ฟังด้วยสติ...ไม่มีอคติ...ก็คงได้ใจความ


เพิ่มเพื่อน    

คนบางคนเกลียดลุงตู่เพราะลุงตู่ทำรัฐประหาร ทำให้พรรคของตนเองหมดอำนาจ บางคนเกลียดลุงตู่เพราะทำให้หัวหน้าพรรคที่ตนรักแบบสุดลิ่มทิ่มประตูต้องหลุดจากแวดวงการเมือง บางคนเกลียดลุงตู่เพราะได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีพรรคของตนเองเข้าร่วมรัฐบาล บางคนเกลียดลุงตู่เพราะลุงตู่เป็นทหารที่จงรักภักดีต่อสถาบัน ทำให้พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศได้ บางคนเกลียดลุงตู่เพราะถูกครอบงำโดยคนที่ต้องการล้มลุงตู่เพื่อล้มล้างสถาบัน ความเกลียดชังลุงตู่ ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุอันใด ทำให้พวกเขากลายเป็นคนมีอคติ จนไม่มีสติที่จะพิจารณาสิ่งที่ได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับการทำงานของลุงตู่ด้วยใจเป็นธรรม ลุงตู่ทำอะไรผิดหมด การออกมาตำหนิลุงตู่นั้น พวกเขาคิดอย่างเดียวว่าจะแซะ แขวะ ด่า ด้อยค่าลุงตู่ได้อย่างไร โดยไม่มองเลยว่าการพูดจาแสดงความคิดเห็นของเขานั้น วิญญูชนจะมองเขาอย่างไร จะถูกมองว่าตรรกะพิการ หรือเป็นการโชว์โง่ หรือเป็นความริษยาหรือเปล่า

เมื่อลุงตู่ออกมาแถลงเกี่ยวกับการเปิดประเทศ บางคนก็หาว่าลุงตู่ออกมา “เห่า” แล้วบอกว่าเสียเวลาดูทีวี บางคนก็บอกว่า “ถ้าจะมาพูดเรื่องเปิดประเทศอย่ามาพูดดีกว่า” บางคนก็หาว่าลุงตู่หมดปัญญาหาเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ จึงเอาชีวิตของประชาชนมาเสี่ยง บางคนไม่มีปัญญาจะแย้งเนื้อหาที่ลุงตู่พูดก็ไปพูดถึงการพูดโดยไม่สบสายตาประชาชนที่อยู่หน้าจอ เอาแต่มองแผ่นกระดาษที่เขาเขียนข้อความให้อ่าน บางคนก็จงใจแย้งทุกเรื่องโดยไม่ฟังข้อความให้ครบถ้วนว่าการเปิดประเทศนั้นไม่ใช่การเปิดทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข เป็นการทยอยเปิด โดยแต่ละที่จะต้องมีความพร้อม และจังหวัดต่างๆ ที่จะเปิดก็ไม่ใช่ว่าจะเปิดทั้งจังหวัด เขาเปิดเฉพาะในบางอำเภอที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความพร้อม มีการกำหนดเงื่อนไขชัดเจนทั้งทางเราซึ่งเป็น supply side ผู้ให้บริการ และทางนักท่องเที่ยวที่เป็น demand side และเมื่อเข้ามาแล้วก็ยังมีมาตรการรองรับที่เป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด เป็นการสร้างสมดุลระหว่างการดูแลเรื่องสุขภาพของประชาชนกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ทำมาหากิน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ที่จริงแล้วหลังจากที่ลุงตู่ประกาศว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน ซึ่งเป็นประมาณกลางเดือนตุลาคม 2564 แล้วลุงตู่จะตีเนียนทำเฉยไม่พูดอะไรเลยก็ได้ แต่ลุงตู่ก็ออกมาพูดให้เราเห็นภาพเรื่องการทยอยเปิดประเทศ ตั้งแต่การเปิด Phuket Sandbox ต้อนรับนักท่องเที่ยว และได้ผลดี ได้เงินมาเป็นหลายพันล้าน และมีพื้นที่อื่นทำตามด้วยความระมัดระวัง และเมื่อเราสามารถฉีดวัคซีนได้มากพอ เราก็จะเริ่มทยอยเปิดอีก เมื่อถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งมีเวลาอีก 2 สัปดาห์ ในวันที่ลุงตู่ออกมาแถลง หลายพื้นที่น่าจะมีความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น บางคนก็ยึดติดกับฉากทัศน์เดิมๆ (Scenario Trap) ว่าตอนนี้ยังมีคนติดวันละเป็นหมื่น การฉีดวัคซีนก็ยังไม่มากพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ก็ไม่เถียงนะ ว่าเวลานี้ยังมีคนติดเป็นหมื่น และยังฉีดวัคซีนไม่มากพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แล้วไม่คิดบ้างเลยหรือว่า เรายังมีเวลาอีก 2 สัปดาห์ที่จะลดจำนวนคนที่ติดเชื้อ และเราจะฉีดวัคซีนได้เพิ่มขึ้น เมื่อถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 พื้นที่ไหนพร้อมก็เปิด พื้นที่ไหนไม่พร้อมก็ยังไม่เปิด ประชาชนที่ต้องการให้พื้นที่ของตนเองได้เปิดรับนักท่องเที่ยว ได้เปิดกิจการของธุรกิจต่างๆ ก็ต้องช่วยกันทำให้พื้นที่ของตนเองให้เป็นพื้นที่สีฟ้าที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ และเปิดธุรกิจต่างๆ ทำมาหากินได้เป็นปกติ

สิ่งที่ลุงตู่พูดนั้น ถ้าหากตั้งใจฟังด้วยสติและไม่มีอคติ ก็จะรู้ว่าลุงตู่พูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของประชาชน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการผ่อนปรนให้ธุรกิจต่างๆ ทำมาหากินได้เป็นปกติ โดยเป็นการจัดการที่เน้นความสมดุลทั้งสองอย่าง เราจะรอจนกว่าการแพร่ระบาดของโควิดหมดไปแล้วค่อยมาฟื้นฟูเศรษฐกิจคงไม่ได้ เพราะถ้าหากทำเช่นนั้น ประชาชนอาจจะไม่มีใครตายด้วยโควิดอีกต่อไป แต่จะอดตายเพราะไม่มีจะกิน ดังนั้นเราจึงต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตและการทำธุรกิจแบบ New normal เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ทำตามใจตัวเองไปทุกเรื่อง ไม่ทำสิ่งที่ทำให้ตนเองและคนอื่นที่อยู่รอบข้างกลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงในการจะติดเชื้อโควิด บางคนก็เอามาล้อเลียนเย้ยหยันลุงตู่ว่า “เปิดพฤศจิกายน 2564 Lock down อีกครั้ง มกราคม 2565” พวกนี้ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ติดกับดักฉากทัศน์ ไม่ยอมเข้าใจว่าเรามีการฉีดวัคซีนมากขึ้น มีการเฝ้าระวังการติดเชื้อเป็น Cluster มากขึ้น มีมาตรการในการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการจะติดเชื้อเป็นสองหมื่นกว่าจนเป็นเหตุทำให้ต้อง Lock down อีกนั้นไม่น่าจะมีอีกแล้ว ยกเว้นประชาชนประมาทและไม่ทำตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด

ลุงตู่ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้เพียงลำพัง เรื่องสุขภาพของประชาชน ท่านก็ปรึกษาคณะหมอที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ไวรัสวิทยา และข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจท่านก็ปรึกษานักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทย แต่ละคนเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ และมีตำแหน่งเป็นผู้นำสภาทางด้านธุรกิจ เป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ดังนั้นใครก็ตามที่พยายามหมิ่น ประณามหยามเหยียดลุงตู่ว่าเป็นคนไม่รู้อะไรเลย และพยายามจะแย้งลุงตู่ทุกเรื่องนั้น โปรดตระหนักด้วยว่าคุณไม่ได้แย้งลุงตู่ หรือด้อยค่าลุงตู่ คุณกำลังแย้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข และแย้งนักธุรกิจที่เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ ก่อนจะด่าจะแย้งว่ามาตรการต่างๆ ที่ลุงตู่ประกาศออกมาใช้ไม่ได้นั้น คิดให้ดีนะ คุณกำลังดูถูกใคร เหยียดหยามใคร คงไม่ใช่ลุงตู่เพียงคนเดียวแน่ๆ

ลุงตู่พูดชัดเจนว่าด้านสาธารณสุขท่านปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข มาตรการต่างๆ ที่ประกาศออกมาก็เกิดจากการแนะนำของท่านเหล่านี้ ดังนั้นลุงตู่จึงขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ตอนนี้ลุงตู่และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้จัดหาวัคซีนมามากเพียงพอและมีการจัดฉีดที่มีประสิทธิภาพ ฉีดได้มากขึ้นในแต่ละวัน ขอให้ประชาชนเต็มใจพากันไปฉีด การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว โดยไม่ต้องกักตัวก็มาจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข และเราก็ไม่ได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ เราจะรับนักท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงต่ำ และเมื่อเข้ามาแล้วเราก็มีมาตรการที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่ดี เจ้าหน้าที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ประชาชนให้ความร่วมมือ เราก็คงจะเปิดประเทศได้อย่างปลอดภัย ธุรกิจต่างๆ ก็จะทำมาหากินได้จนเกือบจะเป็นปกติ เพียงแต่เราไม่ประมาท การ์ดอย่าตก

บางคนยังตั้งข้อสงสัยว่า ในเมื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้แล้วทำไมยังมี Curfew อยู่ โถๆๆๆๆ ก็เขายืดเวลาให้เป็น 5 ทุ่มแล้วไง คนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตแบบทำงานแล้วทำธุระโน่นนี่นั่น แล้วกลับบ้าน การกำหนดเวลากลับเข้าบ้านเวลา 5 ทุ่มน่าจะเพียงพอแล้ว คนที่อยู่นอกบ้านหลัง 5 ทุ่ม ส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทุกคนนะ) ก็มักจะเป็นคนที่เที่ยวกลางคืน และคนเที่ยวกลางคืนก็มักจะดื่มเหล้า แล้วอาจจะควบคุมพฤติกรรมตนเองไม่ได้ เสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด เรื่องนี้น่าจะเข้าใจได้นะคะ. 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"