ต้องแคะขี้มูกจนรูตะหมูกบานเป็นจานเชิง...ระหว่างดูทีม อินทรีเหล็ก-เยอรมนี ปะทะกับทีม ไวกิ้ง-สวีเดน วานนี้ คือสำหรับเยอรมันนั้น งานนี้ต้องเรียกว่า...ถูกมัดตราสัง หย่อนใส่โลงไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว เหลือแต่รอเอาตะปูมาตอกฝาโลงเพื่อไม่ให้มอด แมลง เข้าไปรบกวนซากศพเท่านั้นเอง แต่จู่ๆ...ก็ดันฉีกกระชากตราสัง ลุกขึ้นจากโลงเอาดื้อๆ!!! ด้วยฝีตีนการยิงลูกโทษแบบสไลด์ไซด์โค้งของ โทนี โครส ตัวจ่ายของเรอัล-มาดริด ชนิดเสี้ยววินาทีสุดท้าย...
-----------------------------------------------
ใครที่เป็นแควนๆ ไส้กรอกเยอรมนี...คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลอดช่วงระยะ 90 นาที แทบไม่มีโอกาสหายใจได้ทั่วท้องเอาเลยแม้แต่นิด คืออะไรมันจะเก้งๆ ก้างๆ ก๊อกๆ แก๊กๆ เท่านี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว พูดง่ายๆ ว่า...พอเจอกับคู่ต่อสู้ จับทาง ได้เท่านั้น อดีตแชมป์โลกไม่รู้กี่สมัยต่อกี่สมัย ก็ เล่นไม่ออก เอาดื้อๆ ได้แต่ยิงนก ตกปลา ไปตามเรื่อง ตามราว และเมื่อไหร่ที่เจอกับลูกโต้กลับ เคาน์เตอร์ แอตแทก ของฝ่ายตรงกันข้าม ไส้กรอกเยอรมันก็แทบกลายเป็นกุนเชียง เจ๊เล็กเยาวราช ไปโดยทันที ออกอาการสั่นพั่บๆ เหมือนอย่างที่เคยสั่นจนตะคริวขึ้นสมอง เมื่อครั้งเจอกับทีม จังโก้-เม็กซิโก หมดสภาพความเป็นอินทรี กลายเป็นนกกระจอกเอาง่ายๆ...
----------------------------------------------------
ดูเหมือนว่า...สิ่งที่ทำให้ทีมเยอรมันคราวนี้ หมดสภาพความ มันซ์ซ์ซ์ ลงไปอย่างเห็นได้ชัด อาจต้องเรียกว่าเป็นเพราะ กับดักแห่งความสำเร็จ อะไรประมาณนั้น คือเคยประสบความสำเร็จมาอย่างไร ในช่วงเท่าที่ผ่านมา ก็นำเอาสิ่งเหล่านั้นมายึดมั่น ถือมั่น จนกลายเป็น อัตตา ของทีม ของโค้ช ไปตลอดถึงตัวผู้เล่น จนแข็งทื่อ แข็งโด่เด่ เป็นด้ามๆ ผู้เล่นรายใดที่เคยเล่นเก่ง เล่นดี ก็ยึดเอาความเก่ง ความดีนั้นๆ มาใช้เป็นหลักประกันในการสู้รบตบมือกับฝ่ายตรงกันข้าม โดยไม่คิดจะสำรวจ ตรวจสอบ ว่าช่วงหลัง มันฟอร์มตก ฟอร์มหล่น ไปแล้วมาก-น้อยขนาดไหน...
------------------------------------------------------
เคยใช้บริการกองหน้าอย่าง ไอ้ก้านยาว-โธมัส มุลเลอร์ มากี่ปี กี่ชาติ แต่ทั้งๆ ที่ก้านยาวมันออกอาการก้านหัก ก้านหลุด ยิงอะไรไม่เคยเข้า ซัลโวประตู 100 ลูก นกตก ว่าวตก ลงมาประมาณ 99 รายการ หลุดเข้าประตูแค่ลูกเดียว ระหว่างวิ่งไป-วิ่งมารบกวนผู้เล่นทีมเดียวกับตัวเอง ในทีม บาเยิร์น มิวนิก มาโดยตลอด แต่ก็ยังอุตส่าห์ทู่ซี้ใช้บริการของ ไอ้ก้านยาว ไปตลอด 90 นาทีของการปะทะกับสวีเดน ไม่ต่างไปจากการใช้บริการตัวจ่ายที่หัวฉีดอุดตันมานานแล้ว อย่าง ไอ้เติร์ก-เมซุต โอซิล ในคราวที่เจอกับเม็กซิโกนั่นเอง อินทรี ก็เลยกลายเป็น นกกระจอก อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
--------------------------------------------------------
โชคดี...ที่ยังพอได้ตัวเล่นใหม่ๆ อย่าง มาร์โก รอยส์ แห่งทีมโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ มาช่วยกู้หน้าความเป็นลูกหลานฮิตเลอร์ได้ในช่วงหน้าข้าว-หน้าเหล้า ไม่งั้น...ป่านนี้บรรดาแควนๆ ของทีมอินทรีเหล็ก คงหนีไม่พ้นต้องแคะขี้มูกเอามากิน แบบที่โค้ชเยอรมนี โยอาคิม เลิฟ ได้เคยประพฤติให้เป็นแบบอย่างที่มิควรเอาอย่าง อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ส่วนเมื่อต้องเจอกับพรรคพวกบริวารของ มุน แจ-อิน ผู้สร้างสรรค์สันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีแบบตัวจริง-เสียงจริง จะรอด-ไม่รอด มีสิทธิ์ตกรอบแรกหรือไม่ อย่างไร อันนั้น...คงต้องไปลุ้นกันอีกที ว่าทีมเยอรมันทีมนี้จะสามารถทลาย กับดักแห่งความสำเร็จ ออกมาเป็นอิสระ เป็นอินทรีเหล็กของแท้แต่ดั้งเดิมได้มาก-น้อยขนาดไหน...
