(บ้านไหนที่มีผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ควรติดตั้งกริ่งสัญญาณเตือนภัย เพื่อให้คนในชุมชนและเพื่อนบ้านใกล้เคียงคอยช่วยเหลือ)
พบเห็นกันได้บ่อยๆ ในช่วงนี้ สำหรับข่าวคราวไฟไหม้โรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนชุมชนแออัดต่างๆ ไฟไหม้ทรัพย์สินก็ว่าแย่แล้ว แต่หากบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยกัน แถมอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ก็ยิ่งต้องเพิ่มการเอาใจใส่และเฝ้าระวังเหตุไฟไหม้มากขึ้นไปอีก 2 เท่า เนื่องจากการช่วยเหลือและการเคลื่อนย้ายผู้สูงวัยที่ป่วยกลุ่มนี้มักเป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้นการป้องกันตัวเองแต่เนิ่นๆ เพื่อให้รับกับอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ
(พัดลมเก่าที่ไม่ได้มาตรฐานและมีสายไฟชำรุด, ปลั๊กไฟที่เสียบเต็มราง จะทำให้สายไฟของปลั๊กเกิดความร้อน กระทั่งชอร์ตและเกิดเปลวไฟในที่สุด)
จ่าสิบตำรวจสายชล พุกาธร หัวหน้าสถานีดับเพลิงเขตสายไหม ให้ข้อมูลไว้น่าสนใจว่า “กรณีที่ผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด และมีผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่ร่วมกันเพียงลำพัง แนะนำว่าควร “ติดสัญญาณเตือนภัย” หรือ “กริ่งกด” ที่ส่งเสียงดัง เพื่อเตือนให้คนมาช่วยเหลือเวลาที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพราะโดยทั่วไปแล้วผู้สูงวัยคงไม่กดเล่นอย่างแน่นอน ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจำเป็นมากสำหรับบ้านที่มีคนแก่ติดเตียงและไม่มีลูกหลานคอยดูแล ประกอบกับประธานชุมชนส่วนใหญ่จะมีข้อมูลของผู้ป่วยกลุ่มนี้อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าได้ยินสัญญาณของกริ่งก็จะรีบมาใช้ผู้สูงวัยก่อนเป็นลำดับแรก
(ผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง และมักชอบขี้หลงขี้ลืมจากอายุที่มากขึ้น ควรติดตั้งอุปกรณ์ตัดแก๊สอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไฟไหม้บ้าน)
ส่วนบ้านไหนที่ผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือตัวท่านมีอายุค่อนข้างมาก อีกทั้งขี้หลงขี้ลืมและอยู่เพียงลำพัง ตรงนี้หากเป็นไปได้ ประธานชุมชนหรือลูกหลานที่อยู่ห่างควร “ติดอุปกรณ์ตัดแก๊สอัตโนมัติ” เพราะจากภาวะของโรคนั้นอาจทำให้ผู้สูงวัยอุ่นอาหารทิ้งไว้และหลงลืม กระทั่งทำให้เกิดไฟลุกไหม้ที่อยู่อาศัยได้ แต่หากบ้านที่มีลูกหลานอาศัยอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ กระทั่งคนวัย 50-60 ปีที่พักอยู่บ้านในชุมชนแออัด แนะนำว่าควร “หมั่นเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้า” ให้อยู่ในสภาพปกติ และอย่าคิดว่าไม่เป็นไร เนื่องจากเป็นสาเหตุของอัคคีภัยสูงถึงร้อยละ 90 ดังนั้นควรตรวจดูว่าสายไฟของพัดลม ตู้เย็น ทีวี ชำรุดหรือไม่ ถ้าเห็นมีรอยแตกก็ควรรีบเปลี่ยนและซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพปกติ นอกจากการที่ใช้เต้าปลั๊กที่ค่อนข้างหลวม หรือไม่พอดีกับสายไฟจากอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ตรงนี้จะทำให้กระแสไฟไหลเวียนไม่สะดวก เนื่องจากหลุดบ่อย กระทั่งเกิดประกายไฟ และลุกลามเป็นเพลิงไหม้ในที่สุด ดังนั้นอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิดจะต้องเสียบพอดีกัน
ที่ลืมไม่ได้ แนะนำว่า “ไม่ควรซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูก” ที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้นว่า พัดลมตัวละ 100 บาท เพราะเมื่อเปิดใช้งานไปสักพักจะทำให้ร้อนอย่างรวดเร็ว ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าชอร์ตและเกิดเพลิงไหม้ อีกทั้งควร “หลีกเลี่ยงการเสียบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชนิดด้วยกัน” ตรงนี้จะทำให้สายไฟของตัวเต้าเสียบร้อนและชอร์ต กระทั่งเกิดประกายไฟในที่สุด
(ป้องกันผู้สูงอายุสำลักควันไฟ แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำปิดปากและจมูก จากนั้นให้ก้มลงต่ำ และตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ หรือรีบพาตัวเองออกจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด)
ส่วนเรื่องการสังเกตสัญญาณเตือนไฟไหม้ เช่น สะเก็ดไฟ หรือควันไฟ อาจจะทำได้ค่อนข้างยาก หากว่าอัคคีภัยเกิดขึ้นในช่วงดึกของกลางคืน หรือกลางวันที่คนส่วนใหญ่มักออกไปทำงานนอกบ้าน ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนตามคำแนะนำเบื้องต้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ขณะที่ ผู้สูงวัยและคนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ซึ่งเป็นอาหารชุดแบบปิด อันดับแรกให้ตรวจสอบก่อนว่า ที่พักอยู่อาศัยมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด เช่น ต้องมีทางหนีไฟ 2 ทาง, มีสปริงเกลอร์สำหรับพ่นน้ำเวลาที่เกิดอัคคีภัยหรือไม่, ในตัวอาคารมีอุปกรณ์จับความร้อนหรือไม่, มีป้ายทางหนีไฟหรือไม่, มีไฟฉุกเฉินหรือไฟสำรองหรือไม่ เพื่อสิ่งที่กล่าวมาเป็นตัวช่วยเวลาที่เกิดไฟไหม้ และจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีโอกาสรอดชีวิตสูง และหากไปได้ควรมีการซ้อมหนีไฟอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ปิดท้ายกันที่การเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุจากเหตุการณ์ไฟไหม้ แนะนำว่าให้รีบพาตัวเองออกมาจากกองเพลิงให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องห่วงทรัพย์สมบัติมากกว่าชีวิต ที่สำคัญหาให้ผ้าขนหนูชุบน้ำเพื่อปิดปากและจมูก ป้องกันการสำลักควันไฟ หากวิ่งไม่ไหวให้นอนลงที่ต่ำ และตะโกนเรียกให้คนเข้าไปช่วย หรือหากยังเคลื่อนไหว้ได้ควรรีบออกมาจากจุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด ในส่วนของผู้สูงวัยที่ป่วยติดเตียง หากติดสัญญาณหรือกริ่งขอความช่วยเหลือ ก็จะทำให้นักดับเพลิงหรือคนในชุมชนเข้าไปช่วยเหลือก่อนเป็นอันดับแรก ตรงนี้ก็จะเป็นการช่วยเซฟชีวิตจากปัญหาอัคคีภัย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ผู้อยู่อาศัยต้องไม่ประมาทและมองข้ามเรื่องเล็กน้อย อย่างปลั๊กไฟที่ชำรุด หรือซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้ เพราะคิดว่าประหยัดเงินในกระเป๋า นั่นจะนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากไฟไหม้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ป่วยเรื้อรัง หรืออาศัยอยู่ตามลำพัง”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |