เหตุเกิดที่ลอนดอน 2 อารมณ์ 2 ความรู้สึก ทักษิณ-พลเอกประยุทธ์


เพิ่มเพื่อน    

 วงร่วมพบปะหารือและรับฟังข้อคิดเห็นที่รัฐบาล-คสช.เป็นเจ้าภาพ ขอนัดหารือ-ฟังความเห็นจากฝ่ายกรรมการการเลือกตั้ง-ตัวแทนพรรคการเมือง ที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดีรังสิต ในวันจันทร์ที่ 25 มิ.ย. น่าจับตาว่าสุดท้ายแล้ว ข้อเรียกร้อง-ข้อเสนอ-เสียงสะท้อนทั้งหมด ที่ตัวแทนพรรคการเมือง ที่คาดว่าจะไปร่วมหารือด้วยร่วม 40-50 พรรค สุดท้ายแล้ว ประเด็นหลัก-หัวข้อใหญ่ที่ตัวแทนพรรคการเมืองต้องการให้ คสช.คลายล็อกพรรคการเมือง คือเรื่องใด และเสียงเรียกร้องดังกล่าว บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตอบรับมากน้อยแค่ไหน

มองในภาพใหญ่ วงหารือดังกล่าว ในทางการเมืองก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีไม่น้อย ในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่การคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนผ่านการเลือกตั้ง

สำหรับไทม์มิ่งที่รอวันเข้าโหมดปฏิทินเลือกตั้ง พบว่าในทางการเมือง ความรู้สึก-ท่าทีทางการเมือง ของ 2 ตัวหลักการเมือง คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กับทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้นำพรรคเพื่อไทยตัวจริง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน และห้ำหั่นการเมืองกันมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา กลับพบว่า ทั้งคู่กลับไปอยู่ใกล้ๆ กัน ณ อีกขอบฟ้าหนึ่งของแผนที่โลก นั่นก็คือ

 “กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ”

 ฝ่ายแรก บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถึงตอนนี้ก็ยังแทงกั๊ก ไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าสังกัดพรรคการเมืองใดในช่วงการเลือกตั้ง เพื่อมีชื่อเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ หรือจะเข้ามาในฐานะ นายกฯ คนนอก ขณะที่การเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ของกลุ่มการเมืองคือ สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีข่าวจะเข้าเป็นตัวหลักใน พรรคพลังประชารัฐ ที่จะเป็นพรรคการเมืองฐานอำนาจให้ คสช.และบิ๊กตู่ ก็เคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ในกระแส พลังดูด ที่ด้วยภาพลักษณ์ เสี่ยใหญ่-เอทีเอ็มเคลื่อนที่ ของสุริยะ อดีตเลขาธิการไทยรักไทย เป็นหัวหอก เลยทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองว่า โอกาสที่บิ๊กตู่จะกลับมาเป็นนายกฯ ยิ่งมีมากขึ้น หากพลเอกประยุทธ์เอาแน่ในเส้นทางนี้

ความเคลื่อนไหว-ท่าทีการเมือง ของบิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ ที่เดินทางไปราชการที่อังกฤษ-ฝรั่งเศส และจะกลับไทยกลางสัปดาห์นี้ นอกเหนือจากภารกิจโรดโชว์ดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในอีอีซีแล้ว เรื่องการเมือง-โรดแมปการเลือกตั้ง ก็เป็นอีกครั้งที่บิ๊กตู่ให้คำมั่นว่า จะเกิดขึ้นแน่นอนในต้นปีหน้า

อย่างเช่น คำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ระหว่างเดินทางไป บ้านเลขที่ 10 Downing Street หรือทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2561 เพื่อพบปะหารือกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งวันดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ระบุเรื่องโรดแมปไว้ดังนี้

“การเดินหน้าทางการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยนั้น ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพราะกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต่างๆ หลายฉบับทยอยประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว และการเดินหน้าเข้าสู่ประชาธิปไตยของไทยจะต้องมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และเหมาะกับบริบทของความเป็นไทยด้วย สิ่งที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการในขณะนี้คือ เดินหน้าการปฏิรูป โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประเทศไทยมีการพัฒนาที่มีระเบียบแบบแผน ประเด็นสำคัญอีกเรื่องคือ ประเทศไทยจะต้องเตรียมตัวจัดงานเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จะทำไปพร้อมๆ กัน"

