ในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกวันนี้ ถึงเวลาที่ประเทศเล็ก ๆ ที่มีจุดตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ที่ศูนย์กลางอาเซียนอย่างประเทศไทยต้องปรับสร้างทิศทางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ ที่มุ่งเน้นเร่งปรับตัวพัฒนาสร้างความก้าวหน้ายุคใหม่ เปิดประตูสร้างมิตรภาพกับทุกค่าย โดยเฉพาะแกนมหาอำนาจโลกทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก ที่วันนี้ดูเหมือนกำลังผลักโลกให้เข้าสู่สงครามเย็นอีกครั้ง! จากภาพปรากฏความเคลื่อนไหวฝั่งอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกที่มีท่าทีไม่เป็นมิตรกับจีนเอาเลย! 
    ความเคลื่อนไหวขัดแย้งที่ปรากฏเด่นชัดขึ้นทุกขณะมีหลากรูปแบบ ทั้งการใช้ฉันทามติ กฎบัตร กติกาทางการค้า-ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการสร้างเครือข่ายในมิติต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และมิติความั่นคง ฯลฯ ที่ล้วนมีเป้าหมาที่จะปรับสร้างความได้เปรียบและมุ่งแสวงประโยชน์เหนือฝ่ายตรงข้างแบบเอาเป็นเอาตาย! ในกระแสเชี่ยวกรากนี้ จะมีก็แต่ความปรองดองเป็นมิตรของเราต่อสองฟากฝั่งเท่านั้น ที่นำสู่การพัฒนาปรับสร้างความก้าวหน้ายั่งยืนได้! 
    บทบาทความเคลื่อนไหวของภูมิรัฐศาสตร์ประเทศเล็ก ๆ อย่างไทยเรา คงต้องจัดปรับสร้างความอยู่รอดและการพัฒนายกระดับประเทศในมิติใหม่ ที่ต้องไม่เสียเวลาร่วมวงผลประโยชน์และความขัดแย้งที่อาจได้ผลลัพท์เพียงแค่ “กินน้ำใต้ศอกคนอื่น” เท่านั้น โดยเฉพาะในกระแสร้อนเสมือนสงครามเย็นขณะนี้ ปฏิสัมพันธ์ในระบบอำนาจโลกของประเทศไทย คงต้องมุ่งเน้นการปรับสร้างความก้าวหน้าภายในของเรา แสวงหาดุลยภาพความสัมพันธ์กับ 2 ฝั่งความขัดแย้ง! เพื่อเปิดตัว-พาตัวเองสร้างระบบการลงทุนที่เราเข้าถึงนวัตกรรม-เทคโนโลยี-ความก้าวหน้าใหม่ในมิติของการสร้างสัมพันธภาพใหม่ทางเศรษฐกิจ เพื่อปรับสร้างกระบวนการเปลี่ยนผ่าน-ต่อยอดพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าให้ได้ นี่คือเป้าหมายสำคัญที่เราต้องปรับสร้างขึ้นเป็นภารกิจยุคใหม่ ในบทบาทภูมิรัฐศาสตร์ของไทยวันนี้!  
    หากประเมินพื้นฐานศักยภาพที่มีอยู่-เป็นอยู่ ย่อมชัดเจนว่าเราคงไม่สามารถขัดแย้งรบรากับใครได้! ด้วยว่ามีภาระและปัญหามากมายในการจัดการผลประโยชน์ภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็ต้องปรับสร้างความก้าวหน้าใหม่ ให้ทันโลกที่เปลี่ยนไปรวดเร็วสู่อนาคตแบบไม่หยุดรอใคร! รวมทั้งไทยเรายังมีสถานภาพที่ผูกโยงสัมพันธ์กับความร่วมมือในอาเซียน มีความร่วมมือที่ต้องเสริมสร้างความสมานฉันท์ในภูมิภาคเอเชีย และมีบทบาทที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่ต้องเร่งสร้างความก้าวหน้าด้วยกันในความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตในโลกยุคดิจิทัล ศตวรรษที่ 21
    สังคมไทยช่วงที่ผ่านมา มีสภาวะการดำรงอยู่แบบชะงักงัน มากความขัดแย้ง-ขาดช่วงการพัฒนาปรับสร้างความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจมานาน มีแต่ความเคลื่อนไหวขัดแย้งทางการเมืองที่มีแต่จะนำพาทำลายตัวเองมาจนบอบช้ำ! ขณะที่โลกวันนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก-ขนาดใหญ่ ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีกลายเป็นแก่นแกนความเคลื่อนไหวก้าวหน้า สร้างคุณภาพเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตยุคใหม่ ปล่อยทิ้งส่วนที่ปรับตัวไม่ได้-อ่อนแอถูกเบียนขับออกไปจากพื้นที่ความเคลื่อนไหวยุคใหม่! โลกวันนี้จึงเป็นโลกที่ผันผวน-แต่มากด้วยโอกาสและวิกฤต หากการปรับตัวทางภูมิเศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ขาดความเข้าใจ-ตามไม่ทันโลก ปรับตัวไม่ได้ในโลกใบใหม่ ก็ต้องอยู่อย่างยากลำบาก! 
