คนข่าวกับรางวัลโนเบลสันติภาพ


เพิ่มเพื่อน    

น่าสนใจว่ารางวัลโนเบลสันติภาพปีนี้เป็นของ “คนข่าวที่สู้เพื่อความจริง”
    เพราะปีก่อนๆ นี้ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้มักจะเป็นบุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวกับงานเพื่อสังคม, ต่อต้านสงครามหรือนักการเมืองที่มีผลงานสร้างสรรค์ที่โยงกับ “สันติภาพ”
    เช่น อองซาน ซูจี และบารัค โอบามา
    องค์กรนานาชาติที่ได้รับรางวัลนี้ก่อนหน้านี้มี เช่น World Food Program ซึ่งเป็นกลไกสากลเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ยากจนและหิวโหยโดยไม่คำนึงถึงการเมือง
    หรือ ICAN (International Campaign to Abolish Nuclear Weapons) ของออสเตรเลียที่มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ให้เลิกอาวุธนิวเคลียร์
    ปีนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่ “คนข่าว” ที่ดิ้นรนต่อสู้กับอำนาจเผด็จการเพื่อทำความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชนได้รับเกียรติเช่นนี้
    เท่ากับเป็นการตอกย้ำว่า หากสื่อมีอิสรเสรีอย่างแท้จริงในการทำหน้าที่ขุดคุ้ยหาความจริง เปิดโปงความชั่วร้ายและพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของผู้มีอำนาจ ก็ควรจะนำไปสู่ “สันติภาพที่ยั่งยืน” สำหรับโลกได้เช่นกัน
    มาเรีย เรซซา (Maria Ressa) ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rappler ของฟิลิปปินส์ และดมิทรี มูราตอฟ (Dmitry Moratov) ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Novaya Gazet ของรัสเซีย จึงเป็นตัวแทนของคนทำสื่ออาชีพที่ควรได้รับการชื่นชมในการต่อสู้เพื่อความจริง
    มาเรียกล่าวหลังจากได้รับทราบข่าวว่าเธอเป็นเจ้าของรางวัลนี้ว่า การที่คณะกรรมการโนเบลตัดสินมอบรางวัลนี้ให้กับเธอและเพื่อคนข่าวรัสเซียนั้น สะท้อนถึงความตระหนักถึงความสำคัญของสื่อมวลชนใน "การต่อสู้เพื่อข้อเท็จจริง"
    เธอบอกว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ควรเห็นรางวัลนี้ว่าเป็นชัยชนะสำหรับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์และนักข่าวของเธอ 
    มาเรียย้ำว่า "เมื่อมีความยุติธรรม ความมืดก็ย่อมจะสลายหายไป"
    มาเรียก่อตั้ง Rappler ซึ่งเป็นสื่อดิจิทัลที่เธอร่วมก่อตั้งในปี 2012 
    ทีมข่าวเล็กๆ ที่เธอสร้างขึ้นได้เป็นที่รู้จักในเวลาไม่นานนักจากการรายงานข่าวสืบสวนคดี “วิสามัญฆาตกรรม” ผู้คนจำนวนมากโดยฝีมือของตำรวจ ภายใต้โครงการที่อ้างว่าเป็นการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด 
    แต่ภายใต้ประธานาธิบดีดูเตร์เต มีผู้ถูก “วิสามัญฯ” หลายพันคนที่เข้าข่ายว่าเป็นผู้ถูกกลั่นแกล้งหรือเป็นศัตรูของนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น
    ดูเตร์เตเคยประกาศว่ามาเรียและ Rappler เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เพราะการไปขุดคุ้ยเรื่องชั่วร้ายของรัฐบาลของเขา
    วันนี้มาเรีย วัย 58 ปี และนักข่าวในเครือข่ายก็ยังถูกดำเนินคดีมากมายหลายกระทง
    ถึงวันนี้มาเรียต้องรอประกันตัวถึง 10 ครั้ง เพราะถูกทางการฟ้องร้องดำเนินคดีโดยกล่าวหาเธอทุกอย่าง 
    ไม่ว่าจะเป็นคดีหมิ่นประมาท
    ไม่ว่าจะเป็นข้อหาหลบเลี่ยงภาษี 
    ไม่แต่เท่านั้น รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังกำลังกลั่นแกล้งเธอด้วยการระงับใบอนุญาตการดำเนินกิจกรรมของ Rappler เมื่อ 3 ปีก่อน
    ขณะนี้อยู่ในระหว่างการต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อเธอจะขอคืนใบอนุญาตนั้น
    ด้วยข้อกล่าวจากทางการว่า มีการกระทำที่ละเมิดกฎหมายว่าด้วยการที่มีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ
    มาเรียถูกไล่ล่าและกล่าวร้ายด้วยกระบวนการของรัฐบาล
    จนเธอบอกว่า “การเป็นนักข่าวไม่เคยยากเหมือนทุกวันนี้มาก่อน”
    ส่วนนักข่าวคนกล้ารัสเซียมาราตอฟนั้น พอได้ข่าวเรื่องรางวัลโนเบลร่วมกับมาเรียก็ประกาศทันทีว่า
    เขาต้องอุทิศรางวัลให้กับผู้สื่อข่าวในสังกัดของเขา 6 คนที่ถูก “เก็บ” ด้วยมือฆาตกรที่สั่งการโดยผู้มีอำนาจที่ต้องการสกัดกั้นการทำหน้าที่เปิดโปงความชั่วร้ายของรัฐบาล
    มูราตอฟปีนี้อายุ 59 ปี เป็นผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์ "โนวายา กาเซตา" ในปี 1993 เพื่อทำหน้าที่คนหนังสือพิมพ์ที่อิสระ หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต 2 ปีก่อนหน้านั้น 
    โดยพุ่งเป้าไปที่การเจาะลึกและสอบสวนปัญหาสิทธิมนุษยชน คอร์รัปชัน และการใช้อำนาจโดยมิชอบของผู้มีอำนาจต่อประชาชนที่เห็นต่างหรือต่อต้าน
    นักข่าวในสังกัดของเขาหลายคน โดยเฉพาะที่วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ถูกลอบสังหารในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา 
    รวมถึงนักข่าว อันนา โปลิตกอฟสกายา ที่เป็นนักข่าวจอมเปิดโปง และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่ชื่อนาตาเลีย เอสเตมิรอฟวา
    อันนาถูกยิงเสียชีวิตที่บันไดอพาร์ตเมนต์ของเธอในปี 2006 ใกล้วันเกิดของปูติน 
    อีกรายถูกลักพาตัวจากบ้านของเธอในเชชเนีย และถูกลากไปยิงทิ้งอีก 3 ปีต่อมา
    ฟิลิปปินส์และรัสเซียเป็น 2 ประเทศที่นักข่าวและคนในวงการสื่อถูกสังหารโดยฝีมือของมือปืนอย่างไร้ร่องรอย น้อยครั้งที่ทางการจะสามารถจับมือใครดมได้
    รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่มอบให้นักข่าวผู้เสียสละและทุ่มเท 2 คนนี้จะช่วยสร้างความตระหนักและยกระดับการทำหน้าที่ของสื่อมืออาชีพที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองมากขึ้นแค่ไหนหรือไม่ ยังเป็นคำถามที่รอคำตอบอยู่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"