จากนั้นในวันรุ่งขึ้น 21 มิ.ย. สื่อรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ได้พบปะชุมชนไทยในกรุงลอนดอน ซึ่งวงดังกล่าว พลเอกประยุทธ์พูดถึงปฏิทินการเมืองไว้ชัดเจนหลายเรื่องเสียยิ่งกว่าตอนอยู่เมืองไทยเสียอีก โดยมีเนื้อหาบางส่วน อาทิ การย้ำว่าการเลือกตั้ง อาจจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์น่าจะเหมาะสมที่สุด

"เพราะหลังจากนั้นจะต้องใช้เวลาตั้งรัฐบาล จากนั้นก็จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจะต้องห่างจากการเลือกตั้งใหญ่สัก 3 เดือน ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก ก็ขอให้จับตาดูว่าหลังจากที่มีการปลดล็อก ขั้นที่ 1 จะเกิดอะไรขึ้น แล้วขั้นที่ 2 จะมีอะไรตามมา"

ถ้อยคำทั้งหมดของหัวหน้า คสช.คือความชัดเจนในเรื่องโรดแมปการเลือกตั้ง ที่แม้จะย้ำไว้เหมือนกับที่เคยย้ำมาตลอด แต่การพูดของบิ๊กตู่ที่ลอนดอนรอบนี้ กับนายกฯ อังกฤษ และคงพูดลักษณะเดียวกัน ตอนไปพบกับเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในวันที่ 25 มิ.ย. ย่อมมีความสำคัญยิ่ง

เหตุเพราะเป็นการพูดในเวทีโลก กับ 2 ผู้นำมหาอำนาจ ที่มีนักธุรกิจ-นักลงทุน จะเข้ามาลงทุนในอีอีซีจำนวนไม่น้อย หากคำพูดของบิ๊กตู่ไม่เป็นความจริง-โรดแมปเลื่อนไปเลื่อนมาจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศแน่นอน

                นั่นคือท่าทีของหัวหน้า คสช.ในโมเมนต์การเมืองที่แม้ช่วงอารมณ์ที่คุยกับคนไทยในลอนดอน จะมีความรู้สึกเชิงตัดพ้อ เช่น การถูกโซเชียลมีเดียจ้องวิพากษ์วิจารณ์ทุกเรื่อง แต่ก็เป็นโมเมนต์ที่บิ๊กตู่น่าจะได้กำลังใจขึ้นมาเยอะ กับสภาวะผู้นำของตัวเองที่ได้พบกับนายกฯ อังกฤษ-ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในทริปนี้ โดยมีการตอบรับจากอังกฤษและฝรั่งเศสต่อการลงทุนในอีอีซีที่ดียิ่ง

                ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง ทักษิณ ชินวัตร ที่มีทั้งบ้านพักอาศัย-ธุรกิจส่วนตัว อยู่ที่ลอนดอน-อังกฤษ มาหลายสิบปี ตามข่าวที่ปรากฏผ่านสื่อ รวมถึงความเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียก็พบว่า ช่วงที่พลเอกประยุทธ์และคณะอยู่ที่อังกฤษ ตัวทักษิณก็อยู่ที่ลอนดอน และมีการจัดเลี้ยงฉลองวันเกิดให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ลอนดอนด้วย แต่ อารมณ์-ความรู้สึก โดยเฉพาะที่อยู่ในใจของ 2 พี่น้อง ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กับสถานะผู้ต้องหาหลบหนีคดี ย่อมแตกต่างไปจากพลเอกประยุทธ์มากมาย

                ซึ่งท่าทีการเมืองของ ทักษิณ ที่ว่างเว้นไปนาน ไม่พูดเรื่องการเมืองมาหลายปี หลังก่อนหน้านี้ตอน คสช.ทำรัฐประหารแรกๆ ทักษิณเคยพูดเรื่องนี้กับสื่อเกาหลีแล้วมีปัญหาตามมา หลังจากนั้นทักษิณก็ไม่พูดเรื่องการเมืองอีกเลย แต่ระหว่างอยู่ที่ ลอนดอนรอบนี้พร้อมกับยิ่งลักษณ์ ตัวทักษิณมีการแสดงออกทางการเมือง ปรากฏตามสื่อให้เห็นถึง 2 รอบ