    การเปลี่ยนแปลงในโลกวันนี้ หากพิจารณาด้านขนาด ความเร็ว ช่วงเวลา และอิทธิพลจากความเปลี่ยนแปลง จะพบว่ามันไม่เหมือนกับคลื่นความเปลี่ยนแปลงในอดีตอีกต่อไป! ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่สั่งสมบ่มเพาะผ่านกาลเวลาค่อยๆสร้างเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่เป็นมาในอดีต! แต่ในโลกใหม่วันนี้ จะเกิดคลื่นการเปลี่ยนแปลงเป็นริ้วระลอกขนาดเล็ก-กลาง ระลอกแล้ว-ระลอกเล่า เป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งที่เกิดจากความก้าวหน้าของนวัตกรรม-เทคโนโลยี ซึ่งเกิดบ่อยครั้งแต่ทรงพลัง! นี่คือสภาพที่โลกวันนี้เผชิญอยู่และต้องตระหนักรับรู้!
    ศักยภาพความรู้เท่าทันและสมรรถนะในการปรับตัวของผู้คน-ระบบ-ระเบียบโดยรวม ในกระแสความเปลี่ยนแปลงวันนี้คือศักยภาพที่จะฉายบอกปัจจัยภายในว่า เรามั่นคงแข็งแกร่งเก่งเพียงใดในกระแสความเคลื่อนไหวของโลกยุคนี้! ซึ่งเรายังต้องจัดปรับตัวตน-ความรู้-ทักษะ-ระบบ-ระเบียบในสังคมและกลไกภายในอีกมาก จนไม่อาจหันไปเลือกยืนกับใครหรือกับความขัดแย้งข้างหนึ่งข้างใดได้เลย! 
    บ้านเมืองวันนี้กระหายความก้าวหน้า-การปรับตัวให้ทันโลกใบใหม่ โลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงแข่งขันที่เข้มข้น ซับซ้อน โกลาหล!
    การสร้างดุลยภาพในมิติภูมิรัฐศาสตร์ในแบบที่สร้างสรรค์-สมานฉันท์ จึงเป็นทางเลือกสำคัญที่จะเสริมพลังให้กับบ้านเมืองยามนี้ มากกว่าที่จะเป็นภูมิรัฐศาสตร์การเลือกข้างแบบเดิม ๆ หรือต้องก้มหัวให้มหาอำนาจคบหากับความแตกแยก ที่พาตัวเองไปอยู่ใต้บงการทางการเมืองระหว่างประเทศฝั่งฟากใด! หรือรีบลน-บุ่มบ่าม-ไม่ดูตาม้าตาเรือ เคลื่อนไหวกระโจนเข้าสู่เศรษฐกิจแบบฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนไม่เป็นตัวของตัวเอง! เพราะสภาพพพพ! ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวข้างต้น ได้สร้างบทเรียนให้กับประเทศเล็ก ๆ อย่างเรามามากมาย-หลากหลายผลลัพท์ ที่ได้รับจากความเคลื่อนไหวในกระแสโลกช่วงที่ผ่านมา แม้เราอาจสูญเสียไม่มากมายเช่นหลาย ๆ ประเทศก็ตาม! 
    แต่จุดยืนที่เป็นตัวของตัวเอง ในการปรับทิศทางบทบาทภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ที่สร้างสรรค์-สมานฉันท์-ไม่เลือกข้าง น่าจะเป็นเส้นทางที่เข้าถึงและเสริมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคมเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ ในกระแสเปลี่ยนผ่านที่เชี่ยวกรากของความขัดแย้ง-และสถานการณ์การพัฒนาที่ก้าวหน้า-รวดเร็วของนวัตกรรมและเทคโนโลยีศตวรรษที่ 21 ได้แน่! 

โลกใบใหม่