13ต.ค. 64- ในเพจ Open Up ได้นำข้อเขียนของ นาย ตราชู กาญจนสถิตย์ ที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร. 9 ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อพ.ศ.2528 ความว่า
เมื่อวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนพุทธศักราช 2528 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในคราวนั้นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เวลาบ่าย
ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษา จากคณะวิทยาศาสตร์อยู่นั้น ได้เกิดข้อขัดข้องขึ้นในระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงและส่งผลกระทบถึงหอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย เป็นเหตุให้ไฟฟ้าในหอประชุมดับลงและระบบไฟฟ้าฉุกเฉินได้เริ่มทำงาน
ทำให้พิธีการต่างๆดำเนินต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงักแต่ไม่สามารถถ่ายภาพบัณฑิตรับพระราชทานปริญญาบัตรได้เนื่องจากกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ บัณฑิตจำนวนแปดคน รับพระราชทานปริญญาบัตรโดยรู้แก่ใจว่าจะไม่ได้มีภาพที่ระลึกนาทีสำคัญในชีวิตของตนเองอย่างเพื่อนบัณฑิตอีกหลายร้อยหลายพัน แต่หลังจากนั้นไม่นานไฟฟ้าก็กลับสว่างขึ้นเป็นปกติ ทั้งแปดคนก็ได้แต่เพียงนึกน้อยใจในจังหวะชีวิตที่เหตุนี้มาเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน
เมื่อกลับไปประจำที่นั่งได้แล้วสักระยะหนึ่ง มีอาจารย์ไปแจ้งให้ทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาให้ตามบัณฑิตจำนวนดังกล่าวขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้มีโอกาสมีรูปเป็นที่ระลึก โดยทางมหาวิทยาลัยจัดให้ไปต่อแถวบัณฑิตคณะเศรษฐศาสตร์ ทุกอย่างก็เป็นไปโดยเรียบร้อยสมดังพระราชกระแส
บัณฑิตทั้งแปดคนต่างมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้บัณฑิตจำนวนนี้ หนึ่งคนเสียชีวิตแล้ว อีกคนหนึ่งไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ยังคงมีบัณฑิตอีกหกคนที่ยังทำงานและยังอยู่ในประเทศไทยและหนึ่งในนั้นได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นไว้ดังนี้
ในปี 2528 ขณะที่ผมและเพื่อนๆกำลังก้าวเข้าไปต่อหน้าพระพักตร์เพื่อรับพระราชทานปริญญาบัตรจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เวลานั้นเองเกิดเหตุการณ์"ไฟดับ"ทั่วประเทศไทย
ไฟที่ทำการส่องสว่างเพื่อการถ่ายภาพบัณฑิตที่กำลังเข้ารับพระราชทานปริญญาในหอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่สามารถสร้างแสงไฟเพื่อการถ่ายภาพสำคัญของชีวิตได้ ผมไม่มีภาพถ่ายครับเพราะแสงไม่พอ...
แต่การพระราชทานปริญญาไม่ได้หยุดลง แม้ไฟจะมืดลงแต่พิธีการสำคัญยังคงดำเนินต่อไป...
ปริญญาบัตรลงมาพร้อมๆกับผมด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวว่า ทำไมต้องเป็นเราที่จะไม่มีภาพสำคัญนี้ เศร้า
แต่...
อีกสักพักหนึ่งซึ่งนานพอสมควร ......อาจารย์ที่ผมไม่รู้จักเดินมาบอกพวกผมว่า ในหลวงทรงรับสั่งให้บัณฑิตที่รับพระราชทานปริญญาช่วงที่ไฟดับที่ถ่ายภาพไม่ติดประมาณ 6 คนขึ้นไปรับพระราชทานปริญญาอีกรอบหนึ่ง !!!
อะไรกันนี่ เป็นไปได้เหรอ !
อะไรกัน ในหลวงท่านทรงรับรู้ถึงความเศร้าของพวกผมได้อย่างไร !
ท่านไม่ทรงเหนื่อยล้าแล้วหรอกเหรอ ทรงพระราชทานปริญญาให้กับบัณฑิตมากมายแล้ว !
ถ้าท่านจะมีพระราชดำริว่า ทรงงานมามากแล้วขอเสด็จกลับ
คงจะไม่มีใครคิดว่าอะไร
ผม 6 คนก็แค่ผงธุลีที่ไร้ความหมายใดๆ จะทรงให้ความสำคัญให้เหนื่อยไปอีกเพื่ออะไร
แต่ท่านมิได้คิดเช่นนั้น ท่านเห็นความสำคัญของความรู้สึกของคนไทยน้อย ๆ 6 คนนั้นอย่างที่ผมไม่รู้จะพูดบรรยายความรู้สึกนั้นได้อย่างไร
ผมปลาบปลื้มจนน้ำตาไหล
แล้วผมก็ขึ้นไปรับพระราชทานปริญญาบัตรมาจนได้ภาพนี้มาครับ
ผมกลับมานั่งที่เก้าอี้และคิดได้ว่า เหตุผลท่านจึงไม่มองข้ามเราไป ในหลวงท่านทรงมีพระประสงค์อย่างแน่วแน่ที่จะให้เรารับปริญญามาด้วยความรู้สึกว่าเรา เราต้องเป็นคนดีของสังคม ผมมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสิ่งเดียวที่ในหลวงทรงสัมผัสมาแล้วนั่นคือปริญญาใบนี้นี่เอง ปริญญาใบนี้จะเป็นสิ่งสูงสุดที่จะคอยเตือนใจให้ผมทำความดีตามพระประสงค์ของในหลวง
พระองค์ที่สูงเทียมฟ้าแต่กลับเห็นความรู้สึกของผงธุลีอย่างพวกผม
ผมสัญญากับตัวเองในวันนั้นว่า ผมจะเป็นคนดีของสังคม และจะรักในหลวงยิ่งชีวิต
ขนาดคนอย่างผมยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณขนาดนี้
สังคมไทยในหลายๆส่วนคงต้องได้รับจากพระองค์ท่านมากมายเหลือคณานับ
นี่เป็นเรื่องเล็กๆของผมที่จะบอกว่า ทำไมผมรักในหลวง ...ผมรักในหลวงยิ่งชีพครับ
นาย ตราชู กาญจนสถิตย์
______________________________
13 ตุลาคม พ.ศ. 2564
วันคล้ายวันสวรรคต
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบตร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |