เดินหน้าดูดไม่หยุด สำหรับพรรคพลังประชารัฐในคราบนักการเมืองเก่าของกลุ่มสามมิตร ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา
โดยเฉพาะท่าทีของ นายสุริยะ ประกาศแบบไม่มีกั๊กว่า "อยากสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไป" หลังนัดหมายพบกับอดีต ส.ส.กว่า 50 ชีวิต ที่สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท รังสิต เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ไม่แคร์สายตา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เพิ่งประกาศจากอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หยามอดีต ส.ส.ที่ย้ายพรรคว่า พท.จะชนะทุกเขตทั้งอีสานเลย... โดยระบุได้หาคนรุ่นใหม่มาแทน ส.ส.จังหวัดเลย (กลุ่มนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข) และจังหวัดนครราชสีมา (กลุ่มนายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต รมช.เกษตรฯ) ที่ออกไปอยู่พรรคทหาร
เรียกได้ว่าเกมนี้ได้ผลสามารถสะกดอดีต ส.ส.ให้เกิดอาการลังเลขอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เพราะไม่อยากตกอยู่ในสภาพ รับเงินหมา กาเพื่อไทย อาทิ กลุ่มละโว้ของนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรีหลายสมัย กลุ่มเมืองเก่าของนายวิทยา บุรณศิริ อดีต รมว.สาธารณสุข และกลุ่มนายสุพล ฟองงาม จากจังหวัดอุบลราชธานี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ และยโสธร เป็นต้น
ส่วนผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร จะหยุดสถานการณ์เลือดไหลได้หรือไม่ วันเวลายังอีกยาวไกล ที่แน่ๆ ในช่วงที่ทุกพรรคการเมืองยังติดล็อกคำสั่งหัวหน้า คสช. 57/2557, 3/2558 และ 53/2560 ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง แต่เหล้าเก่าในขวดใหม่อย่างกลุ่มสามมิตรก็ไม่สนใจ เพราะได้รับตั๋วพิเศษเดินหน้าดูด ส.ส.ต่อเนื่อง
คำถามที่ตามมาคือ ศักยภาพของกลุ่มนี้จะเป็นของจริง มีคุณภาพ สมราคาที่จะดัน ลุงตู่ เป็นนายกฯ อีกสมัยได้หรือไม่ เพราะเมื่อประเมินอาจเป็นเพียงการตีปี๊บ ปั่นราคา อัพค่าตัว เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง อำนาจเงิน ตามความถนัด
หรือบางคนที่เข้าไปเพราะไม่มีทางเลือก ถูกบีบจากคดีความต่างๆ มีชนักติดหลังที่เป็นสำนวนอยู่ใน ป.ป.ช. เด็กบิ๊ก คสช.สามารถสั่งเปิดแฟ้มสั่งคดีได้ทุกเมื่อ
อีกทั้งเมื่อไปเอกซเรย์อดีต ส.ส.หลายคนที่ปรากฏตัวตามข่าว ก็เป็นเพียงเกรดบี-ซี บางคนเคยเป็นส.ส.ก็เพราะกระแสพรรคเดิม แต่เที่ยวนี้ไม่มีที่ลงด้วยจึงอาศัยเวทีใหม่หาที่ยืนและหลอกเงินทหารหรือไม่
มีเพียงของจริงที่จะพอคาดหวังได้ แค่กลุ่มจังหวัดชัยนาท สุโขทัย ราชบุรี ฐานเสียงหลักของกลุ่มมัชฌิมาเท่านั้น หากไม่นับกลุ่มพันธมิตร คสช.ที่เป็นตัวของตัวเองที่ คสช.ไปดูดก่อนหน้านี้ เช่น กลุ่มนครปฐม กลุ่มพลังชล กลุ่มสุพรรณบุรี กลุ่มบุรีรัมย์ กลุ่มโคราช (สุวัจน์) ที่สามารถพลิกขั้วได้ทันทีหากสถานการณ์ไม่เป็นใจฝั่งทหารตามนิสัยนักการเมืองไซส์ขนาดกลาง
ขณะที่แกนนำกลุ่มสามมิตร แม้ ส.บางคนจะได้รับการการันตีว่าอยู่กับใครได้เป็นรัฐบาลทุกเมื่อ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าได้สร้างความเจ็บปวดให้พรรคเดิมมาแล้ว หรือกระทั่งอีกหนึ่ง ส.ที่เคยตั้งพรรคการเมืองแต่ไปไม่รอด จนมาซบทหารก่อนได้ดีในวันนี้ และยังถูกบรรดา กปปส.แอบนินทาว่าเป็น ตาอยู่ห้องแอร์
นอกจากนี้ยังมีประเด็นสมมุติว่ารัฐบาล คสช.เรตติงตกในช่วงเลือกตั้ง เพราะแก้ปัญหาเรื่องปากท้องไม่ตก ผลประโยชน์และปัญหาทุจริตไม่เคยสะสาง หรือแม้กระทั่งการใช้แทกติกทางกฎหมายเพื่ออยู่ในอำนาจต่อไป เหล่านี้จะเป็นวัวพันหลักฉุดพรรคพลังประชารัฐให้ดำดิ่งลงหลุมไปเรื่อยๆ
อีกทั้งในเวลานั้นพรรคเพื่อไทยยังอยู่ในระบบเลือกตั้ง และนายใหญ่เล่นบทอ้อนโทรศัพท์หากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เรียกคะแนนสงสารจากชาวบ้าน พร้อมโจมตีอดีต ส.ส.ที่ไปสังกัดพรรคทหารว่า เนรคุณ ทรยศ หักหลัง อย่างที่นายเนวิน ชิดชอบ เคยถูกกระทำมาในการเลือกตั้ง 2554 ขณะที่ภาคเหนือเพื่อไทยก็น่าจะเอาอยู่ในระดับหนึ่งเพราะมีฐานเสียงเข้มแข็ง ขณะเดียวกันข้าศึกอีกด้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้มแข็งในภาคใต้ อาจเข้ามาย้อนเกล็ดลุงตู่ที่ชอบด่านักการเมืองเลว แต่สุดท้ายก็เข้าตัวเอง
ทั้งหมดทั้งมวลนำไปสู่บทสรุป พรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของ “กลุ่มสามมิตร” อาจได้ ส.ส.ต่ำสิบ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |