ศบค.พบติดเชื้อใหม่ 10,817 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 84 คน 4 จว.ชายแดนใต้ยังอ่วม ยอดป่วยอยู่ 5 อันดับแรก ฉีดวัคซีนใกล้แตะ 60 ล้านโดส โฆษกรบ.เผย "WHO" ประกาศยกระดับระบบวัคซีนไทยดีขึ้น นายกฯ เตือนประชาชนการ์ดอย่าตก ยึดหลักดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล สธ.ชี้โควิดยังทรงตัว ย้ำเปิดเมืองปลอดภัย ทุกฝ่ายต้องเคร่งครัด 4 มาตรการ
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,817 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,704 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 10,055 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก 649 ราย, มาจากเรือนจำ 50 ราย, เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 63 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,710,884 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 9,981 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,582,313 ราย อยู่ระหว่างรักษา 110,880 ราย อาการหนัก 2,985 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 689 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 84 ราย เป็นชาย 43 ราย หญิง 41 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 60 ราย มีโรคเรื้อรัง 21 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 11 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 17,691 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดวันที่ 10 ต.ค. ได้แก่ กทม. 1,185 ราย, ยะลา 776 ราย, สงขลา 563 ราย, ปัตตานี 415 ราย, นราธิวาส 479 ราย, สมุทรปราการ 462 ราย, ชลบุรี 457 ราย, ระยอง 364 ราย, นครศรีธรรมราช 345 ราย, ขอนแก่น 305 ราย
ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยวันที่ 9 ต.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 230,852 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ทั้งสิ้น 59,539,624 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 238,351,150 ราย เสียชีวิตสะสม 4,862,825 ราย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์โควิด-19 รายวัน หลังปรับมาตรการกิจการ/กิจกรรม ขยายระยะเวลาเคอร์ฟิว พบว่า ประชาชนเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันส่วนบุคคล มีการรวมกลุ่มสังสรรค์มากขึ้น จึงฝากย้ำเตือนพี่น้องประชาชนอย่าประมาท การ์ดอย่าตก ยังต้องยึดหลักอนามัยส่วนบุคคล ดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล รวมทั้งผู้ประกอบการ ชุมชน ตลาด ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด และมีการตรวจ ATK ตามที่กำหนด เพื่อลดจำนวนผู้เชื้อรายใหม่ในจังหวัดต่างๆ ห้ามลักลอบรวมกลุ่มจัดงานสังสรรค์ ตั้งวงเหล้า-เล่นพนัน เพราะนอกจากจะมีความผิดทั้งพระราชบัญญัติโรคติดต่อและพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) อาจทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นได้อีก ถึงแม้การติดเชื้อรายใหม่ในไทยอยู่ไนระดับคงที่ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการประชุม ศบค.ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ จะมีการประเมินสถานการณ์โควิด-19 ทั่วประเทศ ยอดผู้ติดเชื้อ ผลการฉีดวัคซีน เข้าหารือ เพื่อพิจารณาปรับมาตรการในระยะต่อไปด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ระบบการกำกับดูแลวัคซีนของไทย อยู่ในระดับที่ 3 ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 2 (ระดับวัด 1 ถึง 4 สูงสุดคือระดับ 4) ของระบบการจำแนกประเภทในการกำกับดูแลวัคซีนระดับชาติตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก มีผลเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยนาง Mariangela Simao ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์สุขภาพขององค์การอนามัยโลก ได้ประกาศในการประชุมวิสามัญของ International Conference of Drug Regulatory Authorities (ICDRA) เมื่อวันที่ 20-24 ก.ย. 2564 ทั้งนี้ ระบบการจำแนกประเภทในการกำกับดูแลวัคซีนระดับชาติขององค์การอนามัยโลกใช้การประเมินผ่านเครื่องมือ Global Benchmarking Tool (GBT) ที่มีมาตรฐานโดยคำนึงถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ โดยประเมินเป็นระดับวัด 1 ถึง 4 ซึ่งประเทศไทยอยู่ในระดับวัดที่ 3 หมายถึงระบบการกำกับดูแลวัคซีนมีเสถียรภาพ มีการบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาพรวมในขณะนี้แนวโน้มทรงตัว บางพื้นที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากการรวมกลุ่มทำกิจกรรม อาทิ งานสังสรรค์ งานศพ รวมถึงยังพบการติดเชื้อในโรงงาน สถานประกอบการ แคมป์ก่อสร้าง สถานที่ดูแลกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มแรงงานต่างด้าว ขณะที่บางพื้นที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อประปราย และสามารถควบคุมได้ รัฐบาลจึงมีแนวทางที่จะเปิดกิจการ กิจกรรม และเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ในชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินกิจการกิจกรรมต่างๆ และการเปิดเมืองให้ปลอดภัยและยั่งยืน ทุกคน ทุกฝ่าย ต้องตระหนักและเคร่งครัดใน 4 มาตรการสำคัญคือ 1.การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและครอบคลุม 2.การป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) โดยคิดไว้เสมอว่าทุกคนอาจเป็นผู้ติดเชื้อแฝง และป้องกันตนเองอย่างเข้มงวดกับทุกคน 3.การใช้ชุดตรวจ ATK คัดกรอง เพื่อให้ผลเร็ว เข้าสู่ระบบรักษารวดเร็ว ลดการแพร่เชื้อ และ 4.การดำเนินการตามแนวทาง COVID Free Setting ซึ่งองค์กร สถานประกอบการต่างๆ ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งหากดำเนินการได้ครบถ้วนทั้ง 4 มาตรการ มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ และประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่
“จากการนำร่องเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวใน 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) พังงา (เขาหลัก เกาะยาว) กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก) ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่กำหนด ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างดี สามารถเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในแผนจะเปิดเพิ่ม โดยต้องจัดตั้งศูนย์บัญชาการเพื่อติดตามเฝ้าระวังและควบคุมโรค เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการโควิดฟรีเซตติง และมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล” ปลัด สธ.ระบุ
ทางด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างจังหวัด พบว่า จ.สมุทรสาคร ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเพียง 139 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยเทศบาลตำบลสวนหลวงเปิดฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มก่อนวันที่ 31 พ.ค.64 โดยให้วอล์กอินมารับบริการได้ในทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 08.00-14.00 น. ตั้งแต่วันอังคารที่ 12 ต.ค. ส่วนที่ จ.พังงา หลังจากเจ้าหน้าที่ในสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพังงา 2 ราย ติดโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา พร้อมด้วยสาธารณสุขอำเภอเมืองพังงา ได้รีบลงพื้นที่สอบสวนโรค และคัดกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 25 ราย ทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ RT-PCR และสั่งกักตัวใน LQ กลางของจังหวัดพังงาและ LQ ตามภูมิลำเนา พร้อมกับประกาศปิดสำนักงานชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-23 ต.ค.64
ขณะที่ จ.กระบี่ ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 271 ราย และเสียชีวิต 27 ราย เช่นเดียวกันกับ จ.สงขลา ติดเชื้อเพิ่ม 563 คน ยอดติดเชื้อสะสม 34,885 คน เสียชีวิตสะสม 160 คน ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 6,200 คน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |