ไทยติดเชื้อต่ำหมื่นอีกครั้ง ดับ 71 ราย "สธ." ห่วงหญิงตั้งครรภ์รอบ 6 เดือนเสียชีวิตจากโควิด 95 ราย ชี้หลายคนโลเลฉีดวัคซีนหวั่นความปลอดภัย พบมียอดฉีดเพียง 25% "บิ๊กตู่" เคลียร์ "ภท." ปมตั้ง “พล.อ.ณัฐพล” คุม ศบค.ส่วนหน้า  ย้ำเพื่อบูรณาการทำงานพื้นที่ "อนุทิน" ไร้ปัญหาบอกช่วยกันทำงานเพื่อ ปชช.  "ปัตตานี" สั่งปิด 22 หมู่บ้านเสี่ยงแพร่เชื้อ
    เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,122 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 8,999 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,661 ราย, การค้นหาเชิงรุก 338 ราย, จากเรือนจำ 116 ราย, ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,802,934 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 10,731 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 1,678,981 ราย อยู่ระหว่างรักษา 105,546 ราย อาการหนัก 2,762 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 631 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 71 ราย เป็นชาย 44 ราย หญิง 27 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 51 ราย มีโรคเรื้อรัง 9 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 10 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในภาคใต้รวมกัน 21 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 18,407 ราย 
    ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 914,527 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 66,592,321 โดส 
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 19 ต.ค. ได้แก่ กทม. 1,037 ราย,  ปัตตานี 621 ราย, นครศรีธรรมราช 602 ราย, สงขลา 498 ราย, ยะลา 455 ราย,  นราธิวาส 453 ราย, ชลบุรี 310 ราย,  สมุทรปราการ 299 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 238 ราย และระยอง 229 ราย 
    นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพและโฆษกกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงถึงการติดเชื้อโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ว่า กลุ่มหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เราพบว่าทั่วโลกหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 50-60% จากภาวะปกติ และการเสียชีวิตส่วนหนึ่งเกิดจากโควิด โดยหลายประเทศโควิดเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของหญิงตั้งครรภ์ในประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทย มีการเก็บข้อมูลย้อนหลัง 1 ปี ตั้งแต่ ต.ค.2563-ก.ย.2564 ในช่วงที่มีการระบาดของโควิดในช่วงการระบาดครั้งที่ 2 และ 3 พบมีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตทั้งหมด 192 ราย เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 78 ราย ในช่วงเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นสัดส่วนการตายอันดับหนึ่งในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถึง 38% ของหญิงตั้งครรภ์ 
    "การฉีดวัควีนในสตรีมีครรภ์เพิ่งเกิดขึ้นในไทยเมื่อเดือน ก.ค. และเริ่มรณรงค์อย่างหนักในเดือน ส.ค. พบว่าหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนเข็มแรกเพียง 74,625 คน,  เข็มสอง 51,989 คน, เข็มสาม 526 คน ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จะมีหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ประมาณ 3 แสนคน ขณะนี้ฉีดได้เพียง 25% ซึ่งจากการสำรวจของอนามัยโพล ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์พบ 1,500 คนที่ตอบแบบสอบถาม กว่าครึ่งหนึ่งยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยมี 60% ตั้งใจจะฉีดวัคซีน ส่วนที่เหลือยังคงโลเลอยู่ เนื่องจากกังวลในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน" โฆษกกรมอนามัยกล่าว
อนุทินเคลียร์แก้โควิดใต้
    ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นำนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย พร้อมคณะ เข้าพบเพื่อรับนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว
    ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่จะร่วมมือกันดำเนินการอย่างเต็มที่ในการที่เตรียมความพร้อมเปิดประเทศตามเป้าหมายที่กำหนดวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยนายกฯ มอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หารือถึงการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในรูปแบบร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดคอนเสิร์ตโดยศิลปินไทย ศิลปินพื้นบ้านในพื้นที่ต่างๆ และกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเหลือกลุ่มศิลปินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการกระตุ้นการท่องเที่ยว
    ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พร้อมอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างปฏิญญาดังกล่าว โดยมีกำหนดรับรองในวันที่ 22 ต.ค.2564 ในการประชุม High-Level Conference on COVID-19 (HLCC 2021) ผ่านระบบการประชุมทางไกล
    ส่วนนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบข้อถามกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ทักท้วง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค.ส่วนหน้า ว่า นายกฯ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ไปแล้ว 
    "การตั้งดังกล่าวเป็นการบูรณาการการทำงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคระบาดของกระทรวงสาธารณสุข และตามมาตรการของ ศบค. เป็นไปตามหลักด้านสาธารณสุข" โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าว
    ด้านนายอนุทินกล่าวว่า นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท. ใช้ความเป็น ส.ส.ในการแสดงความเห็นส่วนตัว ซึ่งตนได้ชี้แจงกลับไปว่าเรื่องมีมากกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องของแพทย์อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความมั่นคง การควบคุมสถานการณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้แพทย์และพยาบาลเข้าถึงคนไข้ และได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งตนก็ได้ทำความเข้าใจกับนายศุภชัยเรียบร้อยแล้ว โดยแจ้งไปว่าก่อนจะเขียนแสดงความเห็นอะไรให้โทร.มาถามตนก่อน 
    "เรื่องนี้ สธ.มีแต่ได้ เพราะการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากไม่มีหน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมจะลำบาก ดังนั้นการที่หลายกระทรวง เช่น กระทรวงมหาดไทยและกองทัพเข้ามาทำงานก็ถือว่าเป็นการร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน และ พล.อ.ณัฐพลก็มีประสบการณ์ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 และเคยเป็น ผอ.ศบค.ศปก.มาทั้งปี ดังนั้นจึงมีแต่สิ่งที่ประชาชนจะได้จากคำสั่งของนายกฯ เราจึงต้องมีสปิริตพอที่จะรู้ว่านี่เป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด" นายอนุทินกล่าว
ปัตตานีปิด 22 หมู่บ้านเสี่ยง
    อย่างไรก็ดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธแสดงความเห็นดังกล่าว โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทยเขาตอบไปแล้ว เมื่อถามว่ามีความจำเป็นต้องให้ทหารเข้าไปดูความเรียบร้อยควบคู่กับเรื่องสาธารณสุข พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถาม เพียงพยักหน้าก่อนขึ้นรถไปประชุม ครม.
    นายนิพนธ์​ บุญญามณี​ รมช.มหาดไทย​ กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวของตนคิดว่าการแก้ปัญหาโควิด-19​ ในพื้นที่ภาคใต้ทุกฝ่ายต้องพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด บูรณาการงานร่วมกันให้ได้ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ที่สำคัญคือการทำความเข้าใจกับประชาชน เนื่องจากขณะนี้ประชาชนบางส่วนคิดว่าวัคซีนไม่มีความจำเป็น ดังนั้นเราต้องทำความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้ให้ได้ และภาครัฐเองต้องพร้อมที่จะส่งวัคซีนลงไปให้ทันต่อความต้องการ เชื่อว่าวัคซีนมีจำนวนเพียงพอในการที่จะจัดสรรลงไป แต่ต้องกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และให้เร็วที่สุด
    "การบูรณาการงานของทุกฝ่ายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพื้นที่ภาคใต้ เพราะยังมีคนออกนอกบ้านในเวลาเคอร์ฟิวอยู่ สะท้อนให้เห็นว่าเรายังมีช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นการจะทำให้ทุกคนเคารพระเบียบเป็นสิ่งจำเป็น จึงมองว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และฝ่ายๆ อื่น โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลพื้นที่อยู่ต้องร่วมมือกัน เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษอยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวก็เห็นว่า พล.อ.ณัฐพลมีประสบการณ์ แต่ทั้งหมดนี้อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ยังเป็นกลไกหลักที่จะต้องทำงานเข้มแข็ง" รมช.มหาดไทยกล่าว
    จ.ปัตตานี ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.สายบุรี ได้สั่งปิดหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่เสี่ยงทั้ง 22 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ใน 9 ตำบล ประกอบด้วย ต.กะดุนง ต.บือเระ ต.เตราะบอล ต.ละหาร ต.ตะบิ้ง ต.ปะเสยาวอ ต.บางเก่า ต.มะนังดาลัม และ ต.ตะลุบัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการควบคุมพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งจังหวัดยังมีแผนที่จะเตรียมปิดหมู่บ้านอีกหลายอำเภอที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก
    จ.ยะลา ที่โรงพยาบาลเบตง เจ้าหน้าที่ได้เปิดหน่วยบริการเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนและผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการติดเชื้อลดจำนวนผู้ป่วยและลดอาการที่รุนแรง รวมทั้งไม่ให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเพิ่ม ซึ่งวันที่ 19 ต.ต. มีการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มสองให้กับประชาชนกว่า 1,400 โดส นอกจากนี้ยังมีบริการฉีดเข็ม 1 ซิโนแวคสำหรับผู้วอล์กอินเข้ามาด้วย.