเส้นคงวาน่าดู โดยเฉพาะหลังเกิดกรณี “แหวนเพชรแยงตา นาฬิกาหรูของเพื่อน” เพราะ เพจเฟซบุ๊ก CSI LA ที่เกาะติดหนึบนาฬิกาหรูของพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์มาตั้งแต่ยี่ห้อ “ริชาร์ด มิลล์” เรือนแรกจนมาถึงเรือนล่าสุด ทะลุ 2 โหลมาอยู่เรือนที่ 25 แล้ว โดยเป็น “Patek Philippe” รุ่น Complications Annual Calendar รหัส 5396g-011 ทำจากทองคำขาว 18K มูลค่าขนหน้าแข็งไม่กระเทือน แค่ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น ...๐

ยังมี อานิสงส์จาก “บิ๊กป้อม” อีก เพราะทำให้ “ศัตรูทางการเมือง” ที่ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ (หรือเปล่า) อย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) ประสาน เสียงกันยิ่งกว่าพี่น้องคลานตามกันมาเสียอีก โดยเฉพาะ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค ปชป. ถึงกับออกมารุมถล่มรายวันกันเลย โดยก่อนหน้านี้ก็ยกเรื่อง “สปิริต” ในยุคบริหารประเทศ ล่าสุดก็ออกมาสวนหมัด “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ออกมาปกป้องรุ่นพี่ว่าเป็นเรื่องของ “วาทกรรม” ว่าไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของ “พฤติกรรม” ต่างหาก แหม! ลูกศิษย์ก้นกุฏิมีดโกนอาบน้ำผึ้งของแท้จริงๆ ...๐

ในขณะที่ พรรคเพื่อไทยเองแม้จะให้ลูกหาบระดับ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” หรือแม้แต่ “หมวดเจี๊ยบ” ออกมาตอดเล็กตอดน้อยรายวันก็ใช่ว่าจะไม่มีไม้เด็ด เพราะ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รักษาการเลขาธิการพรรคก็บอกว่า ในสัปดาห์หน้าจะเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้ต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีข้อมูลเด็ดสะระตี่ ไม่ใช่รวบรวมข้อมูลมาจากเว็บเพจดังมาไล่เรียงนะเออ ที่สำคัญการเปิดเผยของพรรคเพื่อไทยคราวนี้ยังเป็นการ ซ้อมเป็นฝ่ายค้านในอนาคตอันใกล้ด้วย หากนายกฯ ยังชื่อ “ประยุทธ์” ...๐

ไม่ใช่มีแต่นาฬิกาเกิน 2 โหลเท่านั้นที่ทำให้เสียงของ “ปชป.-พท.” ยิ่งกว่าลูกกระเดือกกับคอหอย เพราะคำสั่ง คสช.53/2560 ก็ กลายเป็น “เป้าหมายร่วม” ของสองพรรคการเมืองใหญ่ เช่นกัน ซึ่งแม้ ปชป.จะออกตัวในเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ไก่โห่ แต่ดูเหมือน “เพื่อไทย” จะชิงธงนำยื่นเรื่องทั้ง “ศาลรัฐธรรมนูญ-ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ไปแล้ว ใน ขณะที่ “ประชาธิปัตย์” นั้นก็ยังรำหมัดรำมวยไหว้ครูตามสไตล์ ทั้งที่ออกข่าวมาก่อนอยู่จ้า ...๐

เอ่ยอ้างถึงคำสั่ง คสช. ไม่เอ่ยอ้างถึงเรื่องกฎหมายลูกก็ไม่ได้ เพราะดูเหมือนส่อเค้าปัญหามาเป็น “ลูกระนาด” กันเลยทีเดียว ไล่มาตั้งแต่กฎหมายลูกว่าด้วย ป.ป.ช. และล่าสุดก็กฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาของ ส.ส.-ส.ว. ซึ่งในส่วน ส.ส.ก็ยังมีกรณีเรื่อง “มหรสพ” ที่ยังไม่ลงตัว ล่าสุดในส่วนของ “ส.ว.” ก็มีเรื่องมาเปิดประเด็นแล้ว เมื่อ “สภาฝักถั่วแห่งชาติ” ร่ำๆ จะมีการลดกลุ่มอาชีพสภาสูงจากที่ กรธ.กำหนดไว้ 20 กลุ่ม เหลือเพียง 5-10 กลุ่มเท่านั้น งานนี้เล่นเอา “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธาน กรธ. ถึงกับต้องออกโรงมาเตือนสมาชิกฝักถั่วกันเลย แต่อาจารย์มีชัยคงลืมไปว่า เตือนไปก็เท่านั้นแล หาก สนช.เขาจะเอาและได้ใบสั่งมา ใครก็ขวางไม่ได้ ดูง่ายๆ จากกฎหมายลูกว่าด้วย ป.ป.ช. ก็น่าจะรู้เช่นเห็นชาติแล้ว ...๐

หันมาส่องเรื่องคดีความกันบ้าง เพราะครานี้ต้องเรียกว่า “กรรม” เช็กบิลก็ว่าได้ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง กห.ที่ 1163 /2555 ที่ลงนามโดย “พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต” รมว.กห.ในขณะนั้น ให้ปลดว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการทหารย้อนหลัง 23 ปี แหม! ช่วงนี้บรรดาทหารแก่ทั้งหลายติดบ่วงกรรมเป็นทิวแถวกันเลยทีเดียว ...๐

ไม่รู้ว่าตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในภาวะกระทิงช่วงต้นปี 2561 หรือเพราะคดี “โจชัว หว่อง” นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยถูกตัดสินจำคุกเป็นครั้งที่สองอีก 3 เดือน หลังจากถูกจำคุกมาแล้วในฐานขัดขวางการรื้อถอนเต็นท์ปักหลักประท้วงใหญ่ หรือกรณีปฏิวัติร่มมาแล้ว 1 ปี จึงทำให้ “ดัชนีฮั่งเส็ง” ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทำสถิติปิดสูงสุดเท่าที่เคยมีมา และลบสถิติสูงสุดเมื่อ 10 ปีก่อนสวนทางกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ แหม! ข่าวนี้ออกมาไม่เห็นบรรดาเอ็นจีโอเมืองไทยจะจัดกิจกรรมให้กำลังใจ “หว่อง” กันเลยนะเนี่ย ...๐

ท้ายสุดต้อง ขออภัยในความผิดพลาด จากรายงานพิเศษ "บันทึกครูใต้ในวันครูปี 61 สูญเสีย 184 ชีวิต กับอีก 3 เรื่องที่อยากขอ..." ที่ลงในไทยโพสต์หน้า 4 ฉบับวันที่ 17 ม.ค. ที่เขียนโดยศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา ที่ลงภาพประกอบไม่ตรงกับเนื้อหา โดย ภาพที่ถูกต้อง คือ รูป "บุญสม ทองศรีพราย" อดีตประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนใต้ เรียนมาบอกด้วยความเคารพกันนะจ๊ะ ...๐