เพื่อไทยระทึก!สอบคลิปแม้ว


เพิ่มเพื่อน    

    "ทักษิณ" ปากพาจน จะซวยกันทั้งพรรค  นายทะเบียนพรรคการเมืองสั่งรองเลขาธิการ กกต. สอบคลิปไล่อดีต ส.ส.ย้ายพรรค ชี้หากเข้าข่าย ขยายผลตั้งกรรมการสอบ เปิด รธน.-กฎหมายพรรคการเมือง ห้ามคนโดนยึดทรัพย์-โดนจำคุก กฎหมาย ป.ป.ช. เป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ "แม้ว" โดนทั้งสองเด้ง
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีมีคลิปเสียงนายทักษิณ ชินวัตร ระบุพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในอีสานในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอนว่า ได้มอบหมายให้นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านพรรคการเมือง ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายมาตรา 28 มาตรา 29 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่กำหนดห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการควบคุม ครอบงำ ชี้นำกิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรคหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม 
    "เนื่องจากตามกฎหมายใหม่ ให้เป็นเรื่องความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้เลยโดยไม่ต้องรอให้มีผู้ร้องเรียน ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ในฐานะนายทะเบียนฯ จึงต้องเข้ามาดูแล หากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่าเข้าข่ายมีมูล ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป"
    ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวของนายทักษิณ เป็นคลิปที่นายทักษิณอยู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และมีการวิดีโอคอลคุยกับแกนนำพรรค อดีต ส.ส.พรรค ที่ปลายทางอยู่ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา 
    อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยอมรับว่า บทโทษของความผิดของการกระทำตามมาตรา 28, 29 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ก็คือการเสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ตามมาตรา 92 และมาตรา 93 ของกฎหมายเดียวกัน แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของการตรวจสอบข้อเท็จจริง เส้นทางสำนักงาน กกต. ก็จะเร่งดำเนินการ จึงยังไม่อยากให้ตีความกันไปไกลถึงขนาดนั้น
    ทั้งนี้ ประเด็นข้อกฎหมายเรื่องการห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกพรรคการเมืองเข้ามาครอบงำพรรคการเมือง เคยมีนักกฎหมายและอดีต กกต. เช่น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เคยอธิบายไว้ว่า ประเด็นสำคัญต้องดูว่าบุคคลผู้นั้นเป็นสมาชิกพรรคการเมืองดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งหากเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ก็จะไม่มีความผิด ไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง
     โดยพบว่าใน พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ในมาตรา 9 บัญญัติเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไว้ว่า "บุคคลซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองในแนวทางเดียวกัน และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ จํานวนไม่น้อยกว่าห้าร้อยคนอาจร่วมกันดําเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ได้"
    ซึ่งในวงเล็บ (3) ของมาตรา 9 ดังกล่าว บัญญัติว่า "ต้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 98 ในหลายวงเล็บ ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แต่ประเด็นสำคัญอยู่ในวงเล็บ (9) ของมาตรา 98 ในรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า "ต้องไม่เคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกเพราะกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต"
    สำหรับนายทักษิณ เคยถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท เพราะร่ำรวยผิดปกติสมัยเป็นนายกฯ อีกทั้งปัจจุบันต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปีในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลฎีกาฯ ตัดสินว่านายทักษิณมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 100 (1) วรรคสาม และมาตรา 122 วรรคหนึ่ง  หากพิจารณาตามนี้ ก็อาจทำให้นายทักษิณขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ทั้งตาม รธน.และตามกฎหมายพรรคการเมือง 
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยเมื่อถามถึงกรณีมีการเสนอความเห็นจากบางฝ่ายว่าการเดินทางมาของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อพบปะหารือกับนายทักษิณ ชินวัตร เปิดทางให้ คสช.บริหารประเทศอีกสมัยนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะพบกับใครได้นอกจากนักธุรกิจไทย ในฐานะที่จะต้องมาขับเคลื่อนให้ และพบกับข้าราชการไทยของกระทรวงการต่างประเทศ ตนไม่มีโอกาสที่จะพบคนอื่นเลย ไม่เคยนัดพบใครทั้งสิ้น
    "ในการทำงานตั้งแต่ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบกก็ไม่เคยนัดพบใคร มาทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ก็กลับไปทำงานที่ไทย ฉะนั้นอย่ามากังวลกับผม ถึงแม้จะอยากพบผม ผมก็ไม่ให้พบอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจผมมาทำหน้าที่ของผม ไม่ได้มาพบเป็นการส่วนตัว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร และคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถี่ขึ้นและบ่อยขึ้น กระทั่งล่าสุดในงานเลี้ยงวันเกิดคุณยิ่งลักษณ์ซึ่งเห็นการวิดีโอคอล และการพูดคุยในงานเลี้ยง ทักษิณได้แสดงให้เห็นว่ายังเป็นผู้ที่ยุ่งเกี่ยวและมีอิทธิพลที่สามารถครอบงำและชี้นำพรรคเพื่อไทยได้ เหมือนเดิม แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในขณะนี้แล้ว กรณีนี้จึงอาจเข้าข่ายขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28-29 ที่ห้ามผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหรือคนนอกพรรคยุ่งเกี่ยว แทรกแซง ครอบงำ ชี้นำพรรคการเมือง ซึ่งมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้ตามมาตรา 92
    "คำพูด ภาพและเสียงของทักษิณได้ปรากฏไปทั่วสาธารณะแล้ว จนสังคมตั้งคำถามว่า พฤติกรรมดังกล่าวขัดกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ผู้มีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามกฎหมายนี้ จำเป็นต้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องให้ใครไปร้องเรียนและเร่งหาข้อยุติ เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับทุกพรรคการเมืองต่อไป" นายสุริยะใสกล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"