16 ต.ค.64 - จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "ทะลุฟ้า" โพสต์ข้อความบิดเบือนประวัติศาสตร์ โดยอ้างบันทึกลับของ เซอร์ อาร์เธอร์ เจมส์ เดอ ลา แมร์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกรุงเทพฯ เกี่ยวกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ล่าสุด ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร แห่งภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ระบุว่า ในบทความของ เพจ ทะลุฟ้า เรื่อง “เปิดบันทึกทูตอังกฤษ: การแทรกแซงของสถาบันกษัตริย์ที่มีต่อเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516” โพสต์วันที่ 14 ตุลาคม 2564 “ทะลุฟ้า” ได้ลงข้อความว่า “ในช่วงหลังจากเหตุการณ์วันที่ 14 ตุลา 2516 Sir Arthur James de la mare (เซอร์ อาร์เธอร์ เจมส์ เดอ ลาแมร์) เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกรุงเทพฯ ในสมัยนั้นได้มีการส่ง “บันทึกลับ” ที่เกี่ยวกับการปฏิวัติในเดือนตุลาคมไปยังกรุงลอนดอนเพื่อเล่าถึงเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนั้น
โดยเอกสารนี้ปัจจุบันไม่ได้เป็นเอกสารลับอีกต่อไปและสามารถเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยในบันทึกนั้น เดอ ลาแมร์ได้ตั้งข้อประหลาดใจไว้ 2 อย่างเกี่ยวกับการล่มสลายที่ง่ายดายเกินไปของรัฐบาลถนอม และการแทรกแซงของพระมหากษัตริย์ในการยุติความรุนแรง
ในประเด็นที่เดอ ลาแมร์ประหลาดใจประเด็นแรกคือ การล่มสลายที่ง่ายดายเกินไปของรัฐบาลถนอม และเข้าก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะสถาบันกษัตริย์นั้นได้คาดการณ์แล้วว่า รัฐบาลจอมพลถนอมนั้นจะไปไม่รอด ก็เลยเลือกที่จะเข้าข้างกลุ่มนักศึกษาเพื่อรักษาฐานเสียงที่มีมากกว่าเพื่อความสร้างความดีความชอบต่อประชาชน...”
หากไปดูเอกสารรายงานดังกล่าวของ เดอ ลาแมร์ (ดูเอกสารแนบ) จะไม่พบข้อความที่ว่า “สถาบันกษัตริย์นั้นได้คาดการณ์แล้วว่า รัฐบาลจอมพลถนอมนั้นจะไปไม่รอด ก็เลยเลือกที่จะเข้าข้างกลุ่มนักศึกษาเพื่อรักษาฐานเสียงที่มีมากกว่าเพื่อความสร้างความดีความชอบต่อประชาชน...”
แต่เดอ ลาแมร์ ประหลาดใจจริงๆกับการยุติความรุนแรงลงได้อย่างฉับพลัน โดยเขาได้เขียนไว้ในย่อหน้าแรกว่า “การล่มสลายลงอย่างง่ายดายของระบอบ (คณาธิปไตยของทหาร) เกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ รวมทั้งการยุติการความรุนแรงอย่างน่าประหลาด” โดย เดอ ลาแมร์ เขียนว่า สาเหตุที่บ้านเมืองสงบลงได้อย่างรุนแรงเป็นเพราะ “จากการทราบข่าวว่า จอมพลถนอม-ประภาส และพันเอกณรงค์ ได้ออกไปจากประเทศ และ การลงมาอยู่ข้างนักศึกษาและประชาชนของกษัตริย์เป็นปัจจัยตัดสินสำคัญเด็ดขาด (decisive) ”
และเดอ ลาแมร์ยังได้กล่าวไว้อีกในหัวข้อที่ 3 ว่า “3. อะไรที่เป็นสาเหตุให้ยุติความรุนแรงอย่างฉับพลั? สาเหตุได้แก่ ข่าวที่ออกมาว่า บุคคลที่เป็นที่รังเกียจทั้งสามได้ออกนอกประเทศไปแล้ว และ วิถีแบบไทยที่น่าพิศวง และเหนือสิ่งอื่นใด คือ การลงมาของกษัตริย์” และเขาได้ขยายความต่อมาในหัวข้อที่ 6 ว่า “6. ทำไมการจลาจลในจำนวนผู้คนมหาศาล มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนกระทั่งตอนเย็นของวันที่ 15 ตุลาคม กลับยุติลงด้วยความสงบอย่างฉับพลันหลังสองชั่วโมงต่อมา ?
แน่นอนว่า การทราบข่าวที่ประกาศว่า คนทั้งสามกำลังออกจากประเทศมีส่วนให้ทุกอย่างสงบลง และปัจจัยของวิถีแบบไทยที่น่าสนเท่ห์ เพราะในขณะที่คนไทยถูกปลุกเร้าจนมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงเหมือนอย่างคนชาติใดๆก็ตาม พวกเขารู้สึกภายในใจว่า มันละเมิดความเป็นไทยและความเป็นพุทธ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้าคิดว่า เราต้องยอมรับพระราชอำนาจอันเร้นลับ (mystic- อาจอนุโลมแปลว่า ศักดิ์สิทธิ์) ของกษัตริย์ที่ทำให้ทุกอย่างจบลงได้อย่างพิเศษ”
ส่วนที่ ในหลวงรัชกาลที่เก้าคาดการณ์นั้น เดอ ลาแมร์ ได้กล่าวไว้ว่า “จริงๆแล้ว บุคคลเดียวที่ข้าพเจ้ารู้ ที่คาดการณ์ล่วงหน้าถึงความรุนแรงของสถานการณ์คือ พระมหากษัตริย์ เมื่อ มิสเตอร์ Royle เข้าเฝ้าพระองค์ในวันที่ 10 ตุลาคม การทำกิจกรรมทั้งหลายทั้งปวงของนักศึกษายังไม่มีความรุนแรงอะไรและยังสงบสันติ แต่พระองค์ทรงตรัสว่า พระองค์ทรงวิตกอย่างยิ่งว่าจะเกิดการนองเลือด พระองค์ทรงวิจารณ์รัฐบาลอย่างหนักที่ไปจับกุมตัวสิบสองนักศึกษา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยเหตุผลที่ใช้ในการจับกุม ทั้งตัวพระองค์เอง ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการรัฐธรรมนูญ และนักศึกษามีสิทธิ์เต็มที่ในการชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญอย่างสงบสันติ”
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เพจ “ทะลุฟ้า” นำบทความดังกล่าวของ BBC Thai มาตีความและใส่ข้อความของตัวเองผสมลงไป ทำให้คนอ่านอาจเข้าใจไปว่าเป็นคำกล่าวของ เดอ ลาแมร์ (ดูเอกสารแนบ)
ขอขอบคุณ คุณ จิระพงษ์ พิพัฒน์เจษฎากุล ที่ให้คำแนะนำมาครับ ร่วมด้วยช่วยกัน !
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |