มอบตัวแล้วพรานยิงกระทิงป่าชำแหละเนื้อขาย


เพิ่มเพื่อน    

26 มิ.ย.- ที่สถานีตำรวจภูธรแก่งหางแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พ.ต.อ.พรรษา โกศลานันท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งหางแมว นายเดช จินโนรส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่อง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายรุ่งโรจน์ โพธิ์ขำ หรือติ๊ด อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุดักยิงกระทิงป่าตาย ก่อนชำแหละเนื้อหวังนำไปขายเเละกิน ในเขตพื้นที่ป่าอ่างฤาไน ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอกที่ใช้ก่อเหตุ ปลอกกระสุนปืน จำนวน 2 นัดและถุงปุ๋ย 3 ใบที่ใช้ใส่เนื้อกระทิงป่ามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

โดยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา สถานีตำรวจภูธรแก่งหางแมว ได้รับแจ้งจาก นายสุเทพ สุริยะ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขาปอ ว่าพบซากกระทิงป่าเพศผู้ถูกยิงอยู่ภายในป่าต้นน้ำ หมู่ที่ 17 ตำบลขุนซ่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากกระทิงป่าเพศผู้ อายุประมาณ 3-14 ปี น้ำหนัก 300-400 กิโลกรัม ถูกอาวุธปืนชนิดลูกซองยิงตายที่ชายป่า ที่บริเวณสะโพกหลังมีบาดแผลการถูกแร่เนื้อไปบางส่วน

ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ ห่างจากจุดพบซากกระทิง 20 เมตร พบร่องรอยการผูกห้างสำหรับนายพรานใช่ซุ่มดักยิงสัตว์ ห่างไปจาก 1 กิโลเมตร พบกระสอบปุ๋ยภายในมีเศษเนื้อกระทิงป่า ถูกโยนทิ้งไว้ในป่ายาง 3 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 135 กิโลกรัม คาดว่าพรานป่าที่ก่อเหตุอาจได้ยินเสียงรถของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนจึงทิ้งกระสอบใส่เนื้อกระทิง

จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แก่งหางแมว ทราบตัวคนร้ายแล้ว จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครองเจ้าหน้าที่อุทยาน และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขาปอ ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้น บ้านพักของผู้ต้องหารายนี้ที่บ้านพักเลขที่ 166 หมู่ที่ 17 ตำบลขุนซ่อง แต่คนร้ายไหวตัวก่อนแล้วหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาว ที่ใช้ยิงกระทิงป่า ซึ่งซุกซ่อนอยู่ที่บ้านพัก ส่งตรวจเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ ต่อมาวันที่ 26 มิถุนายน 2561 นายรุ่งโรจน์ ทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและรับสารภาพว่าได้ลงมือใช้อาวุธปืนลูกซองก่อเหตุจริงเพื่อต้องการล่าเนื้อมาเป็นอาหารและเกรงว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจึงหลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับญาติที่จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่ภายหลังทนแรงกดดันไม่ไหว และรู้สึกสำนึกผิดจึงเข้ามอบตัว

ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เป็นชาวกัมพูชา ทราบชื่อคือ นายดำ และอีกคนไม่ทราบชื่อที่เป็นคนช่วยนายรุ่งโรจน์แร่เนื้อกระทิงป่า และได้ช่วยกันขนลำเลียงเนื้อออกมาจากป่า เบื้องต้นยังหลบหนีอยู่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา นายรุ่งโรจน์ โพธิ์ขำ ว่าร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและกรณีไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแกพฤติการณ์ มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"