"ประวิตร" สั่งแม่ทัพภาค 4 เร่งขยายผลจับกุมไปป์บอมบ์ 41 ลูก "ผบช.ภ.9" เผยแก๊งขนอาวุธมีทั้งหมด 4 ราย สอบพบเคยใช้ก่อเหตุมาแล้ว 83 ลูกในพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้และ 4 อำเภอสงขลา "ผู้การนราธิวาส" ระบุคนร้ายสารภาพรับระเบิดมาจากชายแดนไทย-มาเลย์ นำส่งปลายทางอำเภอยี่งอ ส่วนผู้ต้องหาอีกรายหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว "ผบ.ฉก.นราธิวาส" เตรียมหารือปิดจุดผ่านแดนเป็นช่วงๆป้องกันลอบก่อเหตุร้าย
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(รมว.กลาโหม) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จ.นราธิวาส ตรวจยึดระเบิดขว้างชนิดไปป์บอมบ์ 41 ลูก ซุกซ่อนภายในรถกระบะระหว่างขนจากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ไปในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ว่าได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวเข้ามาแล้ว แต่คิดว่ายังไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยอะไรในพื้นที่เป็นพิเศษ เพียงแต่ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม และหาตัวผู้กระทำความผิดที่นำอาวุธดังกล่าวเข้ามา พร้อมทั้งต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าจะมีการนำระเบิดเข้ามาอีกหรือไม่
"ทางกองทัพภาคที่ 4 จะรายงานความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่นั่งรถขนระเบิดมากับคนขับอีก 1 คนได้ กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว" พล.อ.ประวิตรกล่าว
ที่ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) แถลงถึงการตรวจยึดระเบิดไปป์บอมบ์จำนวน 41 ลูกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดระเบิดไปป์บอมบ์และอุปกรณ์วงจรจุดชนวนระเบิดได้หลายรายการขณะที่ตั้งจุดตรวจเพื่อจับความเร็วรถบนถนนสายสุไหงโก-ลก– ตากใบ ช่วงบริเวณบ้านสะหริ่ง ม.1 ต.โฆษิต อ.ตากใบ เมื่อช่วงเวลา 11.30 น.ของวันที่ 21 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถรู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ร่วมขนย้ายวัตถุระเบิดในครั้งนี้แล้ว มีด้วยกันจำนวน 4 คน รวมถึงตัวนายซานูซี ยาแต ที่ถูกจับกุม
"นอกจากระเบิดไปป์บอมบ์ที่ยึดมาได้ครั้งนี้แล้ว ยังพบคนร้ายเคยนำมาใช้ก่อเหตุแล้วจำนวน 83 ลูก ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา โดยระเบิดทำงาน 60 ลูก ไม่ทำงาน 23 ลูก ตั้งแต่ปี 2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เป็นพื้นที่ อ.บาเจาะและ อ.จะแนะ และคนร้ายเองเสียชีวิต 2 รายที่ไปขว้างระเบิดที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา" ผบช.ภ.9 กล่าว
พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนนายซานูซี ยาแต อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาที่ขนระเบิดไปป์บอมบ์จำนวน 41 ลูกว่า ผู้ต้องหาให้การที่เป็นประโยชน์ โดยรับสารภาพเบื้องต้นร่วมกับผู้ต้องหาที่หลบหนี ทราบชื่อคือนายอับดุลอาชิ สามะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 10 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ขับรถไปจอดรอที่บริเวณริมคลองตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย บริเวณช่องทางเถื่อน บ้านปะดาดอ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ต่อมาได้มีชายฉกรรจ์ 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันซ้อนท้ายมาส่งวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง จึงนำขึ้นรถยนต์ โดยนำผ้านวมมารองเพื่อป้องกันการสะเทือน และขับมาตามเส้นทาง จุดหมายปลายทางเพื่อส่งในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส แต่ระหว่างทางถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตรวจจับได้เสียก่อน
