'โมลนูพิราเวียร์'ความหวังหยุดวิกฤตโควิด


เพิ่มเพื่อน    

กว่า 2 ปีที่คนทั่วโลกใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ สาธารณสุข การเมือง และเศรษฐกิจทั่วโลก หลายประเทศพยายามระดมสรรพกำลังหาทางหยุดยั้งเชื้อโรคนี้ให้ยุติลง จากการค้นคว้าวิจัยยารักษาและวัคซีนเพื่อหวังลดการติดเชื้อ ความรุนแรง รวมถึงลดการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว
    เราจึงเห็นวัคซีนหลายยี่ห้อและยา โดยเฉพาะ "ฟาวิพิราเวียร์" แต่ขณะเดียวกันมียาชนิดหนึ่งที่อาจจะเป็นความหวังใหม่ของมวลมนุษยชาติ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้โรคร้ายนี้ นั่นคือ ยา "โมลนูพิราเวียร์"    
    ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นชื่อทางเคมีที่ดั้งเดิมถูกพัฒนาเพื่อใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ มีลักษณะเป็นเม็ดแบบแคปซูล มีฤทธิ์ต้านไวรัสโดยการยับยั้งการจำลองตัวเองของเชื้อโควิด-19 ซึ่งคนทั่วไปเมื่อเชื้อเข้าไปอยู่ในเซลล์ร่างกายแล้ว เชื้อจะไปทำการจำลองตัวเองเพื่อแบ่งตัวทำให้มีจำนวนไวรัสเพิ่มมากขึ้น และภูมิต้านทานก็อาจจะต่อสู้ไม่ได้ แต่ยาโมลนูพิราเวียร์จะยับยั้งการจำลองในส่วนนั้น แต่ไม่ได้ออกฤทธิ์ต่อตัวหนามของเชื้อ จึงสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของตัวเชื้อโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งสายพันธุ์มิวก็ตาม
    โดยถูกค้นพบครั้งแรกโดยนักวิจัยของมหาวิทยาลัย Emory ในเมืองแอตแลนตา และขณะนี้กำลังถูกพัฒนาโดยนักวิจัยของบริษัท เมอร์ค ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเคนิลเวิร์ธ รัฐนิวเจอร์ซีย์ และบริษัท ริดจ์แบค ไบโอเทอราพิวติกส์ ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองไมอามี
    มีการวิจัยในหลายประเทศ โดยการวิจัยแบบสุ่ม วิจัยในผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และเป็นผู้ป่วยที่ไม่ได้รับวัคซีนซึ่งยังไม่มีภูมิต้านทานต่อโรค รวมถึงมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรง 1 ปัจจัย เช่น ภาวะอ้วน อายุ 60 ปี เบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โดยให้ยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ ก่อนหน้านี้ได้มีการวิจัยในเฟส 1-2 ซึ่งทำได้ดี แต่ในการวิจัยผู้ป่วยอาการหนักยืนยันว่ายังไม่ได้ผล
    จากการศึกษาเบื้องต้นมีคนไข้ทดลองในเฟส 3 กับกลุ่มที่มีอาการน้อยหรือปานกลาง แบ่งเป็นผู้ที่ได้ยา 380 ราย และผู้ที่ได้ยาหลอก 377 ราย พบว่าคนไข้ได้โมลนูพิราเวียร์ 800 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา เช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 5 วัน โดยผู้ที่ได้ยาจริง "ลดความเสี่ยงต่อการนอนโรงพยาบาล" ในขณะที่ผู้ได้รับประทานยาโมลนูพิราเวียร์ไม่มีใครเสียชีวิต นอกจากนั้นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังสามารถรับประทานยาโมลนูพิราเวียร์ได้เองที่บ้าน จึงทำให้มีความสะดวกในการรักษาอาการป่วยเป็นอย่างมาก
    อย่างไรก็ตาม การทดสอบยายังเป็นการศึกษาในคนกลุ่มเล็ก และจำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติม โดยบริษัท เมอร์ค มีแผนจะทดสอบทางคลินิกเฟส 3 กับอาสาสมัครผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มใหญ่ขึ้น เป็นจำนวน 1,550 คน ทว่าจากข้อมูลของคณะตรวจสอบอิสระได้ให้ยุติการทดสอบ เพราะเห็นว่ายามีประสิทธิภาพชัดเจน
    โดยการรับประทานยาโมลนูพิราเวียร์ในขณะนี้กำหนดให้เฉพาะผู้ติดเชื้อวัยผู้ใหญ่ และมีอาการเล็กน้อย-ปานกลางเท่านั้น โดยให้รับประทานยา 1 เม็ดซึ่งมีขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ดต่อคอร์ส รับประทานครั้งละ 4 เม็ด (800 มิลลิกรัม) ห่างกันทุก 12 ชั่วโมง หรือ 1 วันรับประทานยา 2 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน
    ส่วนจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ และคนไทยมีโอกาสจะได้ใช้หรือไม่ ขณะนี้บริษัท เมอร์ค และริดจ์แบค เริ่มเข้าสู่กระบวนการเพื่อเตรียมขออนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) โดยเมอร์คตั้งเป้าว่าจะ "ผลิตยาให้ได้สำหรับผู้ป่วย 10 ล้านชุดภายในสิ้นปีนี้" และมีแผนที่จะผลิตในหลายประเทศในทุกภูมิภาคของโลก โดยมีการพยายามหาบริษัทต่างๆ เพื่อเข้าร่วมการผลิตและจำหน่ายเป็นรูปแบบคิดราคาตามรายได้ของประเทศนั้น
    โดยผู้ผลิตยาแห่งนี้มีสัญญากับรัฐบาลสหรัฐสำหรับจัดหายาเม็ดโมลนูพิราเวียร์ 1.7 ล้านชุด โดย 1 ชุดมีคอร์สรักษา 5 วัน และมีราคาราว 700 ดอลลาร์ต่อคอร์ส (ราว 23,000 บาท)
    นอกจากนี้แล้ว เมอร์คยังตกลงมอบใบอนุญาตยาแก่บรรดาผู้ผลิตยาสามัญหลายแห่งที่มีสำนักงานในอินเดีย ซึ่งคาดหมายว่าจะสามารถป้อนยาเม็ดนี้แก่บรรดาประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางมากกว่า 100 แห่ง ส่วนรัฐบาลออสเตรเลียได้สั่งจองยาโมลนูพิราเวียร์ล่วงหน้าไว้แล้ว 300,000 โดส
    สำหรับประเทศไทยได้ทาง MSD ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Merck ที่อยู่ประเทศไทย ได้หารือกับกรมการแพทย์ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.2564 เบื้องต้นมีการพูดคุยด้วยวาจาขอสั่งจองไว้ก่อนจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นทะเบียนกับ FDA แล้วจะมีการขึ้นทะเบียนกับ อย.ไทยต่อไป โดยมีความหวังว่าอาจจะเป็นปลาย พ.ย. และของก็น่าจะมา ธ.ค. แต่ถ้าช้ากว่านี้อาจจะเลื่อนไปอีก 1 เดือน โดยจะมีการเปิดเผยจำนวนอีกครั้งหลังจากทำสัญญาอย่างเป็นทางการ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"