15 ต.ค.64 - นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ข้อความถึงกรณีที่กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรมด้านข้างอนุสรณ์สถาน 14ตุลาฯ พร้อมนำป้ายผ้าที่เขียนข้อความ “ปฏิรูปสถาบัน”มาผูกไว้รอบบริเวณงานรำลึกวีรชนฯ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ นายประสาร มฤคพิทักษ์ กรรมการมูลนิธิ 14 ตุลา และอดีตผู้นำนักศึกษารุ่น 14 ตุลาฯ16 แสดงความไม่พอใจ ว่า

วันที่ 14 ตุลา.2516

เมื่อ 48 ปีมาแล้ว ซึ่งนับว่านานมาก
อารมณ์คนหนุ่มสาวรุ่นนั้นกับคนหนุ่มสาวรุ่น พศ.นี้ ย่อมแตกต่างกัน

รุ่นนั้น มีความขัดแย้งระหว่างทหารกับประชาชนและนิสิตนักศึกษา
แค่ประเด็นใหญ่ประเด็นเดียว คือ “เผด็จการทหาร” ที่ฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มการเลือกตั้ง
และไม่มีทีท่าที่ทหารจะเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ให้ระบบประชาธิปไตยมาแทนที่ระบบเผด็จการทหารที่ยึดอำนาจมานานถึง 15 ปี

ทหารให้มีรัฐธรรมนูญครั้งเดียว แล้วมีการเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาล แล้วทหารก็รัฐประหารตัวเอง ล้มรัฐบาลของตัวเองเสีย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ความวุ่นวาย
การใช้อภิสิทธิ การใช้อำนาจ การทุจริตคอรัปชั่น

มาถึงจุดที่ประชาชนนิสิตนักศึกษาหมดความอดทน มาก่อนหน้านั้น ก็นานกินเวลาถึงเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ พศ.2509

ขณะเดียวกัน รอบๆประเทศก็เกิดสงครามเพื่อนบ้าน

มีฐานทัพอเมริกาบนผืนแผ่นดินไทย
เป็นฐานส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดในเวียดนาม ลาว กัมพูชา ที่กำลังต่อสู้กับลัทธิล่าเมืองขึ้น ที่นำโดยสหรัฐอเมริกา

จึงเกิดกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ 100 คน นำโดยนายธีรยุทธ บุญมีและคณะ
หนึ่งในนั้นก็มีนายประสาร มฤคพิทักษ์ ร่วมเคลื่อนไหวอยู่ด้วย

ประสารทำหน้าที่ประสานผู้คนที่พร้อมสู้เผด็จการทหาร มาร่วมลงชื่อ โดยไม่คิดว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่

จนทหารพลาดทางการเมือง ตั้งข้อหากบฏต่อผู้ที่ไปเดินแจกใบปลิวทั้ง 12 คน
โดยมีพี่ไขแสง สุขใส เดินเข้าสู่ห้องขังไปสมทบ เป็น 13 กบฏ

ฉะนั้นวันนี้ ที่ประสารบอกว่าวันนั้น ”วีรชน ๑๔ ตุลา.” ไม่มีปัญหากับสถาบันกษัตริย์นั้นเป็นความจริง

เพราะเมื่อเกิดเหตุตำรวจตีประชาชนหน้าวังสวนจิตรฯ ตกคูน้ำ พระองค์กับสมเด็จย่าและสมเด็จพระราชินี ก็สั่งเปิดประตูวัง ให้ประชาชนและนิสิตนักศึกษาเข้าไปหลบภัย

และเมื่อทหารส่งรถถังกับทหารราบออกมายิงประชาชนที่โกรธแค้นจากเหตุหน้าวัง
มาชุมนุมบนถนนราชดำเนิน ทหารก็ออกมาเผชิญหน้ากับประชาชน นิสิตนักศึกษา
จนพระองค์ท่านใช้พระบารมี ทำให้ 3 ทรราชออกนอกประเทศไป และเกิดนายกรัฐมนตรีพระราชทาน มีการเขียนรัฐธรรมนูญ 2517 ขึ้นมาใหม่

การเมืองก็กลับเข้าสู่ประชาธิปไตยได้ 3 ปี จนเกิด 6 ตุลา.19

กลับมาที่ผู้นำมวลชน นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล นำเดินขบวน นำมวลชน นำนิสิตนักศึกษา นำนักเรียนและนำประชาชน ออกจากธรรมศาสตร์ด้วยคนนับแสน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ 2475 เป็นต้นมา

เดินมาบนถนนราชดำเนิน ก็ไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะเผชิญหน้ากับรถถังและทหาร จนมาสิ้นสุดที่หน้าวังสวนจิตรฯ แล้วสลายการชุมนุม

ที่เสกสรรค์ นำเดินตรงไปสลายการชุมนุมที่หน้าวัง ก็ด้วยต้องการพึ่งพระบารมีของสถาบันกษัตริย์

ต่อเมื่อเหตุการณ์บานปลาย พระบารมีของพระองค์ท่าน ก็ได้ให้ทางออกทางการเมือง
ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา

เพราะฉะนั้นการที่ประสารขอให้คนรุ่นใหม่ในยุคนี้ปลดป้ายผ้าเพียงผืนเดียว ที่มุ่งไปที่สถาบัน ก็ด้วยไม่ตรงกับอารมณ์ความรู้สึกคนรุ่นใหม่ในยุคนั้น ที่ไม่มีเคยมีปัญหากับสถาบันกษัตริย์

ประสารจึงอ้าง “จิตวิญญาณวีรชน 14 ตุลา.16” ให้คนรุ่นใหม่รุ่นนี้เข้าใจ
และพร้อมให้ทำกิจกรรมรอบๆอนุสรณ์สถานกับในห้องประชุมได้

เรื่องก็มีเท่านี้เอง

เพราะคณะกรรมการมูลนิธิ 14 ตุลา.ล้วนเป็นนักต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนมาตลอดชีวิต

ตัวประธานมูลนิธิ นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน ที่เป็นผู้แสดงปาฐกถา ก็สามารถเขื่อมโยงรัฐธรรมนูญ 2517 ไล่เลียงมาแต่ละฉบับ ว่ามีการสืบสานเจตนารมณ์วีรชนอย่างไร
โดยเฉพาะเรื่องการสร้าง”ระบบประกันสุขภาพ”

จนเกิดระบบ”สุขภาพถ้วนหน้า” ที่โด่งดังไปทั่วโลก

และเป็นฐานสาธารณสุขให้สังคมไทยสามารถเผชิญหน้ากับ ”สงครามโควิด-19”
โดยมีความเสียหายต่อชีวิตประชาชนน้อยที่สุด

พิภพ 15-10-2564