------------------------------------------------------
คือสิ่งเหล่านี้...ไม่ใช่แต่เฉพาะเรื่อง การบอล เท่านั้นน่ะทั่น ไม่ว่าการอะไรต่อการอะไรก็เถอะ ถ้าลองวนไป-วนมาอยู่กับสูตรความสำเร็จ โดยไม่คิดจะปรับ ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือจนมันกลายเป็น กับดักแห่งความสำเร็จ ขึ้นมาจริงๆ เกิดการติดยึด ติดมั่น พอกพูนเป็น อัตตา-มมังการ ขึ้นมาเมื่อไหร่ ต่อให้เก่งแสนเก่ง ดีแสนดีเพียงใด โอกาสที่จะเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง หลับกลางอากาศ ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ย่อมเป็นไปได้ทุกเมื่อ พระ ท่านเลยต้องคอยชี้แนะ ชี้นำ ถึงคุณประโยชน์และหลักประกันอันเนื่องมาจากการสลายอัตตา มมังการ มาโดยตลอด ชนิด อภิมหาพระ อย่าง ท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านยังกระตุกเอาไว้แรงๆ ถึงขั้นว่า ไม่ว่าอัตตาดี หรืออัตตาชั่วก็ตามที แต่ “ชั่วๆ-ดีๆ...ล้วนอัปรีย์ไปด้วยกันทั้งนั้น...”
-------------------------------------------------------
และไม่ใช่แต่เฉพาะปัจเจกบุคคล ทีมเวิร์ก กระทั่งสังคมทั้งสังคม หรือชาติบ้านเมืองก็เถอะ ถ้าลองเกิดอัตตา-มมังการ จนก่อให้เกิดการยึดมั่น ถือมั่น โดยไม่คิดจะตรวจสอบปรับปรุง แก้ไข ให้สอดคล้องกับ สภาวะความเปลี่ยนแปลง อันเป็นนิรันดร ไปในแต่ละช่วง แต่ละระยะ หลายต่อหลายชาติก็เคยสูญเสียอิสรภาพและเอกราช ก็เพราะการยึดมั่น ถือมั่น ทำนองนี้มาโดยตลอด อย่างเช่นประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ที่เคยยิงประตูประเทศไทยซะพรุน ในช่วงกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่สอง แล้วเกิดอัตตา อหังการ มมังการ จนต้องเสร็จพวกนักล่าอาณานิคมอังกฤษกันจนได้ ขณะประเทศไทยที่อัตตาถูกสลายไปเพราะความพ่ายแพ้ต่อพม่า กลับสามารถปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ จนรอดปากเหยี่ยว ปากกา กลายเป็นประเทศเอกราชเพียงแห่งเดียวในย่านนี้ เป็นต้น...
-----------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ระหว่างที่ ดูบอล ก็คงต้องหันมา ย้อนดูตัว กันไปเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มๆ เกิดกระแสความพยายามในอันที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข อะไรต่อมิอะไรให้ดีๆ ขึ้นมามั่ง อย่างเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นในหมู่ พระ นั่นแหละทั่น คือจากที่เคยใช้ระบบ 4-2-4 หรือระบบ 4-2-3-1 หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันมีแต่แย่ลงๆ เกิดการอมเงินทอนวัด การเอาเงินวัดไปเล่นหุ้น การแปรพุทธแท้ๆ ให้กลายเป็นพุทธพาณิชย์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มันควรปรับระบบ เปลี่ยนระบบ ไปในแนวไหน ควรจะหันมาใช้บริการ มาร์โก รอยส์ หรือยังคิดจะติดยึดอยู่กับ ไอ้ก้านยาว-โธมัส มุลเลอร์ คงต้องคิดๆ ตามไปด้วย อย่ามัวแต่ เอามันซ์ซ์ซ์ กันลูกเดียว...
---------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Maya Angelou...“Prejudice is a burden that confuses the past, threatens the future and renders the present inaccessible.-อคติ-อุปาทาน...เป็นภาระทางใจ ที่ทำให้เรื่องในอดีตสับสน เรื่องในอนาคตถูกคุกคาม และเข้าไม่ถึงเรื่องในปัจจุบัน...”
----------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |