ครม.เห็นชอบจัดทำงบกลางปี 2561 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท หนุนภารกิจกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเคาะร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ดันงบลงทุนกระฉูดแตะ 6.66 แสนล้านบาท
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการจัดทำงบประมาณกลางปี 2561 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายในโครงการตามนโยบายของรัฐ วงเงิน 1.03 แสนล้านบาท และชดใช้เงินคงคลัง วงเงิน 4.96 หมื่นล้านบาท โดยโครงการตามนโยบายของรัฐ จะเน้นใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการยกระดับสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เป็นต้น วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท
2.การพัฒนาพื้นที่ผ่านกระบวนการประชาคม เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของชุมชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนและเส้นทางท่องเที่ยวท้องถิ่น โดยกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท และการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตสำหรับภาคเกษตรทั้งระบบ เพื่อให้มีผลผลิตทางการเกษตรที่สอดคล้องความต้องการของตลาด โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อน 1 แสนล้านบาท หรือ 3.4% แบ่งเป็น งบรายจ่ายประจำ วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 72.2% ของงบประมาณรายจ่าย เพิ่มขึ้น 1.01 แสนล้านบาท หรือ 4.7% และรายจ่ายลงทุน วงเงิน 6.66 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อน 6.71 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% โดยรายจ่ายลงทุนดังกล่าวคิดเป็น 22.2% ของวงเงินงบประมาณรวม
ขณะที่รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ อยู่ที่ 7.85 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณก่อนหน้า 8.44 พันล้านบาท หรือ 9.7% โดยรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ดังกล่าวคิดเป็น 2.6% ของวงเงินงบประมาณ และเป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล วงเงิน 4.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
สำหรับคาดการณ์การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 2.55 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากปีงบประมาณก่อนหน้า ภายใต้สมมุติฐานภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปี 2562 ที่ขยายตัวในระดับ 4.2% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ที่ 2.5%
“คาดว่าจะสามารถเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในวาระที่ 1 ได้ในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณารายละเอียดของงบประมาณ และคาดว่า สนช. จะสามารถพิจารณาวาระ 2 และ 3 ได้ในวันที่ 30 ส.ค. 2561 ก่อนจะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในวันที่ 7 ก.ย. นี้” นายณัฐพรกล่าว
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำภายในประเทศ มีภารกิจที่สำคัญ อาทิ การดำเนินการตามสัญญาประชาคม การช่วยเหลือให้คนไทยไม่ทิ้งกัน ผ่านโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย การสนับสนุนให้เมืองไทยเป็นเมืองน่าอยู่ โดยการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน
การสนับสนุนวิถีไทยพอเพียง การสนับสนุนให้รู้สิทธิและหน้าที่ของตัวเอง การสนับสนุนให้รู้จักกลไกการบริหารของภาครัฐ และการสนับสนุนให้รู้จักประชาธิปไตย เป็นต้น โดยจะมีการตั้งคณะทำงานในระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน จำนวน 7.46 พันทีมงาน ภายใต้ชื่อ “ทีมงานไทยยั่งยืน” เพื่อลงพื้นที่ในการติดตามและให้การช่วยเหลืออย่างมีระบบ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือถึงแนวทางการดำเนินงานทั้งหมด และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นเดือน ก.พ.2561.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |