เลข ๑๓............
    ต้องบอกว่า เป็นเลขนำมาซึ่ง "สามัคคี" คนในชาติจริงๆ!
    ถ้าไม่เชื่อ
    ย้อนนึกไปเมื่อ ๑๓ ตุลา ๕๙ ก็จะเห็นภาพ
    และตอนนี้ ตัวเลข ๑๓ จากนักฟุตบอลตัวน้อย "ทีมหมูป่า" และโค้ช ที่ติดอยู่ใน "ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน"
    คือปรากฏการณ์ยืนยัน.....
    ว่า "เลข ๑๓" มีพลังดึงดูด หลอมคนไทยทั้งชาติ ให้ "รัก-สามัคคี" กันได้จริง 
    ชนิดเหนือปาฏิหาริย์!?
    ซ้ำยังเป็นตัวพิสูจน์ให้เห็นถึงทัศนคติของ "นานาชาติ" ต่อประเทศไทย ว่าเป็นไปลักษณะไหน?
    การมารวมพรักพร้อมของผู้เชี่ยวชาญแต่ละชาติและลงมือผจญภัยในถ้ำ 
    เสี่ยงกันชนิด "ชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน"
    นั่นไม่ต้องพูดแล้ว ว่า นานาชาติ เช่น สหรัฐฯ ลาว อังกฤษ เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย พม่า  ฯลฯ
    ซึ่งเมื่อทราบไทยต้องการความช่วยเหลือ ต่างมากันโดยพลัน ด้วยเต็มใจ!
    เป็นเครื่องบอกได้ว่า ประเทศเหล่านั้น มีทัศนคติ ความรู้สึก-นึก-คิด กับคนไทย ประเทศไทย เป็นไปในด้านบวกหรือด้านลบ?
    และอุปกรณ์กู้ภัย-กู้ชีวิตในน้ำ-ในถ้ำ ตลอดถึงเครื่องมือสำรวจต่างๆ ที่แต่ละชาตินำมานั้น
    เหมือนงานแสดงศักยภาพเครื่องมือสำรวจและกู้ภัยระดับเทคโนโลยีชั้นสูง 
    ทำให้ได้รู้ว่า ทุกวันนี้ วิทยาการโลกก้าวหน้ากันไปขั้นไหนแล้ว
    รวมทั้งภาคบุคลากรรัฐ-เอกชน-สถาบันศึกษาไทยเราด้วย 
    จากเหตุการณ์ช่วย ๑๓ หมูป่านี้ ทำให้เห็น ทำให้ภูมิใจได้ว่า "ประเทศไทย-คนไทย" วันนี้ 
    ไปไกลและเก่งวิทยาการไม่ด้อยใครในโลกเหมือนกัน!
    เนี่ย...
    ในความกระวนกระวายใจ ด้วยห่วง ๑๓ หมูป่า แต่ ๑๓ หมูป่านั่นแหละ 
    เป็นตัวเค้น "ธาตุแท้" ทั้งของคนไทยและของชาวโลกออกมา "เป็นคุณ" แก่สถานะประเทศไทย!
    วันนี้ ก็ไม่อยากคุยวนเวียนอยู่แค่ พบยัง..เจอยัง..เอาตัวออกมายัง?
    ๗+๑ วัน แล้ว.....
    ยังไงๆ ก็จบด้วย ๑๓ หมูป่า พาเหรดออกมา ให้นายกฯ ประยุทธ์ พาไปเล่นน้ำทะเล ที่พัทยา บีช ของแท้แน่นอนอยู่แล้ว!
    ว่าแต่...แต่ละท่าน เข้าใจคำว่า "ความรู้สึกบอกตัวเอง" ใช่มั้ย?
    คือตลอดมา ปากแต่ละคนก็ถาม...ตาก็จ้อง...คอก็ยืดชะเง้อ ออกมายัง...ออกมายัง?
    ผ่านไปแต่ละวัน ผ่านแบบไม่รู้ว่าวันไหน-เวลาไหน จะได้ออกมาจากถ้ำจริงๆ
    แต่ลึกในใจแต่ละคน......
    เชื่อมั่น ยังไงๆ ๑๓ หมูป่า อยู่ดี นอนตูดแช่น้ำสบายๆ อยู่ส่วนใด-ส่วนหนึ่งของถ้ำแหงๆ 
    หิวก็คุ้ยหาเห็ดน้ำรองท้อง รอวันคลอดจากครรภ์ "ขุนน้ำนางนอน" เมื่อตอนลมเบ่งมา
    นี่ก็ใกล้เวลา "ผ่าท้อง" ทำคลอดแล้ว!
    ผมจึงไม่อยากย่ำด้วยย้ำคุยซ้ำประเด็นเดิม อยากนำข้อสังเกตรอบด้านมาเล่าสู่กันฟังเป็น "มุมคิด-มุมมอง" มากกว่า
    ท่านเห็นมั้ย.......
    เป็นปาฏิหาริย์แรกที่ถือเป็น "ปรากฏการณ์" ทางประวัติศาสตร์ก็ได้
    ที่เด็กนักเรียนระดับ "อนุบาล-มัธยม" เหนือ-ใต้-ออก-ตกติดตามข่าวสาร รับรู้การเข้าไปติดอยู่ในถ้ำของ ๑๓ หมูป่า
    และอนุบาล-มัธยมนั้น......
    จากหลายต่อหลายโรงเรียน รวมตัวแสดงออกถึงความห่วงใยเพื่อนเด็กด้วยกัน 
    พุทธ ก็นั่งภาวนา คริสต์ ก็ร้องเพลงอ้อนวอนพระเจ้า อิสลาม ก็สวดขอพรพระผู้เป็นเจ้า 
    ขอให้ ๑๓ หมูป่ากลับออกมา เป็นกำลังใจให้ ๑๓ หมูป่า สู้..สู้ 
    บ้างเขียนภาพ บ้างพับนก 
    นับเป็นปฏิกิริยาสะอาดทางจิตปรารถนาผ่านทางกายของหมู่เด็กๆ ที่พร้อมเพรียงกัน น่าทึ่ง น่าประทับใจ 
    เป็นปรากฏการณ์ที่เกิด โดยไม่มีใครนัดหมายใดๆ ในการทำให้เกิด!?
    ที่เป็น "ปรากฏการณ์ใหม่" จากเยาวชน น่าตื่นตา-ตื่นใจ สะท้อนทางอนาคตสังคมชาติใส คือ
    เด็กๆ เหล่านั้น ใช้การนั่งทำ "สมาธิภาวนา" ส่งกระแสจิตเป็นพลังไปช่วย ๑๓ หมูป่าและบรรดาเจ้าหน้าที่ ขอให้สำเร็จ
    !!!!!!
    ต้องบอกว่า "ปลื้มและปีติ"
    ขอบคุณกระทรวงศึกษาฯ ขอบคุณบรรดาครู-อาจารย์ทุกโรงเรียน 
    ในขณะที่ห่วง สังคมวัตถุยุคไอที จะกลืนกินจิตวิญญาณผู้ใหญ่ยันเด็กวันนี้ ใกล้กลายเป็น "มนุษย์ทาสวัตถุ" ในอนาคตอันใกล้
    แต่ครู-อาจารย์ กลับบ่มเพาะเด็กนักเรียนในวิถี "สมาธิภาวนา" ซึ่งถูกทาง ช่างประเสริฐแท้ ขอชื่นชม
    สมาธิภาวนา คือการฝึกให้มี "สติ" ตามรู้จิต "ขณะพูด-ขณะคิด-ขณะทำ"
    เวลานี้ การทำสมาธิภาวนา แพร่หลายมากในตะวันตก ในสหรัฐฯ ในยุโรป ในรัสเซีย 
    นักเรียนก่อนเรียน คนทำงานก่อนเข้าทำงาน จะให้ทำสมาธิภาวนาก่อนขณะหนึ่ง
    จิตที่ฝึกแล้ว จะเป็นจิตเข้มแข็ง มีพลัง สมองแจ่มใส เฉลียวฉลาด มีปัญหา-อุปสรรคใด รู้วิธีแก้ไขได้ด้วยปัญญา
    เห็นเด็กนักเรียนตัวน้อยๆ ทำสมาธิภาวนาเป็นระเบียบเรียบร้อย สังเกตจากเปลือกตา ใบหน้าผ่อนคลายของเด็กๆ
    ทึ่ง....เพราะไม่ใช่ฝืนทำ.....
