ฝึกจิตด้วยการ...รอ


เพิ่มเพื่อน    

      คำว่า "รอ" ในสังคมไทยส่วนใหญ่ของบรรดามนุษย์ลุงและมนุษย์ป้าแล้ว ดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่มากถึงมากที่สุด

      ที่ว่าเป็นเรื่องใหญ่นั้น ไม่ใช่เพราะเข้าถึง เข้าใจ และเห็นความสำคัญของการ "ต้องรอ" อันถือเป็นกฎ กติกา มารยาทสากลพึงปฏิบัติในทุกเรื่อง แต่เป็นเรื่องใหญ่ในทางตรงกันข้ามค่ะ คือ พอบอกให้รอ หรือต้องเข้าคิวรอเมื่อไหร่ล่ะก็ มักจะมีเรื่องมีราว บางครั้งถึงขั้นมีปากมีเสียงกันเลยทีเดียว เพราะคนในสังคมไทยรุ่นเก่านั้นไม่เคยชินกับการรอ หรือที่ภาษาฝรั่งเขาบอกว่า First Come First Serve   

      แต่ไหนแต่ไรมา พวกเรานิยมใช้ชีวิตแบบที่เรียกว่า ตามใจคือไทยแท้ หรือภาษาวัยรุ่นก็ต้องบอกว่า ..เอาที่สบายใจ โดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองกำลังละเมิดสิทธิของผู้อื่นหรือไม่อย่างไร...จริงไหม

      แม้กระทั่งในวัดในวา ที่เรียกว่าเป็นสถานที่ฝึกจิตสำหรับพุทธศาสนิกชน หรือกลุ่มคนที่สนใจในการเจริญสติ ทำสมาธิเพื่อการสร้างพลังจิตให้กับตัวเองในการต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาต่างๆ บนโลกใบนี้

      น้อยนักที่จะไม่พบคนที่พร้อมจะแย่ง แข่งขัน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือเพื่อให้ถึงเป้าหมาย มิได้แตกต่างอะไรจากโลกภายนอกวัดวาอารามเลย

      ทั้งๆ ที่การรอนั้น ถือเป็นการใช้วิริยะอย่างหนึ่ง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเจริญสติวิปัสสนา เพราะการนั่งสมาธิอดทนกับความเวทนา ที่เรียกกันว่าทำซ้ำๆ ในการพิจารณาลมหายใจเข้า-ออก หรือท่องพุทโธๆ นั้น ก็เหมือนการรอคิวที่จะทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่บริบทในการเคลื่อนไหวนั้นแตกต่างกันเท่านั้น

        หยิบยกเรื่องการรอมาถกอภิปราย ก็เพราะมีเหตุให้ต้องไปทำบุญในวันสำคัญที่วัดชื่อดังมากแห่งหนึ่ง คนนุ่งขาวห่มขาวเต็มไปหมด จะเดินหรือทำอะไร กิริยามารยาทดูสงบเสงี่ยมอย่างมาก แต่...คุณพระช่วย!! พอถึงเวลาต้องเข้าคิว ความงดงามของจริตมลายหายไปแบบฉับพลัน ราวกับคนละคน ด้วยต่างเบียดเสียดที่จะอยู่หน้า หรือได้ที่นั่งในทำเลที่ตัวเองปรารถนามากที่สุด โดยไม่ใส่ใจเลยว่าอากัปกิริยาเหมือนคนขาดสตินั้นต้องไปชนกับใครเข้า

      อนิจจา ...แม้แต่เวลาเข้าห้องสุขา หลักการสากล ใครมาก่อนควรจะได้เข้าก่อนนั้น ก็ไม่มีใครนึกจะสนใจว่าเป็นสิ่งที่ดี เหมาะสมและถูกต้องที่สุดกว่าการจะไปยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องใดห้องหนึ่ง แล้วก็จับจ้องว่าห้องที่ตัวเองยืนคือสมบัติที่ได้รับการประกาศแล้วว่าเป็นของฉัน

      คุณพระคุณเจ้าท่านเริ่มปฏิรูปสังคมของท่านแล้ว พวกเราญาติโยมที่ถือเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชูศาสนาให้สืบต่อตราบนานเท่านาน ก็พึงต้องปฏิรูปวิธีคิด วิถีใช้ชีวิตที่รู้จักอดทนกับการรอบ้าง ...ก็จะดีนะคะ

      คนที่ไม่ยอมรอมักจะนึกปรามาสคนอื่นในใจว่า ..ก็ฉันฉลาดกว่า ไหวพริบดีกว่า ก็เลยไม่ต้องรอนานนั้น ลองปฏิรูปตัวเองในเรื่องการรู้จักรอ รับรองว่าจะรู้สึกดีกว่าเยอะเลยค่ะ..ขอบอก.  

                                                  "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"