บัตร2ใบรอครึ่งปี ‘วิษณุ’ถกกกต.แก้พรป.เลือกตั้ง30มาตราส่อลากยาว!


เพิ่มเพื่อน    

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง  "บิ๊กตู่" ย้ำไม่ยุบสภา พูดไปหลายครั้งแล้วว่าไม่มี "วิษณุ" ถก กกต.แก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีประมาณ 30 มาตรา เป็นเรื่องบัตร 2 ใบ แต่ลากยาวอีกกว่าครึ่งปี 
    เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพื่อให้เกิดมั่นใจถึงกระแสข่าวการยุบสภาว่าจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน โดย พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า "ไม่มีๆ ก็ผมพูดย้ำไปหลายครั้งแล้วไงว่าไม่มี"
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เสนออยากให้แก้ไขกฎหมายให้พรรคการเมืองสามารถช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นได้ว่า นายกฯ ไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ความจริงเรื่องนี้มาจากทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ได้แจ้งให้นายกฯ และบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลฟังว่า มีร่างของพรรค ปชป.ที่ส.ส.ได้เสนอค้างอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร  โดยให้พรรคการเมืองสามารถเข้าไปมีบทบาทในการช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นได้ 
      "ซึ่งร่างดังกล่าวไม่ใช่ของรัฐบาล เป็นของ ส.ส. ดังนั้นก็เป็นหน้าที่ของทางสภา ไม่เกี่ยวกับทางรัฐบาลเลย นายจุรินทร์  มาเล่าให้นายกฯ ฟังเพื่อขอความสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งนายกฯ ก็บอกว่าขอให้ไปว่ากันในสภา โดยที่นายกฯ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติม" นายวิษณุกล่าว
    นายวิษณุยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการพูดคุยกับ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา  เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการยกร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่าการหารือกับ กกต.วันนี้ได้ขอสรุปว่า กกต.จะเป็นผู้จัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญที่มีการทูลเกล้าฯ ถวายขึ้นไปแล้ว ส่วนกฎหมายพรรคการเมือง ดูแล้วยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แต่แนวคิดที่จะแก้ไขมีอยู่ก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นจะมีความเห็นจาก กกต.อีกครั้งว่าจะเอาอย่างไร หาก กกต.เห็นว่าควรต้องแก้ทั้งสองฉบับทำในคราวเดียวกัน ฉะนั้นรอให้เสนอ กกต.มาก่อน
    ทั้งนี้ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ ทางสำนักงาน กกต.ได้ยกร่างขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีประมาณ 30 มาตรา เป็นเรื่องบัตร 2 ใบ รวมถึงวิธีการนับคะแนน ซึ่งจะนับอย่างไรนั้นตนไม่รู้ เพราะยังไม่ได้เห็นร่าง เพราะเขาต้องเสนอ กกต.ก่อน จากนั้นจึงจะเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ และเมื่อ กกต.ใหญ่เห็นชอบแล้ว ก็จะมีการรับฟังความเห็นในส่วนกลาง คือจากพรรคการเมืองและประชาชน จากนั้นจะส่งให้ กกต.จังหวัดทุกจังหวัดรับฟังความเห็นก่อนรวบรวมกลับเข้ามาที่ส่วนกลาง เพื่อปรับปรุงก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็จะส่งไปให้คณะกรรมกฤษฎีกาได้ตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้นก็จะเตรียมส่งร่างดังกล่าวให้รัฐสภา
    เมื่อถามว่า จะคุยกับทาง กกต.อีกครั้งเมื่อไหร่ นายวิษณุตอบว่า ไม่คุยแล้ว จนกว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญจึงจะได้มาดูฤกษ์ดูยามว่าจะส่งร่างไปที่สภาเมื่อใด ระหว่างนี้ทุกคนก็ทำงานของตัวเองไป ทั้งยกร่างซึ่งร่างเสร็จแล้ว 30 มาตรา และเตรียมที่จะเสนอ กกต.ใหญ่ และคิดว่าคงอีกไม่กี่วัน เมื่อ กกต.ใหญ่เห็นอย่างไรก็ปฏิบัติไปตามนั้น เมื่อถามว่าได้เห็น 30 มาตราแล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่เห็นเลย เพราะเขาต้องเสนอ กกต.ใหญ่ก่อน จึงไม่อยากเอามาแสดงก่อน แต่พอผ่าน กกต.ใหญ่แล้วมันก็ต้องเปิดเผยให้คนรับรู้เพื่อติชม ไม่เช่นนั้นจะเรียกว่ารับฟังตามมาตรา 77 ได้อย่างไร 
    ถามว่าถ้าติชมแล้วสามารถปรับแก้ได้หรือไม่ รองนายกฯ ยืนยันว่าได้ เพราะติชมก็เพื่อที่จะแก้ ส่วนที่พรรคกำลังจะทำนั้น เขาก็มีสิทธิ์เสนอได้ เพราะผู้ที่จะเสนอได้ก็เป็น ครม. ตามข้อเสนอเเนะของ กกต. หรือ ส.ส. 1 ใน 10 แต่ ส.ส.คงยังไม่เสนอร่างของตัวเองต่อสภา จนกว่าจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญเหมือนกัน จะเสนอได้อย่างไรในเมื่อรัฐธรรมนูญยังไม่ได้แก้ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่แก้ไขเสร็จ ก็คงจะเสนอเข้าสภาไป ถ้ามีหลายฉบับก็จะไปรวมพิจารณาร่วมกัน 
    "โดยเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาและต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 180 วัน หรือ 6 เดือน เมื่อรัฐสภาพิจารณาเสร็จแล้วก็จะส่งกลับไปให้ กกต.อีกภายใน 15 วัน เพื่อดูว่าการที่คณะกรรมาธิการฯ นำไปแก้นั้นผิดไปจากเจตนารมณ์ของ กกต.หรือไม่ โดย กกต.จะต้องตอบกลับมาภายใน 10 วัน จากนั้นสภาก็จะทำการแก้ไขให้เสร็จภายใน 30 วัน จึงจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนตัวไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรไปกับเลขาฯ กกต. ทั้งนี้ เข้าใจว่าสัปดาห์หน้าก็น่าจะรู้แล้ว" รองนายกฯ กล่าว
    ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า กกต.ไม่ได้เสนออะไร เพียงแค่มาคุยเรื่องไทม์ไลน์เท่านั้น
    วันเดียวกันนี้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ในหัวข้อ “7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโหลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ" โดยระบุว่า การเข้ามาบริหารประเทศของนายกฯ ประยุทธ์ แม้จะอยู่มา 7 ปี แต่ได้ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองหลายอย่าง พัฒนาประเทศ และแก้ไขปัญหาหลายอย่าง แม้กระทั่งปัญหาของน้องสาวนายโทนี่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ก่อเอาไว้ เพราะนายกฯ ประยุทธ์เห็นความสำคัญของคนไทยทุกคน และเห็นใจชาวนาที่ได้รับกรรมจากโครงการรับจำนำข้าว
    "ขอย้ำว่านายโทนี่และน้องสาวกลับประเทศได้ตลอด หากมารับโทษที่ก่อไว้และที่สำคัญ ก่อนที่นายโทนี่จะพูดอะไรออกมา ก็ช่วยดูการกระทำของตัวเองก่อนหน้าเสียก่อน เพราะสุดท้ายที่พูดไปนั้นเหมือนถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า สุดท้ายก็กลับมารดหน้าตัวเอง หากไม่อายคนไทยที่พูดอะไรออกไป ก็อายตัวเองบ้างก็ได้ อายุก็เยอะแล้ว หัดคิดดีทำดีบ้าง เวลาตายไป จะได้บอกยมบาลได้ว่าเคยทำดีอะไรเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ทั้งชีวิต ไม่เคยคิดจะทำดีอะไรสักอย่างเลย" นายเสกสกลกล่าว  
    ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่า น.ส.พรพิมล ธรรมสาร อดีต ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย หลังถูกขับพ้นพรรคจะเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ว่า ยังๆ
    ขณะที่ น.ส.พรพิมลเผยว่า ยังรอเอกสารอย่างเป็นทางการจากพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการไว้บ้างแล้ว เพราะตนเป็นคนมีพรรคมีพวก ที่ผ่านมาค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่ได้ร่วมกิจกรรมของพรรคมาสักระยะหนึ่งแล้ว  
    เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าได้ตัดสินใจไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย น.ส.พรพิมล ปฏิเสธว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคนอื่นๆ ในพรรคภูมิใจไทย  
    ซักว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีสังกัดพรรคการเมืองใหม่ใช่หรือไม่ น.ส.พรพิมลกล่าวว่า ยังไม่ตัดสินใจว่าไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคการเมืองใด ยังมีเวลา 30 วันในการตัดสินใจ ไม่รู้สึกกังวลใดๆ และมั่นใจว่ามีพรรคการเมืองสังกัดแน่นอน เมื่อมีความชัดเจนแล้วตนจะมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง 
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากพรรคเพื่อไทยมีมติขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ออกจากเป็นการสมาชิกพรรคเมื่อวันที่  12 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศรัณย์วุฒิได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่า จะแถลงข่าวถึงท่าทีต่อกรณีดังกล่าว รวมถึงความคืบหน้าในการหาสังกัดพรรคการเมืองในวันที่ 14 ต.ค. เวลา 15.00 น. ที่ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 
      ล่าสุด นายศรัณย์วุฒิแจ้งกับสื่อมวลชนว่า ขอเลื่อนการแถลงข่าวออกไปก่อน เป็นในวันที่ 15 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา เพราะกำลังรอเรื่องบางอย่างที่สำคัญมากก่อน ถ้ายังไม่มีมาแสดงต่อสื่อมวลชนก็ยังไม่สามารถออกมาแถลงข่าวได้
       เมื่อถามว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใด นายศรัณย์วุฒิอ้างว่า ยังไม่อยากพูดถึงในตอนนี้ รอให้ทุกคนทราบพร้อมกันในวันที่ 15 ต.ค.จะดีกว่า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"