พล.ต.ต.มนัสกล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อีโอดี หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ระเบิดที่แสวงเครื่องที่ยึดได้จำนวน 41 ลูก เป็นระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ ทำมาจากท่อพีวีซี ซึ่งวัสดุท่อพีวีซีไม่พบในประเทศไทย แต่แหล่งที่มาเป็นส่วนประกอบจากประเทศเพื่อนบ้าน และระเบิดในพลาสติกแบบ 4 เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้าง 4 นิ้วคูณ 4 นิ้ว ซึ่งมีการตั้งเวลาให้ระเบิดทำงาน นอกจากนี้ พบสารเคมี เป็นสารที่สามารถที่จะนำไปใช้กับระเบิดขนาดใหญ่ได้อีกจำนวน 2 ชุด และเจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาได้อีก 2 เครื่อง เจ้าหน้าที่จะได้ทำตรวจสอบว่าคนร้ายได้ใช้ติดต่อกับผู้ใด
"ในการติดตามนายอับดุลอาซิ สามะ ผู้ต้องหาที่หลบหนี ล่าสุดพบเบาะแสหนีไปทางริมคลองตามชายแดน ต่อมาได้มีรถจักรยานยนต์มารับและพาหลบหนี ซึ่งคนร้ายได้ทิ้งกระเป๋าเป๋สีดำ มีพาสปอร์ตไทยของคนร้ายอีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ได้ยึดเป็นหลักฐานไว้ตรวจสอบแล้ว" พล.ต.ต.มนัสกล่าว
ผบก.ภ.จว.นราธิวาสกล่าวว่า ในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หลังเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดวัตถุระเบิดจำนวนมากได้นั้น จากการวิเคราะห์เชื่อคนร้ายประสงค์ทำร้ายเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน ซึ่งระเบิดไปป์บอมบ์เป็นชนิดขว้าง คาดเป้าหมายน่าจะเป็นจุดตรวจหรือจุดตรวจยุทธศาสตร์ที่ล่อแหลม
"ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกส่วนเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นยานพาหนะ บุคคลตามเป้าหมาย เน้นคนที่ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ หรือผู้ชายแต่งกายชุดคลุมฮิญาบแฝงกายแต่งเป็นหญิง เนื่องจากพบคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่มักแต่งกายอำพรางใบหน้า และแต่งกายอย่างผิดปกติเสมอ จึงต้องเพิ่มความละเอียดในการตรวจสอบในช่วงนี้เป็นกรณีพิเศษ" ผบก.ภ.จว.นราธิวาสกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักนายซานูซี ซึ่งถูกจับกุมพบวัตถุต้องสงสัยเพื่อใช้ในการประกอบระเบิดจำนวน 7 รายการ รวมทั้งยังไปตรวจค้นบ้านพักของนายอับดุลอาชิที่หลบหนี ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนรถกระบะคันที่ใช้ขนระเบิดเป็นรถของนายอุษมา ยาแต น้องชายของนายซานูซี ถูกควบคุมตัวกรณีมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี เจ้าหน้าที่ ร้อย ร.15121 เมื่อ 2554 และศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพฤติกรรมนายซานูซี ยังพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เช่น เข้าร่วมโจมตีฐาน ร้อย ร.15121 (ฐานพระองค์ดำ) เมื่อ 19 มกราคม 2554, การเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อ 13 มกราคม 2559 และอื่นๆ อีกหลายคดี เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืนและถูกจำขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นเวลา 4 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2558
ด้าน พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส กล่าวถึงกรณีคนร้ายเมื่อก่อเหตุแล้วจะหลบหนีไปซ่อนตัวในประเทศเพื่อนว่า ตนจะปรึกษากับแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อวางมาตรการในการประมวลพื้นที่ริมพรมแดนเป็นห้วงๆ ว่าสมควรที่จะต้องพิจารณาให้ประชาชนงดข้ามแดนไปมาหาสู่ระหว่างกัน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งอาจป้องกันการเล็ดลอดไม่ให้กลุ่มคนร้ายนำวัตถุระเบิดหรืออุปกรณ์และสารตั้งต้นข้ามมาในพื้นที่ฝั่งไทยหรือไม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |