ส่งอัยการฟ้อง‘ทอน’112 คุกต่อ!จตุพรวืดปล่อยตัว


เพิ่มเพื่อน    

สน.นางเลิ้งส่งตัว “ธนาธร” ให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องผิด 112 ไลฟ์สดวัคซีน เจ้าตัวโวยลั่นรัฐบาลใช้กฎหมายกดขี่ปิดปากประชาชน มีผู้ถูกกล่าวหากว่า 1,500 คน นี่คือความไม่เป็นธรรมที่ถูกยัดเยียด ปลุกให้สังคมออกมาปกป้อง ส่วน "จตุพร" นอนคุกต่อ ศาลยังไม่ปล่อยตัว
    เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นาย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้งได้นัดส่งตัวพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายธนาธร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5
     จากที่นายอภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี และการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี 32/2563 ลงวันที่ 21 ก.ย.63 ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ตามคดีอาญาที่ 21/64 ลงวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา แจ้งความเอาผิดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 3 ข้อหา ได้แก่ ความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ความผิดฐานหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กบรรยายหัวข้อเกี่ยวกับวัคซีนบนเพจคณะก้าวหน้าและเพจนายธนาธร ซึ่งมีเนื้อหาวิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลที่มีความล่าช้าเเละมีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันเดียวกันนี้ ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ส่งสำนวนความเห็นสมควรฟ้องนายธนาธรต่อพนักงานอัยการเเล้ว นายธนาธรได้เเจ้งยื่นขอความเป็นธรรมในหลายประเด็นต่อพนักงานอัยการ ขอให้สั่งสอบพยานเพิ่มเติมเกี่ยวกับอำนาจการสอบสวน ทางพนักงานอัยการจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบทันที จากนั้นก็ได้นัดฟังคำสั่งคดีวันที่ 4 พ.ย. ว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่
    ต่อมานายธนาธรได้โพสต์ทวิตเตอร์ว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหา คดี 112 ที่สองของผม ขอใช้โอกาสนี้ให้สังคมทราบกันว่านี่เป็นยุคที่เกิดคดีทางการเมืองมากสุดในประเทศไทย ที่รัฐบาลใช้กฎหมายกดขี่ปิดปากประชาชน ทุกวันนี้เกิดคดีทางการเมืองกว่า 800 คดี มีผู้ถูกกล่าวหากว่า 1,500 คน เฉพาะมาตรา 112 มีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 150 คดี
    "ผมอยากให้ทุกคนให้ความสนใจกับคดีเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นกับคนไม่มีชื่อเสียง คนตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีต้นทุนทางสังคม นี่คือความไม่เป็นธรรมที่ถูกยัดเยียดกับพวกเขา ผมอยากให้สังคมร่วมกันออกมาปกป้องพวกเขา และร่วมกันประณามต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมที่มืดมิดเช่นนี้"
    วันเดียวกันนี้ นายธนาธร, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนของ กกต. กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวหาว่าการที่คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นเข้าข่ายมีพฤติกรรมเลียนแบบพรรคการเมืองขัดมาตรา 111 ของพระราช​บัญญัติ​ประกอบรัฐธรรมนูญ​ว่าด้วยพรรคการเมือง 
    นายปิยบุตรเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ กกต.ได้แจ้งว่า ที่มีการร้องว่าคณะก้าวหน้าทำตัวเสมือนพรรคการเมือง คือมีโลโก้มาติด มีสัญลักษณ์ มีชื่อภาษาอังกฤษของคณะ มีตำแหน่งประธาน เลขาฯ และโฆษกมีการสมัครสมาชิกและส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งตนคิดว่าผู้ร้องเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนในหลายเรื่อง โดยเฉพาะโลโก้ คนที่ตั้งกลุ่มตั้งพรรคก็ต้องมีโลโก้ สัญลักษณ์ ไม่เช่นนั้นคนจะรู้ได้อย่างไร ไม่ต่างจากกลุ่มอื่นที่รณรงค์ในเรื่องการเมือง ไม่ว่าจะ กปปส. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งก็ล้วนมีโลโก้ มีชื่อภาษาอังกฤษทั้งสิ้น
     ส่วนมีตำแหน่งประธาน เลขาฯ โฆษก  ถ้าบอกว่าเราเป็นพรรคการเมือง จะต้องมีนายทะเบียนพรรค เหรัญญิกพรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งที่กฎหมายบังคับให้มี แต่ของคณะก้าวหน้าไม่มี เราเอาอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกตัดสิทธิ์ยุบพรรคไปก็มารวมตัวกัน เพราะอยากจะรณรงค์กันต่อ ซึ่งเราไม่ได้มีสถานะเป็นนิติบุคคลไม่ได้มีข้อบังคับเป็นพรรคการเมือง เป็นแค่อดีตกรรมการบริหารพรรคที่ยังสนใจในเรื่องการเมือง การศึกษา การกระจายอำนาจท้องถิ่น มารวมกัน ไม่ต่างอะไรกับสมาชิกมูลนิธิ หรือสมาชิกกลุ่ม 111 ที่ถูกตัดสิทธิ์ไป
    นอกจากนี้ ยังเข้าใจผิดว่าเราเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคหรือกลุ่มคณะก้าวหน้ายืนยันว่าไม่มี รวมถึงการจัดตั้งกองทุน สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น กฎหมายไม่ได้ให้ผู้สมัครสังกัดพรรค แต่การสนับสนุนทำได้ ก็เหมือนกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมาในหลายจังหวัดที่จะมีกลุ่มบ้านใหญ่สนับสนุนผู้สมัครบางรายอยู่แล้ว และทำกันมาไม่รู้กี่สมัย ซึ่งก็ไม่เคยถูกร้องว่าทำตัวเสมือนพรรคการเมือง แต่กับพวกตนกลับเป็นเรื่องทันที ดังนั้นการแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ ก็จะเป็นไปตามกระบวนการจะมีการส่งเอกสารและชี้แจงเพิ่มเติม  
    “อย่างที่ตั้งข้อสังเกตว่าร้องกล่าวหาคณะก้าวหน้าตั้งแต่การเลือกตั้ง อบจ.แล้วก็เงียบหายไป แต่พอเปิดรับสมัคร อบต. ก็กลับมาเรียกมาชี้แจง ก็ไม่เป็นไร ถือเสียว่าขอบคุณที่ช่วยตีปี๊บให้พวกผมดังขึ้นไปอีก อย่างน้อยประชาชนในพื้นที่จะได้ติดตามว่าการเลือกตั้ง อบต.จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ และ กกต.ต้องขอบคุณพวกผมการเลือกตั้งท้องถิ่นในประเทศไทยกลับมาบูม กลับมาดังกลับมาฮิต คนรุ่นใหม่สนใจ เห็นการเมืองท้องถิ่นแบบใหม่ๆ สู้กันด้วยนโยบาย ไม่ใช่อิทธิพล" นายปิยบุตร กล่าว
    ด้านนายธนาธรกล่าวว่า ในวันอาทิตย์ที่ 17 ต.ค. จะแถลงผลความคืบหน้าการทำงานร่วมสนับสนุนการบริหารงานของเทศบาลตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาของคณะก้าวหน้า ซึ่งคิดว่าการนำเสนอจะทำให้ประชาชนเกิดความหวังว่าประเทศไทยจะดีขึ้นได้      
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ชุมนุม นปช. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 215, 216 กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวงไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง 
