ต้องบอกว่าเป็นการรวมใจของคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศอีกครั้ง สำหรับ การส่งกำลังใจค้นหา “ทีมนักฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีและผู้ฝึกสอน” รวม 13 ชีวิต แต่ที่ต้องบอกว่า “คนส่วนใหญ่” ของประเทศส่งกำลังใจไปนั้น เพราะยังมีพวกส่วนน้อยที่ ไม่น่าเชื่อว่ายังเป็น “คนไทย” หรือมีความเป็น “มนุษย์” ที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อยู่ อย่าง “เอกชัย หงส์กังวาน” แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยซีลช่วยค้นหาว่า "นักร้องวิ่งหาเงินช่วย รพ. ทหารหาเด็กแทนหน่วยกู้ชีพ มิน่าประเทศถึงไม่พัฒนา" …๐ ที่อนาถหนักเข้าไปอีก คือ “วัฒนา เมืองสุข” แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ปากพร่ำเรื่องประชาธิปไตย เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กลับมากดไลค์แสดงความชอบ ด้วย พิโธ่! ตอนยกเลิกพาสปอร์ตไม่ให้ออกนอกประเทศคร่ำครวญจะเป็นจะตาย แต่นี่ความเป็นความตายของเยาวชนคนไทยกลับแสดงความเห็นที่สะท้อนตัวตนออกมาจนได้ ...๐ นี่ยังไม่นับรวมบรรดาเกจิด้านไสยเวททั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ร่างทรง 4 จี” และบรรดาพวก “จิตสัมผัส” ที่เงียบเป็นเป่าสาก ส่วนที่อ้างว่ามี “ญาณทิพย์” นั้นก็ออกตัวล้อฟรีทันทีว่าพร้อมไปช่วยเหลือหากครอบครัวเด็กเรียกร้องมา พิโธ่! ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับจิตใจจ้ะเจ๊ ไม่ต้องเรียกร้องหรอก หากมีจิตสาธารณะและมีญาณทิพย์จริงตามคำกล่าวอ้าง ...๐ ส่วนที่ต้อง ปรบมือดังๆ และกลายเป็นคลิปฮอตประจำวันในเรื่องนี้คือ กรณี “นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่กล่าวกับเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่จะไปช่วย 13 ชีวิต ระบุว่า “ใครที่บอกว่าไม่เสียสละพอที่จะทำงาน ใครจะกลับบ้านไปนอนกับลูกกับเมีย เชิญเซ็นชื่อแล้วออกไปเลย ผมไม่รายงานใครทั้งสิ้น ใครจะทำงาน วันนี้ขอให้พร้อมทุกนาที ให้คิดว่าเขาเป็นลูกเรา ... เราจะช่วย 13 ชีวิตหรือกี่ชีวิตก็ตาม ทุกชีวิตเหมือนลูกเราหมด ใครไม่พร้อม จะมาเหยาะแหยะ กลับบ้านไปเลยนะครับ"  …๐ เรื่องดังกล่าวไม่ได้ดังเฉพาะในไทยเท่านั้น แต่ ทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจกันถ้วนทั่ว ไม่ว่าจะเป็น ซีเอ็นเอ็น, ซีบีเอส, ฟ็อกซ์, บีบีซี, เอเอฟพี, รอยเตอร์ หรือแม้แต่อัลจาซีเราะห์ ยังไม่รวมถึงสื่อออนไลน์และสื่อหนังสือพิมพ์ระดับโลกทั้ง ยูเอสเอทูเดย์, นิวยอร์กโพสต์, เดอะการ์เดียน, เดอะสเตรทไทม์, ไทม์,  เดลิเมล์, ชิคาโก ทริบูน และฮินดูสถานไทมส์ ฯลฯ ...๐ หันมาเรื่อง “ฮอต” ของคนชั้นกลางและคนเมืองกรุงกันบ้าง ซึ่งไม่มีอะไรเกินกรณี “รถไฟฟ้าบีทีเอส” ขัดข้องอย่างต่อเนื่องรายวัน ขนาดโลกออนไลน์ถึงกับต้องทำภาพประกอบประชดชื่อสถานีต่างๆ อาทิ พร้อมพงษ์ เป็น พร้อมพัง, อุดมสุข เป็น อุดมทุกข์, นานา เป็น นานนาน และเพลินจิต เป็น เพลียจิต ซึ่งเรื่องนี้ก็ร้อนถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องออกมาระบุว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยสั่งให้ กสทช.แก้ไขอยู่ ...๐ สังคมกังขากันมาก เพราะ กสทช.ที่กินเงินเดือนมากกว่านายกฯ เสียอีก ทำไมยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลยจนถึงทุกวันนี้ แล้วอย่างนี้จะมีหน่วยงานไว้เปลืองงบประมาณทำไม ไม่ต่างจาก “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คมนาคม ที่บอกว่าเร่งแก้อยู่ ขอเวลาถึงวันที่ 29 มิ.ย. พระเจ้าจอร์จ นี่มันยุค 1.0 หรืออย่างไรจ๊ะทั่นรัฐมนตรี มันถึงแก้ปัญหาได้อย่างเชื่องช้าเสียนี่กระไร หรือมัวแต่หลงใหลได้ปลื้มกับบัตรแมงมุมจนลืมไปว่าเรื่องไหนสำคัญกว่ากัน ...๐ มีข่าวล่ามาจากเรือเกลือว่า “กทม.” ในฐานะเจ้าของสัมปทานได้สั่งปรับบีทีเอสแล้ว 1.8 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าชดเชยถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น! ชาวบ้านร้านถิ่นเขาเลยสงสัยกันว่า อ้าว แล้วเรื่องเยียวยาผู้ใช้บริการที่ต้องมาซวยด้วยนั้น เขาได้รับอะไรบ้าง ที่สำคัญเงินค่าปรับ 1.8 ล้านบาทนั้น มันจะเข้าไปในส่วนใดอย่างไรกัน ...๐ หันมาเรื่องเบาๆ แต่เป็นข่าวดีกันบ้าง เมื่อ “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รมว.การคลังได้ลงนามในกฎกระทรวงยกเว้นภาษีเพื่อส่งเสริมให้คนไทยปั๊มลูกแล้ว หลังจากสภาพเมืองไทยในปัจจุบันเริ่มเหมือนประเทศพัฒนาทั้งหลายที่อัตราการเกิดของประชากรลดลง จึงส่งเสริมให้มีลูกกัน โดยยกเว้นภาษีให้กับค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรตามจริง แต่ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 60,000 บาท ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ …๐ ส่วนด้านวัฒนธรรมก็มีข่าวดีเช่นกัน เมื่อ “นางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร” อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ออกประกาศกรมส่งเสริมวัฒนธรรมขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ.2561 จำนวน 18 รายการ เช่นกัน แต่ที่ขาเมาธ์เขาติดใจคือ ดูเหมือนจะเน้นเรื่องปริมาณมากกว่าคุณภาพนะจ๊ะในการประกาศ เพราะอย่างลิเกเอย นิทานท้าวแสนปมเอย ดินสอพอง หรือแม้แต่วัวเทียมเกวียนนั้น มันถึงขั้นเป็นบัญชีมรดกวัฒนธรรมเชียวเหรอ ...๐