                รอบแรก เป็นการให้สัมภาษณ์กับสื่อบีบีซีไทย ที่ทักษิณพูดเรื่องการเมือง-การเลือกตั้ง โดยระบุตอนหนึ่งว่า

“เพื่อไทยจะชนะที่ 1 แน่นอน เมื่อเข้าคูหาแล้วประชาชนคิดอย่างไร อย่าประเมินประชาชนต่ำไป ประชาชนคนไทยเป็นคนพุทธส่วนใหญ่ อาจยอมอดทน อดกลั้น นั่งนิ่งเฉย รอไปก่อน คิดว่าวันหนึ่งเขาจะมีพลังแสดงอำนาจของเขาอย่างสุจริต แล้ววันนั้นเราจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

ยังติดต่อกับประชาชนเป็นระยะๆ โทร.หากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นระยะๆ ทำให้รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ สังเกตดู ส.ส.ที่ออกจากเพื่อไทยมีน้อย ส่วนใหญ่ก็มีคดี จะได้หลุดคดีซะที ไปเหอะ ไปเข้าข้างนั้นเหอะ เพราะเขาเอาคดีมาขู่แล้ว กับอีกประเภทคือเป็นหนี้เป็นสิน อยู่ๆ เอาเงินก้อนใหญ่มาให้ก็น่าสนใจอยู่ กับอีกประเภทคืออาจจะมั่นใจตัวเองว่าตัวเองเป็นที่นิยมดี และคิดว่าได้ตังค์เยอะด้วยก็น่าจะไป

เป็นเรื่องที่ผมต้องแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทยที่บุคคลเหล่านี้ออกไปจากพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้คัดนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาบ้าง เป็นเรื่องที่ดี

ส่วนท่าทีของทักษิณกับการเมืองรอบที่ 2 เกิดขึ้นใช่ช่วงการออกรอบตีกอล์ฟร่วมกันของแกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์

ปรากฏว่า ช่วงค่ำที่มีงานเลี้ยงนักการเมืองพรรคเพื่อไทยที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ดังกล่าว ภายในงานเลี้ยงมีอยู่ช่วงหนึ่ง นักการเมืองเพื่อไทยได้วิดีโอคอลคุยกับทักษิณและยิ่งลักษณ์ที่อยู่ในลอนดอน โดยมีข่าวว่าทักษิณพูดกับคนพรรคเพื่อไทยในงานดังกล่าวไว้ช่วงหนึ่ง ดังนี้

“มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 น่าจะได้ ส.ส.เยอะกว่าเดิม คนที่ออกไปนั้นมีโอกาสสอบตกสูง เพราะโพลที่สำรวจกันนั้นพรรคยังคงมาเป็นอันดับ 1 ใครที่อยากจะออกจากพรรคไปมี 2 ประการคือ 1.ไปเก็บสตางค์แล้วเลิกเล่นการเมือง เพราะพวกนี้หน้าโง่ จ่ายแพง ก็เก็บสตางค์ไปแล้วก็ไปพักผ่อนซะ 2.มั่นใจในตัวเอง ลืมไปว่าคะแนนตัวเองสู้คะแนนพรรคไม่ได้มาโดยตลอด มาเที่ยวนี้ก็คงได้เอาเด็กรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาแทน ไปดีเถอะนะ พี่ขออวยพร”

เป็นความเคลื่อนไหว-อารมณ์-ความรู้สึก ทางการเมืองของผู้มีอำนาจใน 2 ขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม

บิ๊กตู่ คสช. VS ทักษิณ เพื่อไทย”

ที่แสดงให้เห็นว่า สนามรบเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเป็นเดิมพันสูง ของทั้งฝ่ายบิ๊กตู่-คสช.และทักษิณ เพื่อไทย ที่ต่างก็แพ้ไม่ได้ เพราะหากฝ่ายไหนพ่าย ปักธงชัยชนะไม่ได้ ผลพวงในทางลบที่จะเกิดกับฝ่ายตนเองที่จะตามมาหลังจากนั้น

 หนักหน่วงและรุนแรงยิ่งนัก!!!!.

 

                                                                                                                                ทีมข่าวการเมือง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"