    โดยก่อนหน้านี้ทนายความของนายจตุพรได้ยื่นประกันตัวเมื่อวันที่ 8 ต.ค.64  โดยศาลไม่อนุญาต โดยให้เหตุว่า กรณีคดีที่จำเลยทั้งสองขอให้คดีนี้รอฟังผลคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว พฤติการณ์แห่งคดีจึงเปลี่ยนแปลงไป เมื่อข้อกล่าวหาในคดีนี้ เป็นข้อร้ายแรง มีอัตราโทษสูง ประกอบกับจำเลยที่ 1 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีอื่นมาแล้ว หากให้ปล่อยชั่วคราวไป อาจหลบหนีได้ ทั้งจำเลยที่ 1 ถูกจำคุกในคดีอื่นอยู่ในขณะนี้ การปล่อยชั่วคราวในคดีนี้จึงย่อมไม่เป็นประโยชน์ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ให้ยกคำร้อง แจ้งคำสั่งให้จำเลยที่ 1 และนายประกันทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว
    ต่อมา วันที่ 11 ต.ค.64 ทนายความได้ยื่นขอประกันอีก โดยศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาต เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขณะนี้จำเลยยังต้องขังอยู่ กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง คืนหลักประกัน อย่างไรก็ตาม วันที่ 12 ต.ค. ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลอาญาจะดำเนินการส่งคำอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป
    ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่านายจตุพรจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 13 ต.ค. ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 ก.ค.64  และได้เข้ารับการอบรมโคกหนองนาโมเดลครบ 14 วันแล้ว จึงให้ทนายความมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในคดีบุกบ้าน พล.อ.เปรม ซึ่งเคยถอนประกันตัวเองอีกครั้ง เเต่ศาลอาญาก็มีคำสั่งไม่อนุญาต
    ทั้งนี้ นายจตุพรได้กล่าวฝากออกมาจากเรือนจำว่า กรณีเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตนไปถอนประกัน เพื่อหักวันจำคุก ดังที่เคยทำมา จากการถูกจำคุกมาแล้วหลายครั้ง ผ่านมาแล้วหลายคดี ที่ผ่านมาไม่เคยหลบหนีแม้แต่คดีเดียว คดีที่เป็นสาเหตุให้เกิดการอายัดตัวคือคดีบ้านสี่เสาเทเวศร์ เหลือเพียง 2 เดือนเท่านั้น จึงไม่มีเหตุผลที่จะหลบหนีแต่อย่างใด ควรจะได้รับการประกันตัว ในการถอนประกันตนเองนั้น เป็นเรื่องปกติ ในคดีที่มีการจำคุกครั้งที่แล้ว ก็ไปถอนประกัน ศาลก็ให้ทำ จึงเป็นการถอนประกันด้วยตนเอง จำนวน 3 คดี ได้แก่ 1.คดีก่อการร้าย 2. คดีบ้านสี่เสาฯ 3.คดีศาลทหาร
    ในคราวที่แล้วก็ยื่นขอถอนประกันตนเองเหมือนกับในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อจำคุกครบ ก็ได้หมายบริสุทธิ์ปล่อยตัวเช่นปกติ ส่วนคดีอื่นๆ ก็ยื่นประกันตัวไว้ในครั้งนี้ ยื่นคดีเดียวเนื่องจากในคดีก่อการร้ายศาลชั้นต้นยกฟ้องแล้ว ส่วนคดีศาลทหารนั้นได้จำหน่ายคดีเพราะยกเลิกคำสั่งไปแล้ว ดังนั้นการเข้าเรือนจำในครั้งนี้จึงถอนประกัน ในคดีสี่เสาฯ
     คดีบ้านสี่เสาฯ ศาลฎีกาสั่งจำคุกนายณัฐวุฒิ 2 ปี 8 เดือน โดยศาลระบุว่าหากสารภาพต้องสารภาพในศาลชั้นต้น ซึ่งตนได้รับการนัดหมายให้ฟังคำพิพากษาในเดือนพฤษภาคม 2565 หากศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ตามนายณัฐวุฒิเคยสารภาพก็จะลดลงครึ่งหนึ่ง แสดงว่าจะมีวันในการจำคุก 14 เดือน
    ดังนั้นในคดีที่เหลืออยู่ จึงเหลือวันจำคุกเพียง 2 เดือนเท่านั้น ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหลบหนี ตามที่มีเหตุผลเพื่อไม่ให้ประกันตัว เรื่องที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมีปัญหา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"