13 ต.ค.2564 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 371,671 คน ตายเพิ่ม 6,524 คน รวมแล้วติดไปรวม 239,427,923 คน เสียชีวิตรวม 4,880,493 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ตุรกี รัสเซีย และโรมาเนีย จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 95.1 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 91.44 

...สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 9,445 คน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก แต่หากรวม ATK อีก 1,368 คน ก็ยังคงเป็นอันดับ 9 ของโลกเช่นเดิม  ด้วยจำนวนติดเชื้อต่อวันในปัจจุบัน ไทยยังนำเป็นที่ 1 ในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

...คาดการณ์จากธรรมชาติของการระบาด ด้วยการปลดล็อกต้นกันยายนที่ผ่านมา ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงกลางตุลาคม จะเป็นช่วงที่ควรเห็นการระบาดที่เพิ่มขึ้น แต่ข้อจำกัดเรื่องการเข้าถึงระบบตรวจคัดกรองโรคมาตรฐาน และความคลุมเครือของรายงานจำนวนการตรวจพบจาก ATK โดยไม่มีข้อมูลจำนวนที่ตรวจจริงในแต่ละวิธี ทำให้ยากที่ทุกคนในสังคมจะทราบสถานการณ์ระบาดจริงได้

อย่างไรก็ตาม สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของการระบาดเริ่มสะท้อนให้เห็นในรูปแบบของการมีรายงานข่าวคลัสเตอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในหลายต่อหลายจังหวัด ทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า งานศพ ฯลฯ ซึ่งตอกย้ำให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังในการใช้ชีวิต ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด

...มองไปข้างหน้าสำหรับการเปิดประเทศต้นพฤศจิกายน บทเรียนของชิลีและเดนมาร์ก ชี้ให้เห็นว่าหลังเปิดไป 3 สัปดาห์ จำนวนการติดเชื้อต่อวันอาจเพิ่มขึ้นสองเท่า รวมถึงอัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อจากการส่งตรวจนั้นจะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 60 จากฐานอัตราเดิม จึงควรวางแผนการใช้ชีวิต วางแผนจัดการความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีก็น่าจะเป็นการดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเงิน การใช้จ่าย และการลงทุน  ด้วยรักและห่วงใย