ฮ่องกงกลับมาทวงแชมป์เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติประจำปี 2561 ตามการจัดอันดับของเมอร์เซอร์ แทนที่กรุงลูอันดาของแองโกลา ขณะท็อปไฟว์มีเมืองในเอเชียถึง 4 เมือง กรุงเทพฯ ขยับ 15 อันดับ อยู่ที่ 52 จาก 209 เมือง
แฟ้มภาพ ชายหญิงนั่งชมวิวของเมืองเกาลูนและฮ่องกง จากศูนย์การค้านานาชาติ / AFP
ผลการสำรวจค่าครองชีพประจำปี 24 ของเมอร์เซอร์ บริษัทให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ เผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ 26 มิถุนายน 2561 ระบุว่า ฮ่องกงเป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับผู้อยู่อาศัยที่เป็นชาวต่างชาติ โดยใน 5 อันดับแรกนั้นยังมีเมืองในเอเชียรวมอยู่ด้วยอีก 3 เมือง ได้แก่ กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น (2), สิงคโปร์ (4) ซึ่งขยับขึ้น 1 อันดับจากปีที่แล้ว และกรุงโซลของเกาหลีใต้ (5) โดยนครซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ ได้อันดับ 3
อันดับที่เหลือใน 10 อันดับแรก ได้แก่ 6.กรุงลูอันดา, 7.นครเซี่ยงไฮ้ ของจีน, 8.กรุงเอนจาเมนา ของชาด, 9.กรุงปักกิ่ง ของจีน และ 10.กรุงเบิร์น ของสวิตเซอร์แลนด์
ขณะที่เมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดจากการสำรวจ 209 เมืองทั่วโลกของเมอร์เซอร์ปีนี้ คือ กรุงทาชเคนต์ ของอุซเบกิสถาน ถูกกว่ากรุงตูนิส ของตูนิเซีย (208) และกรุงบิชเคก ของคีร์กิซสถาน (207)
ส่วนกรุงเทพมหานครนั้น ขยับขึ้น 15 อันดับจากปีที่แล้ว มาอยู่ที่อันดับ 52 ในปีนี้ กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียก็ขยับขึ้นเช่นกันถึง 20 อันดับ มาอยู่ที่ 145 ในปีนี้ แต่กรุงฮานอยของเวียดนาม ตกลงถึงอันดับ 37 อันดับ อยู่ที่ 137.
เมอร์เซอร์ใช้นครนิวยอร์กของสหรัฐเป็นฐานอ้างอิงเพื่อเปรียบเทียบค่าครองชีพ รวมถึงความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐ การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้บริษัทข้ามชาติและรัฐบาลทั้งหลายสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับลูกจ้างของตนที่ทำงานในประเทศนั้นๆ ได้
ค่าใช้จ่ายที่เมอร์เซอร์ใช้เป็นตัวชี้วัดค่าครองชีพของแต่ละเมืองนั้นมี 200 รายการ ตั้งแต่ค่าที่พัก, อาหาร, ระบบขนส่ง, เครื่องแต่งกาย, ราคากาแฟ 1 ถ้วย, น้ำมัน 1 ลิตร, นม 1 ลิตร, ขนมปัง, เบียร์, ตั๋วภาพยนตร์ และอื่นๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |