11ต.ค.64-"เลขาฯ กพฐ." ไล่ออก อดีต ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 7 เหตุ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีจัดซื้ออุปกรณ์และสนามฟุตซอล มีลักษณะมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายหนึ่ง ก่อความเสียหายร้ายแรงแก่รัฐ
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 1599/2564 เรื่อง ไล่ออกจากราชการ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 7 เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติวินิจฉัยชี้มูลความผิดทางวินัยแก่อดีต ผอ.สพป. นครราชสีมา เขต 7 กรณีทุจริตการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ซึ่งเป็นงบแปรญัตติให้กับสพป.นครราชสีมา เขต 7 ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์และสนามฟุตซอล เนื่องจากมีลักษณะมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายหนึ่งให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ และทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรงตามมาตรา 84 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสองและมาตรา 94 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงมีมติให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ
ทั้งนี้หากผู้ถูกลงโทษประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 หรือผู้ถูกลงโทษมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายใน 90 วันนับแต่วันที่ถูกลงโทษตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเมื่อคณะกรรมการป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาแล้วบทบาทหน้าที่ของสพฐ.ก็จะต้องดำเนินการยืนยันตามมติของป.ป.ช.