เกิดเหตุคนร้ายใช้ธนูไล่ยิงเหยื่อในหลายสถานที่ภายในเมืองคองส์เบิร์กทางตะวันออกเฉียงใต้ของนอร์เวย์เมื่อเย็นวันพุธ มีเหยื่อโดนสังหาร 5 คน บาดเจ็บ 2 คน ตำรวจรวบตัวมือธนูไว้ได้เป็นชายชาวเดนมาร์กอายุ 37 ปี ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่อการร้าย
รายงานของเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม กล่าวว่า เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้กินเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง โดยเกิดขึ้นในหลายสถานที่ของเมืองคองส์เบิร์ก เมืองที่มีประชากรราว 25,000 คนอยู่ห่างจากกรุงออสโลทางตะวันตก 80 กิโลเมตร ตำรวจได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 18.13 น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น (23.13 น.วันเดียวกันของไทย) และสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยไว้ได้เมื่อเวลา 18.47 น.
ออยวินด์ อาส ผู้กำกับการตำรวจของเมืองนี้ ยืนยันว่า มีคนเสียชีวิต 5 ราย และมีคนบาดเจ็บถูกส่งเข้าแผนกผู้ป่วยหนัก 2 รายแต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต หนึ่งในนี้เป็นตำรวจที่ออกเวรแล้วและเผชิญกับคนร้ายที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง "ชายผู้ก่อเหตุครั้งนี้ถูกตำรวจจับกุมแล้ว และตามข้อมูลที่ได้ มีผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว" เขากล่าว
การโจมตีครั้งนี้คนร้ายใช้คันธนูและลูกธนูก่อเหตุเป็นส่วนใหญ่ แต่ตำรวจกำลังสอบสวนว่าคนร้ายใช้อาวุธชนิดอื่นด้วยหรือไม่ ภาพถ่ายที่ผู้เห็นเหตุการณ์ส่งให้สถานีโทรทัศน์เอ็นอาร์เคเผยภาพของลูกธนูสีดำลูกหนึ่งปักอยู่บนผนังที่เป็นไม้ และยังมีอีกหลายภาพที่ดูเหมือนลูกธนูแบบเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันหลายลูกตกอยู่ที่พื้น
คำแถลงของตำรวจเมื่อคืนวันพุธกล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุแรงจูงใจของคนร้ายได้ แต่การสอบสวนยังไม่ตัดความเป็นไปได้ของการก่อการร้าย "จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นธรรมดาที่จะต้องประเมินว่าเป็นการก่อการร้ายหรือไม่" อาสกล่าว
ตำรวจเปิดเผยเมื่อคืนวันพุธเพียงว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมรายนี้เป็นพลเมืองเดนมาร์ก อายุ 37 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองคองส์เบิร์กแห่งนี้ เขาไม่ได้เป็นชาวนอร์เวย์ตามที่มีรายงานข่าวทางโทรทัศน์หรือข่าวลือทางสื่อสังคมออนไลน์ก่อนหน้านั้น
สถานีทีวี2 รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้รับสารภาพแล้ว และว่าเขาเปลี่ยนศาสนามานับถืออิสลาม และมีประวัติปัญหาสุขภาพ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้
เออร์นา โซลเบิร์ก นายกรัฐมนตรีหญิงของนอร์เวย์ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง แถลงเมื่อวันพุธว่า เหตุการณ์นี้น่าตกใจ ตนเข้าใจว่าคนจำนวนมากหวาดกลัว แต่สิ่งสำคัญคือตำรวจควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
โจนัส กาห์ร สโตเร ซึ่งกำลังจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนอร์เวย์ในวันพฤหัสบดี ภายหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว กล่าวว่า เขาได้รับรายงานจากรัฐบาลที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งโดยตลอด
ปกติแล้วตำรวนนอร์เวย์จะไม่ติดอาวุธ แต่หลังเหตุการณ์นี้ สำนักงานตำรวจของนอร์เวย์ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศพกพาอาวุธเพื่อป้องกันไว้ก่อน กระนั้นคำแถลงกล่าวว่า ถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงในระดับภัยคุกคามของประเทศ
การฆ่าหมู่ครั้งนี้เป็นการโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในนอร์เวย์นับแต่ตั้งปี 2554 ที่แอนเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก ชายหัวขวาจัดสุดโต่ง ก่อเหตุวางระเบิดโจมตีอาคารที่ตั้งของสำนักงานนายกรัฐมนตรีในกรุงออสโล แล้วเดินทางไปโจมตีเยาวชนที่เข้าค่ายฤดูร้อนบนเกาะอูโทยา รวมแล้วมีเหยื่อโดนสังหาร 77 คน เป็นการฆ่าหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดของนอร์เวย์นับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ชายที่ประกาศตนเป็นนีโอนาซียิงใส่มัสยิดหลังหนึ่งชานกรุงออสโล แต่ผู้ประกอบพิธีในมัสยิดช่วยกันจับเขาไว้ได้ ไม่มีใครบาดเจ็บร้ายแรง แต่ก่อนหน้านั้นชายคนนี้ฆ่าน้องสาวบุญธรรมของเขาที่ครอบครัวรับอุปการะจากจีน อัยการระบุว่าเป็นเหตุเหยียดเชื้อชาติ
หลังจากนั้นหน่วยความมั่นคงสามารถขัดขวางแผนก่อเหตุโจมตีของพวกญิฮาดิสต์ได้อีกหลายครั้ง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |