นครซิดนีย์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเริ่มเปิดเศรษฐกิจยุติการล็อกดาวน์ยาวนาน 106 วัน สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้วตั้งแต่วันจันทร์ ขณะออสเตรเลียตั้งเป้าหมายเริ่มต้นการใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสโคโรนาและทยอยเปิดประเทศเมื่ออัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับสูงแล้ว
ชาวออสเตรเลียในนครซิดนีย์นั่งสังสรรค์ดื่มกาแฟมื้อเช้าที่สแตรนด์อาร์เคต หลังจากมาตรการยุติล็อกดาวน์เปิดเศรษฐกิจสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเริ่มมีผลเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 (Getty Images)
นครขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียซึ่งมีประชากรมากกว่า 5 ล้านคน เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์และออกข้อกำหนดที่เข้มงวดเพื่อควบคุมโรคระบาดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน หลังจากเกิดการแพร่เชื้อของสายพันธุ์เดลตา แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงและอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีมากกว่าร้อยละ 70 ของประชากรอายุ 16 ปีขึ้นไป ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นตัดสินใจยุติการล็อกดาวน์ และอนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเปิดบริการได้อย่างเสรีอีก สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคมว่า ผับบาร์ในนครซิดนีย์เริ่มเปิดรับลูกค้าตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่โดมินิก เพอร์ร็อตเต็ต ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ใช้คำเรียกว่าเป็นวันแห่งเสรีภาพ
เพอร์ร็อตเต็ตกล่าวว่า นิวเซาท์เวลส์กำลังเป็นผู้นำพาออสเตรเลียพ้นจากโรคระบาด ซึ่งจะเป็นเรื่องท้าทาย โดยเตือนว่า อัตราการติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นหลังการเปิดเศรษฐกิจ และรัฐที่ปลอดการติดเชื้อเช่น เวสเทิร์นออสเตรเลียและควีนส์แลนด์กำลังจับตาดูว่าการใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 นั้นจะเป็นอย่างไร ท่ามกลางความกังวลว่าระบบสาธารณสุขอาจรองรับไม่ไหว
รัฐควีนส์แลนด์ยังคงปิดพรมแดนที่ติดกับรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย โดยรัฐบาลของรัฐนี้ใช้ยุทธศาสตร์กำจัดไวรัสด้วยการล็อกดาวน์อย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมการระบาด อัตราการฉีดวัคซีนของควีนส์แลนด์มีแค่ 52% เท่านั้น
เมื่อวันจันทร์ นิวเซาท์เวลส์รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 496 ราย ซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีเมลเบิร์นเป็นเมืองหลวง มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,612 คน ต่ำที่สุดในรอบ 5 วัน
ภายใต้กฎข้อบังคับที่ผ่อนคลายลงของนิวเซาท์เวลส์ ร้านค้าปลีกและร้านอาหารสามารถเปิดบริการได้แต่ลดจำนวนความจุลง และผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถรวมตัวกันได้ในจำนวนมากขึ้นทั้งในเคหสถานและการเข้าร่วมงานแต่งงานและงานศพ
รัฐนี้ตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ 80% ของประชากรภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งจะมีการผ่อนคลายข้อบังคับเพิ่มเติมอีก แต่ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้นยังคงถูกห้ามออกจากบ้านไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม
นายกฯ สกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวถึงการยกเลิกล็อกดาวน์ของซิดนีย์ว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าเฉลิมฉลอง ผู้คนสามารถอยู่กันพร้อมหน้ากับครอบครัวและมิตร ออกไปตัดผม รับประทานอาหารด้วยกัน ไปเที่ยวผับดื่มเบียร์กับเพื่อนได้แล้ว
อย่างไรก็ดี ยังคงมีข้อห้ามการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก และโรงเรียนกับการเดินทางระหว่างประเทศจะยังไม่เปิดอย่างเต็มรูปแบบภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ออสเตรเลียปิดประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งช่วยให้คุมจำนวนผู้ติดเชื้อไว้ในระดับต่ำได้ โดยอยู่แค่ราว 130,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 1,448 คน
มอร์ริสัน ซึ่งต้องจัดเลือกตั้งทั่วไปก่อนเดือนพฤษภาคมปีหน้า ถูกบีบให้กดดันรัฐต่างๆ ยอมเปิดพรมแดนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอนุญาตให้ครอบครัวที่อยู่ต่างรัฐได้พบหน้ากันอีกครั้งก่อนเทศกาลคริสต์มาส ถึงขณะนี้บางรัฐที่มีผู้ติดเชื้อเพียงไม่รายยังไม่ประกาศว่าจะเปิดพรมแดนเมื่อใด
รัฐบาลออสเตรเลียกำลังวางแผนจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยจะอนุญาตให้ผู้มีถิ่นพำนักที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางเข้าและออกประเทศได้อย่างเสรีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |