คมนาคมรับลูก ‘บิ๊กป้อม’ ขสมก.เตรียมคลอดรถเมล์สองเส้นทางใหม่รับก่อสร้างรถไฟฟ้าสองสี หวังเชื่อมระบบขนส่งรถไฟฟ้า-ท่าเรือ พร้อมแจงเส้นทางรถเมล์ตามแนวเส้นทาง ด้านรัฐบาลจี้ยกระดับบริการเรือคลองแสนแสบหนุนเชื่อมระบบขนส่งทางบก-ทางน้ำแก้รถติดตามแนวเส้นทาง

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการสรุปแผนการจัดรถเมล์รับ-ส่งประชาชน (Shuttle Bus) ตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งการดำเนินโครงการจะทำให้สูญเสียช่องจราจรบนถนนสายหลักจนเกิดปัญหาจราจรในเส้นทางดังกล่าว จึงควรเพิ่มประสิทธิภาพในระบบขนส่งสาธารณะเพื่อจูงใจให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวแล้วหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ 

สำหรับเส้นทางพิเศษที่รัฐบาลได้เสนอให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดำเนินการจัดรถเมล์ Shuttle Bus เพิ่มเติมนั้น แบ่งเป็น 1.เส้นทางถนนลาดพร้าว ช่วงห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ระยะทางรวม 9 กม. 2.เส้นทางถนนรามคำแหง ช่วงตลาดมีนบุรี-มหาวิทยาลัยรามคำแหง-ท่าเรือโดยสารคลองแสนแสบและสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์โดยใช้แส้นทางผ่านถนนสุขุมวิท 71 เพื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวที่สถานีพระโขนง ระยะทางรวม 23 กม. 

อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ขสมก.เข้มงวดเรื่องความพร้อมของรถเมล์ที่จะนำออกมาให้บริการโดยให้ตัวรถมีความสะอาดพร้อมใช้งานรับส่งผู้โดยสารและต้องไม่มีปัญหารถเสียระหว่างทางเพราะจะทำให้ปัญหาจราจรตามแนวก่อสร้างทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น  กรณีเกิดรถเสียนั้นต้องส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดำเนินการทันทีพร้อมรีบเคลื่อนย้ายรถเมล์ออกจากจุดคับขันทันที

รายงานข่าวระบุว่าเบื้องต้นขสมก.ได้รับข้อเสนอการจัดรถเมล์สายใหม่เพื่อบริการประชาชนตามแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสองสาย พร้อมกับชี้แจงเส้นทางรถเมล์สายปัจจุบันที่วิ่งบริการตามแนวเส้นทางการก่อสร้าง ประกอบด้วย เส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี โดยถนนสุขุมวิท 71 (สุขุมวิท-พัฒนาการ) โดยในเส้นทางถนนเพชรบุรี-(แยกลำสาลี)-ถนนพัฒนาการ ประกอบด้วย รถโดยสารประจำทาง หรือ รถเมล์ ขสมก. สาย 22, 71, 501 และรถโดยสารประจำทางร่วมบริการ หรือ รถร่วมฯ สาย 113, 40, 109, 115, 133 ใน

ส่วนของถนนรามคำแหง (มีนบุรี-ถนนเพชรบุรี) เส้นทางถนนศรีนครินทร์ (แยกลำสาลี) ถนนลาดพร้าว ประกอบด้วย รถเมล์ ขสมก. สาย 22, 71, 168, 501, 36ก, 60, 93, 95, 137, 207 และรถร่วมฯ สาย 113, 40, 109, 115, 58, 92, 99, 122, 126, 171, 545 ขณะที่เส้นทางแยกร่มเกล้า (มีนบุรี) ประกอบด้วย รถเมล์ ขสมก. สาย 168,514, 519 และรถร่วมฯ สาย 8, 113, 143, 58 ด้านรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ตั้งแต่ถนนลาดพร้าว แยกรัชดา-ลาดพร้าว (ถนนรัชดาภิเษก) และแยกบางกะปิ ประกอบด้วย รถเมล์ ขสมก. สาย 73ก, 96, 137, 145, 156, 178, 191, 502, 514 และรถร่วมฯ สาย 8, 44, 92, 122, 126, 151, 172, 545 ทั้งนี้ ความถี่ในการปล่อยรถทุก 10-15 นาทีต่อคัน

นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าเร่งติดตามดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางน้ำบริเวณคลองแสนแสบเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมาใช้บริการขนส่งทางน้ำรวมกับการขนส่งทางรถเมล์นำไปสู่การแก้ปัญหารถติดตามแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบันผู้โดยสารเรือคลองแสนแสบยังไม่ได้รับความสะดวก โดยเฉพาะการขึ้นลงเรือโดยสารยังได้รับความลำบาก จึงควรเร่งปรับปรุงคุณภาพบริการของเรือโดยสาร เช่น เพิ่มจำนวนเรือและปรับปรุงคุณภาพของเรือโดยสารให้มีความสะดวกสบายและปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