เพื่อไทยข้องใจ ‘สทนช.’ถลุงงบ จัดซื้อเครื่องสูบ


เพิ่มเพื่อน    

เผยผลสำรวจเหยื่ออุทกภัยระบุน้ำท่วมคือภัยธรรมชาติ แต่ควรบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เชื่อมั่นรัฐจะป้องกันได้ "เพื่อไทย" เรียงหน้าถล่ม! "ยุทธพงศ์" แฉพิรุธ สทนช.ของบกลาง 567 ล้านซื้อเครื่องสูบน้ำ ส่งกลิ่นล็อกสเปก "อรุณี" ยกก้น "ยิ่งลักษณ์" วางแผนรับมือภัยพิบัติพร้อมเยียวยา เย้ย "ประยุทธ์" เอาแต่โทษฟ้าฝน  
    เมื่อวันอาทิตย์ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “คนไทยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 2564” โดยสำรวจเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม  569 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2564 พบว่า ปัญหาและอุปสรรคของน้ำท่วมครั้งนี้คือ ภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ 70.49%, ที่ผ่านมาไม่มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง 69.61%, ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอุทกภัย 65.90%, การทำงานแยกส่วน ไม่ประสานร่วมมือกัน 59.01%  
    สิ่งที่ควรตระหนักและให้ความสำคัญ คือ ควรมีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 77.03%, รัฐบาลให้ความสำคัญและแก้ไขอย่างจริงจัง 71.91%, มีวิธีการป้องกันน้ำท่วมในระยะยาว  70.67%, เร่งฟื้นฟูธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำ 70.14%, สถานการณ์น้ำท่วมมีกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน  86.62%, พืชผลทางการเกษตรเสียหาย 83.10%, บ้านเรือนเสียหายต้องซ่อมแซมบ้านเรือน 78.35%
    สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการโดยเร่งด่วน คือ ช่วยเหลือประชาชนที่น้ำท่วม เช่น เรือ ห้องน้ำ ที่พักชั่วคราว ถุงยังชีพ 87.35%,  ให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน แจ้งเตือนรวดเร็ว 83.48%, เร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม 74.52%, ป้องกันพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เตรียมพร้อมรับมือ 74.1% ส่วนความเชื่อมั่นต่อการป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลไม่น่าจะป้องกันได้ 44.17%,  ป้องกันไม่ได้ 28.62%     
       ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ปัจจุบัน พบว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมภายใต้ สทนช. โดยจัดซื้อเครื่องสูบน้ำระบบไฮดรอลิก พบความไม่โปร่งใส ใช้การจัดซื้อแบบพิสดาร คือผ่านการคัดเลือกบริษัทแทนการให้บริษัทเสนอราคาเข้าแข่งขัน สทนช. ที่แบ่งศูนย์ในภูมิภาคต่างๆ พบว่าได้ของบกลางรวม 567 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ รายละเอียดพบว่าศูนย์ใน จ.นนทบุรี จ.เชียงใหม่ จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.พระนครศรีอยุธยา จ.กาญจนบุรี จ.สงขลา ได้แบ่งรายการจัดซื้อไม่เกิน 25 ล้านบาท ซึ่งเกินอำนาจของผู้อำนวยการแต่ละศูนย์จะจัดซื้อได้ เฉลี่ยอยู่ที่ 21 ล้านบาท 
    “สิ่งที่ส่อให้เห็นความไม่โปร่งใส คือการล็อกสเปกไม่ประกวดราคาด้วยระบบอีบิดดิง และการจัดซื้อรายการที่มีคุณสมบัติเหมือนกันควรรวมรายการซื้อ แทนการแยกซื้อรายศูนย์ ราคาที่ใช้เป็นราคากลางพบว่าสืบราคามาจาก 3 บริษัทเอกชน และมีคู่เทียบ แต่เลือกซื้อจากบริษัทเพียงรายเดียวที่มีที่ตั้งใน กทม.ทั้งที่ในจังหวัดต่างๆ เชื่อว่าจะมีบริษัทที่สามารถขายเครื่องปั๊มน้ำที่ต้องการได้ เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร จะบอกว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ เพราะมีความเกี่ยวข้อง ควรยกเลิก สนทช. เพราะปล่อยให้มีการฮั้วประมูลล็อกสเปก พล.อ.ประยุทธ์คือผู้อนุมัติงบกลางให้จัดซื้อ ส่วนผู้ของบคือ พล.อ.ประวิตร" นายยุทธพงศ์กล่าว 
     นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนนนทบุรีน้อยใจ สนทช. เพราะไม่นำเครื่องสูบน้ำมาช่วยประชาชน ขณะเดียวกันรัฐบาลปัจจุบันพบการจ่ายเงินเยียวยาให้ ประชาชนน้อยกว่าสมัยของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อมหาอุทกภัยปี 2554 ได้แก่ การเยียวยาซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้ 4.09 หมื่นบาท สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ 2.4 แสนบาท ค่าดำรงชีพ รัฐบาลปัจจุบัน ให้ 3,800 บาท สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ 5,000 บาท ส่วนการเยียวยา เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว รัฐบาลปัจจุบันให้ไร่ละ 1,340 บาท สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ 2,222 บาท
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด เป็นหลักฐานสะท้อนชัดว่าตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำของประเทศล้มเหลว ลูบหน้าปะจมูก ทั้งที่ทุ่มงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์และพวกพ้องได้ใช้เวลาไปกว่า 7 ปีแล้ว สภาพบ้านเมืองมีปัญหารอบด้าน ก่อนพลิกโฉมประเทศ ควรพลิกกลับการตัดสินใจ ยุติบทบาททางการเมืองดีกว่า
    นส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 31 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 227,470 ครัวเรือน และปัจจุบันยังมีหลายจังหวัดที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง แต่ตลอดระยะกว่า  3 สัปดาห์ พล.อ.ประยุทธ์ทำได้เพียงลงพื้นที่แจกของและให้กำลังใจบอกรักจังฮู้ ทั้งๆ ที่งานวิจัยเคยระบุชัดว่าปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งไม่ใช่เพียงภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากการบริหารจัดการ พล.อ.ประยุทธ์กลับไร้ภาวะผู้นำ ไร้มาตรการเยียวยา ตรงกันข้ามกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ปัญหาอุทกภัยปี 2554 ได้แสดงวิสัยทัศน์ภาวะผู้นำ มีแผนในการรับมือภัยพิบัติทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมประกาศมาตรการเยียวช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วมทันที 7 ปีที่ผ่านมาไม่ทำอะไรนอกจากโทษฟ้าโทษฝน ยังคิดจะบริหารงานต่ออีก 5 ปี ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ รู้จักคำว่าอายฟ้าดินบ้างรึเปล่า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"