    เด็กๆ ทำสมาธิด้วย "ปีติ-เข้าถึง" เช่นนี้ นอกจากเป็นพลังให้ ๑๓ หมูป่ารอดปลอดภัยยิ่งขึ้นแล้ว
    เป็นนิมิตมงคลชาติว่า ด้วยทรัพยากรชาติที่บ่มเพาะดีแล้ววันนี้ 
    ก็หมดห่วง "อนาคตประเทศไทย" ในการนำพาของคนรุ่นต่อๆ ไป!
    ๑๓ หมูป่า......
    นอกจากเป็นตัวสร้าง "สามัคคีชาติ" แล้ว ยังเป็นตัวทำให้เห็น "นานาชาติสามัคคี" ด้วยเปี่ยมไมตรีต่อไทย
    กับศาสนา......
    ๑๓ หมูป่า ดึงดูดทั้ง "พุทธ-คริสต์-อิสลาม" ได้แสดงให้เห็นถึงว่า 
    เราอยู่กันด้วย "รัก-มีใจผูกพันต่อกัน" เอื้ออาทรในสุข-ทุกข์ต่อกัน 
    ศาสนาไม่ใช่กำแพงกั้นสามัคคีคน อย่างที่หลายๆ แห่งทำ
    เมื่อวาน (๒๙ มิ.ย.) "พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร" ยังเดินทางมาประกอบพิธีหน้าถ้ำหลวง 
    เรียกว่า เวลานี้ ทั้งวิทยาศาสตร์ ศาสนศาสตร์ มนต์พิธี รวมเป็น "สามัคคีศาสตร์"
    ต่างมุ่งมาช่วย ๑๓ หมูป่าน้อย ให้ออกมาจากการติดถ้ำ!
    พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ร่ำลือว่าขลังนัก เป็นที่เคารพนับถือ ในพม่า ลาว เขมร จีน ภูฏาน เนปาล และไทย
    ท่านบวชและจำพรรษาแถวเชียงแสนมาก่อน ปัจจุบันอยู่วัดพระธาตุดอนเรือง รัฐฉาน พม่า 
    เคยร่ำเรียนวิปัสสนาธุระ เป็นศิษย์ "หลวงปู่โง่น โสรโย" วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร "หลวงปู่ดู่  พรหมปัญโญ" วัดสะแก อยุธยา
    ก็มาทำพิธีเปิดถ้ำ เสริมมั่นใจต่อการนำ ๑๓ หมูป่าออกจากถ้ำเสริมวิทยาศาสตร์อีกทาง
    วันก่อน "ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต" วัดแสงแก้ว แม่สรวย เชียงราย เกจิชื่อดัง อาจารย์ "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ"
    ก็มาทำพิธีเปิดถ้ำไปแล้วเหมือนกัน!
    เนี่ย...เมื่อบวกพลังสามัคคี พลังวิทยาการจากทุกด้านแล้ว เอาตามที่ครูบาพ่อบุญชุ่มบอกละกัน 
    อีก ๒ วัน "๑๓ หมูป่า" จะออกจากครรภ์มารดา "ขุนน้ำนางนอน" แน่!
    ผมว่า เรื่องราวและเหตุการณ์ที่ "ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน" ครั้งนี้ เมื่อภารกิจสำเร็จเสร็จสิ้นไป
    ทีมช่วยเหลือ-ทีมผจญภัยจากทุกชาติ จะกลับไปด้วยความฉงนสงสัย ที่คลายไม่ออก 
    ว่าทำไม...เหตุใด ที่ยากกว่านี้ ด้วยประสบการณ์ ความชำนาญ ด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีไอที พิชิตลงได้รวดเร็วทุกที่
    แต่ที่ถ้ำหลวง "ขุนน้ำนางนอน"......
    ทุกอย่าง ที่เหมือนง่าย-กลับยาก, แต่ที่ยาก-กลับง่าย?
    ประเด็นนี้ จะเป็นที่กล่าวขานเล่าลือในระดับอินเตอร์ชวนเดินทางมาพิสูจน์และค้นหาความลี้ลับภายในถ้ำไปอีกนานเท่านาน
    สรุปง่ายๆ แล้วกันว่า........
    อะไรที่ไม่เชื่อ "อย่าไปลบหลู่"!