11 ต.ค.64 - ที่กระทรวง​สาธารณสุข​ นพ.เฉ​ว​ต​สรร​ นาม​วาท ​ผู้​อำนวยการ​กอง​ควบคุม​โรค​และ​ภัย​สุขภาพ​ใน​ภาวะ​ฉุกเฉิน​กรมควบคุม​โรค​ กล่าวชี้แจงกระแสข่าววัคซีนไฟเซอร์ปนเปื้อน​สารกัมมันตรังสี​ ว่า ส่วนกระกอบของวัคซีนไม่ได้มีสารเหล่านี้ตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งมีส่วนประกอบ​ของวัคซีน​มี่จดแจ้งไว้ชัดเจน และมีการใช้งานในประเทศตะวันตกอย่างกว้างขว้าง และทุกล็อตที่เข้ามาทุกประเทศจะมีกลไกการทำงานเหมือนกัน การผลิตมีมาตรฐาน​ก็จริง แต่การผลิตแต่ละล็อตต้องมีการตรวจ​สอบเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพวัคซีน จะเห็นได้ว่าวัคซีนมาถึงประเทศไทย แต่ไม่ได้แจกจ่าย มีการตรวจตั้งแต่ลักษณะกายภาพ ดูว่ามีอะไรปลอมปนหรือไม่ ที่ญี่ปุ่นเคยพบการปลอมปนในวัคซีน ทำให้มีการส่งคืนวัคซีนล็อตซึ่งเป็นมาตรฐาน เมื่อไหร่ตรวจเจอก็จะระงับไว้ก่อน และอาจทำลายทิ้งทั้งล็อต เรียกว่าเอาความปลอดภัยของประชาชน​เป็นมาตรฐาน และเราก็ทำมาตรฐานเดียวกันกับสากล มีความเข้มงวดเป็นอย่างดี

นพ.เฉ​ว​ต​สรร​ กล่าวว่า ส่วนข้อกล่าวอ้างกรณีในวัคซีนมีอนุภาค​ที่เป็นอันตราย​ เรียนว่าวัคซีน mRNA ใช้เทคโนโลยี Lipid nano particle ซึ่งเป็นเทคโนโลยี​โดยการนำตัวยาเข้าสู่ร่างกายเพื่อให้ได้ออกฤทธิ์​ในการรักษา​โรคบางโรค โดยได้นำมาใช้ก่อนหน้านี้แล้ว ได้รับอนุญาต​ในสหรัฐอเมริกา​และอียู เพราะฉะนั้นก็ต้องมั่นใจในความปลอดภัย​ได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่มีจริง แต่เป็นสิ่งที่ปลอดภัย มั่นใจได้ และมีการตรวจสอบก่อนได้รับอนุญาต​ในต่างประเทศ

ส่วนประเด็นผู้ที่ฉีดวัคซีน mRNA มีอาการหนักมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีด ยืนยันว่าไม่จริง เพราะผลการศึกษาประสิทธิภาพ​วัคซีนมีความชัดเจนการป้องกัน​การเสียชีวิต​ ย้ำว่าการจะรับรองวัคซีนมีที่มาที่ไป และวัคซีนที่นำมาฉีดในไทย มีการมาฉีดในต่างประเทศมาจำนวนมากแล้ว เมื่อนำมาฉีดบุคลากร​ทางการแพทย์​ได้ฉีดเช่นกัน ส่วนการกล่าวอ้างว่าบังคับให้บุคลากร​ทางการแพทย์ ข้าราชการฉีดวัคซีนนั้นไม่เป็นความจริง วัคซีนทุกตัวการตัดสินใจฉีดเป็นสิทธิ​ของบุคคลอย่างเต็มที่ สามารถปฏิเสธ​ได้ ซึ่งเราเห็นว่าในหลายกรณีที่เป็นข่าวคนที่ป่วยหนัก หรือเสียชีวิต​ บอกว่าตัดสินใจที่จะรอยังไม่ฉีดวัคซีน แสดงว่าเราไม่ได้บังคับ เป็นสิทธิของตัวบุคคล