บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

      ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net วันนี้คงมี "ข่าวดี" คือความหวังของคนไทยทั้งประเทศ ทุกพื้นที่ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัดพร้อมใจส่งแรงใจ อธิษฐาน ขอพร ให้ทีมฟุตบอลเยาวชน หมูป่าอะเคเดมีทั้ง 13 ชีวิต แคล้วคลาดปลอดภัย ส่งแรงเชียร์ให้หน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยบรรลุภารกิจค้นหาได้สำเร็จ

      ๐ "ผมมาทำการเมืองครั้งนี้หวังมารับใช้ประชาชน ในนามพรรคพลังประชารัฐจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย เชื่อในความสามารถของท่าน แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่เชื่อว่าอย่างไรเราต้องได้กลับมา พรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล" เปิดตัวชัดเจนแบบไม่เป็นทางการ หลังขยับดูดมาพักใหญ่แล้ว แกนหลัก-นายทุนใหญ่ของกลุ่มสามมิตร "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ในวัย 64 หวนคืนวงการเมืองอีกครั้ง จากที่เคยได้ดิบได้ดีสมัยแนบแน่นกับ "ทักษิณ ชินวัตร" ในยุคที่ไทยรักไทยเรืองอำนาจ นั่งเก้าอี้เสนาบดีหลายกระทรวง รมว.อุตสาหกรรม รมว.คมนาคม ก่อนจะพ้นตำแหน่งทางการเมืองบนเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี หลัง คมช.ยึดอำนาจ ในปี 49 ก่อนจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จากคดียุบพรรคไทยรักไทยปี 50

      ๐ อย่างที่รู้กันดีว่าทำหน้าที่ "หัวจ่ายหลัก" จน "นายใหญ่" ไว้วางใจให้เป็น "แม่บ้านพรรค" การกลับมาเล่นการเมืองอีกคำรบหนนี้ ก็ชัดเจนว่า เหตุผลที่ "เฮียกวง" สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เชื้อเชิญมา ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการ "ท่อน้ำเลี้ยง" หนาๆ ออกมาล่อตาล่อใจพวกอดีต ส.ส. เพราะยี่ห้อ "สุริยะ" จัดหนักจ่ายเต็มมาแต่ไหนแต่ไร  "ผมอยู่พรรคไหน พรรคนั้นสบาย" เสี่ยสุริยะประกาศดังๆ ให้อดีตส.ส.ร่วม 60 คน ได้ยินเต็ม 2 หู ในวันเวิร์กช็อป "พลังประชารัฐ" ที่ตบเท้าหน้าสลอนที่คลับเฮาส์ สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท บอกให้สบายใจได้ว่าอยู่พรรคนี้ไม่มีปัญหาเรื่องกระสุนดินดำแน่ แถมยังอาจหาญถึงขนาดมั่นใจว่า จะได้เป็นรัฐบาล 100% ด้วยเงื่อนไขที่ว่า ทุกอย่างมันล็อกเอาไว้หมดแล้ว แม้จะเหนื่อยหน่อยก็ตาม ที่สำคัญยังสวน "เจ้านายเก่า" ที่ออกมาวิดีโอคอลสมน้ำหน้าพวกที่ย้ายขั้วทิ้งเพื่อไทยว่าจะสอบตก เสี่ยสุริยะบอกเลยไม่ต้องกลัว หากแต่นี่คือ ภาวะ "ออกอาการ" ของอดีตผู้เป็นนายซะมากกว่า

      ๐ อีกคนที่โผล่ร่วมวง หลังหายหน้าหายตาไปพอสมควร "แรมโบ้อีสาน" สุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำเสื้อแดง แต่ก็ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์อะไรมากนัก เพราะเจ้าตัวหันหลังให้กับพรรคเพื่อไทยกับ นปช.มาตั้งแต่ปี 57 โดยหลังจากได้รับการปล่อยตัวจาก คสช. ก็ได้ให้สัญญากับทหารว่าจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และยุติบทบาททางการเมืองทุกกรณี ต่อมากลางปี 59 ก็รับเก้าอี้อนุกรรมการขับเคลื่อนองค์กรเครือข่ายเพื่อการปฏิรูปประเทศ ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) จากที่แรกที่มีข่าวว่าเจ้าตัวจะได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ให้มาเป็นสมาชิก สปท. เมื่อปี 58 กล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมกับสาบานต่อหน้าย่าโมว่า "จะเลิกเล่นการเมือง เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตลอดชีวิต" 30 พ.ค.57 ผ่านมา 4 ปี นอกจากกลืนน้ำลายตัวเอง แล้ว ยังลืมคำสาบานได้

      ๐ งานนี้ไม่มีกั๊กกันแล้ว ฝ่ายปฏิบัติเปิดหน้า ระดับนโยบายก็ยิ้มร่า "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ช่วยการันตีอีกแรง ดันก้น "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯ สมัย 2 ไม่แปลกที่ฝั่งเลือดทะลักจะสั่นสะเทือน ขนาดนายยังออกอาการ พวกลิ่วล้อก็ไปกันใหญ่ ถึงปากบอกไม่กลัว แต่ขาสั่นพั่บๆ ท่อน้ำเลี้ยงที่ตันคงต้องทะลวงกันขนานใหญ่ จะว่าไปแล้วก็จริงดังคำของ "สมคิด เชื้อคง" อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยว่า "นี่คือการปฏิรูปแล้วหรือ" ถ้าหวังผลแค่ทลายเพื่อแม้ว แต่ไม่ได้สร้างนักการเมืองหน้าใหม่ที่เข้ามาปฏิรูปประเทศได้อย่างที่ฝัน กลายเป็นดูดพวกนักลากตั้งของฝั่งตรงข้ามให้มาอยู่ฟากเดียวกับตัวเองแทน ต่อให้เปลี่ยนหน้าฉากให้ดูใสปิ๊งแค่ไหนก็ตาม ยังไงเนื้อในก็ยังเน่าเหมือนเดิม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"