กระแสยังไม่มีแผ่วสำหรับลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ เมนูที่ชื่นชอบและคิดถึงของลิซ่า BLACKPINK ศิลปินสาวซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ส่งผลให้บรรยากาศการค้าขายลูกชิ้นยืนกินใน จ.บุรีรัมย์ คึกคักอย่างต่อเนื่อง ทั้งลูกชิ้นที่วางขายเต็มแผงหน้าร้าน ไม้ละ 3 บาท 7 ไม้ 20 บาท ทอดขายแทบไม่ทัน แล้วยังมีเดลิเวอรีบริการส่งลูกชิ้นยืนกินให้ถึงที่บ้าน
ใครที่อยากอินเทรนด์ และลองลิ้มชิมรสชาติลูกชื้นยืนกิน พร้อมน้ำจิ้มสูตรดั้งเดิมพากันมาที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ แฟนคลับบางคนแต่งกายมีกลิ่นอายคล้ายศิลปินดังเพื่อมาซื้อลูกชิ้นและถ่ายภาพโพสต์ในโลกโซเชียลมีเดีย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ แทบทุกร้านเงียบเหงาไม่ค่อยมีลูกค้า ผลกระทบจากโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้จะเอาตัวรอดจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ไม่ใช่แค่เกาะกระแสของ”ลิซ่า” และเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์โควิด ผู้ประกอบการต้องปรับรูปแบบการขาย คงคุณภาพของสินค้า ส่วนการยืนกินหน้าร้านยังคงให้เห็นตามวิถี ลูกชิ้นยืนกิน แต่ไม่มีการตั้งหม้อน้ำจิ้มหน้าร้านเหมือนเดิม มีการรักษาระยะห่างการยืนของลูกค้าภายใต้มาตรการยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดโควิด เรียกว่า เป็นลูกชิ้นยืนกินสไตล์นิวมอร์มอล
ร้าน”ป้าณีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์” มีตำนานเก่าแก่ ขยายเปิดสาขาในกรุงเทพฯ
บุกถึงถิ่นลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ แหล่งรวมร้านลูกชิ้นยืนกินเจ้าดัง แวะร้าน”ป้าณีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์” หนึ่งในร้านลูกชิ้นยืนกินของดีบุรีรัมย์ที่มีตำนานเก่าแก่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2525 และมีความโดดเด่นด้วย “น้ำจิ้มพริกเผาสูตรต้นตำรับ” มีลูกค้าเข้าร้านต่อเนื่อง แม้จะเลือกงดบริการน้ำจิ้มยืนกินหน้าร้าน เช่นเดียวกับร้านลูกชิ้นยืนอีก10 กว่าเจ้าในสถานีรถไฟที่ต้องปรับตัวให้ธุรกิจไปต่อได้ ในวันที่ลูกค้าต่างกังวลที่จะออกมากินอาหารนอกบ้าน
ป้าณีเจ้าของร้านไปรับบริการวัคซีน ได้พูดคุยกับ เกริกเกียรติ แซ่ฉั่ว หลานชาย บอกว่า ร้านป้าณีขายลูกชิ้นยืนกินมาเกือบ 30 ปี ตั้งแต่ไม้ละ 1 – 2 บาท ขายมาหลายที่ เดิมใช้สามล้อพ่วงถีบขายในบุรีรัมย์ ก่อนจะมาขายประจำหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์จนถึงปัจจุบัน ลูกชิ้นทำเองอย่างดี ได้มาตรฐาน อย. มีลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นเนื้อ ฮอทดอก น้ำจิ้มสูตรพริกเผาของร้านได้รางวัลน้ำจิ้มยอดเยี่ยมชนะเลิศการประกวดลูกชิ้นยืนกินชิงแชมป์โลก 2 ปี ซ้อน ในปี 2018—2019 ที่ร้านมีน้ำจิ้ม 3 สูตร คือ น้ำจิ้มพริกเผา น้ำจิ้มดั้งเดิม และน้ำจิ้มพริกสด รสชาติต่างกัน
ตอนนี้ร้านป้าณีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ไปเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ครั้งแรก ที่ศูนย์อาหารไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จากความฮิตความต้องการของลูกค้า และประวัติความเป็นมาของร้านฯ ที่เป็นเมนูระดับตำนานของประเทศ หวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ จ.บุรีรัมย์ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคต คนกรุงจะมาซื้อที่ร้านหรือบริการสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น Robinhood และ Grabfood เสิร์ฟคนกรุงเทพฯ ถึงบ้าน
ย้อนไปก่อนหน้านี้ เกิดโควิดร้านลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์เงียบเหงา ลูกค้าลดลง ยอดขายร้านตกไปมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เราปรับปริมาณการขายน้อยลง เพิ่มมีการขายออนไลน์ ขายส่งหน้าตลาด ก็พยายามประคองร้านไม่ให้ขาดทุน ปรับตัวรูปแบบต่างๆ
“ เมื่อคนเริ่มได้รับวัคซีนก็เริ่มขายได้มากขึ้น ลูกค้าส่วนหนึ่งมั่นใจจะออกมากินอาหารนอกบ้าน มาจับจ่ายซื้อของ ส่วนกระแสลิซ่าก็หนุนทำให้ขายดีขึ้น 3-4 เท่า ไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัมต่อวัน รายได้วันละเป็นแสน การฉีดวัคซีนจะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้ ทั้งผู้ประกอบการต้องฉีดให้ครบ และลูกค้าก็ต้องฉีดเพื่อป้องกันตัวเอง สถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น ถ้าเปิดจังหวัด เปิดประเทศ คนได้รับวัคซีนครบจะเดินทางมาท่องเที่ยวบุรีรัมย์ มาเช็คอินลูกชิ้นยืนกินจะทำให้ธุรกิจดีขึ้น เพราะที่ร้านฉีดวัคซีนครบแล้วทุกคน อยากให้ประชาชนได้ฉีดกันทุกคน แล้วก็อยากให้หน่วยงานรัฐช่วยโปรโมทลูกชิ้นยืนกินที่เป็นเอกลักษณ์ของจ.บุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อยู่ในความสนใจของคนตลอด มันเป็นสีสันของบุรีรัมย์ “ เกริกเกียรติ บอกเชื่อมั่นธุรกิจลูกชิ้นจะต้องดีขึ้น
กระแส”ลิซ่า”ฮิตต่อเนื่อง มีทั้งทอดขายและเดลิเวอรี
ส่วน กรินท์ อิสริยจงกล ทายาทรุ่น 3 ร้าน”ยายภาลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์”ที่ชูสโลแกน”คิดถึงบุรีรัมย์ คิดถึงลูกชิ้นยายภา” เปิดมานาน 30 ปีแล้ว บอกว่า เริ่มแรกขายด้านล่างสถานีรถไฟ ร้านยายภาเปิดเป็นเจ้าที่สองที่สถานี ขายมาตั้งแต่รุ่นยาย รุ่นแม่ ปัจจุบันเป็นรุ่นหลานสืบทอดกิจการ รักในอาชีพนี้เป็นอาชีพอิสระ และสร้างรายได้ดี แต่มาเจอสถานการณ์โควิดทำให้รายได้ตกไปเยอะ ร้านค้าซบเซากว่าปี จนมาได้กระแสของลิซ่า แบล็กพิงค์ บอกว่า คิดถึงลูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์ ทำให้กลับมาขายดิบขายดีจากหน้ามือเป็นหลังมือ ถือเป็นเกินความคาดหมาย ลูกค้าตอบรับดีมาก ทำให้มีการวางแผนขยายธุรกิจลูกชิ้นยืนกินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่างน้อยถ้ากระแสร้านที่สถานีรถไฟเบาลง ก็ยังมีหน้าร้านออนไลน์ ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขวางมากขึ้น ส่งทั้งในบุรีรัมย์และต่างจังหวัด
“ สูตรลูกชิ้นจะเป็นของร้านใครร้านมัน เป็นเอกลักษณ์ น้ำจิ้มก็สูตรใครสูตรมัน ไม่เหมือนกัน ร้านยายภา ทำลูกชิ้นหมูเอง สดใหม่ ทุกวัน แป้งน้อย หมูเยอะ น้ำจิ้มสูตรเรามีมะขามเปียก พริกแห้ง ทำให้เผ็ดเปรี้ยว อีกสูตรเป็นน้ำจิ้มพริกเผาจะมีความเผ็ดขึ้นมาอีกขั้น ต้องมาลองกินที่บุรีรัมย์ หรือสั่งซื้อจะติดใจเหมือนลิซ่าแน่นอน อยากให้จังหวัดช่วยส่งเสริมประชาสัมพันธ์ ซึ่งประโยชน์จะเกิดกับผู้ประกอบการในวงกว้างไม่เฉพาะร้านลูกชิ้นยืนกิน “
ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ขายดิบขายดี ได้ฟื้นตัวหลังกระทบโควิด
กรินท์ บอกว่า เมื่อก่อนลูกชิ้นยืนกินจะมีหม้อน้ำจิ้ม ลูกค้ายืนล้อมกันกินลูกชิ้นทอด จิ้มทานกับน้ำจิ้มหม้อเดียวได้เลย ก็ต้องปรับเพื่อสุขอนามัย ถ้ายืนกิน จะแยกถ้วยน้ำจิ้มให้คนละชุด ให้ยืนห่างๆ กัน เพื่อป้องกัน พอระบาดหนักก็ยกเลิกการยืนกินหน้าร้าน ไม่วางถ้วยน้ำจิ้มเน้นความปลอดภัย แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ลูกค้ามา 1 คน จะมอบถ้วยน้ำจิ้ม 1 ถ้วย เพื่อให้จิ้มกับลูกชิ้นกินหน้าร้านได้เลย เพื่อให้คงคอนเซ็ปยืนกิน ถ้าประชาชนรับวัคซีนครบ น่าจะได้เห็นภาพนี้ เพราะวัคซีนมีความสำคัญ ช่วยลดความเสี่ยงโควิด ควบคู่กับดูแลตัวเอง การ์ดอย่าตก ถ้าไม่มีระลอกใหม่ เชื่อว่า จะได้ยืนกินคึกคักในเร็ววัน
ต้นตำรับลูกชิ้นยืนกิน’ป้านก’ ทอดไม่ทัน ปรับขายแบบซื้อไปทอดเอง
เสียงจากหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวหลักของบุรีรัมย์ กัญญารัตน์ ท่วมไธสง ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่า ร้านลูกชิ้นยืนกินในพื้นที่ขายดีไม่หยุด มีการเปิดร้านใหม่เพิ่มขึ้นด้วย เพราะมีกระแสลิซ่าช่วยเสริมความดังและน่าสนใจ น้องลิซ่าเอ่ยถึงลูกชิ้นยืนกินไม่ถึง 5 วินาที แต่ทำให้ลูกชิ้นยืนกินเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ วันที่ 1 พ.ย.จังหวัดบุรีรัมย์จะเปิดเมือง ในพื้นที่อ.เมืองบุรีรัมย์ จะส่งผลให้คึกคักมากขึ้น และจะผลักดันเป็นแลนด์มาร์คสตรีทฟู้ด ตอนนี้กระแสมาแรง แต่จะทำอย่างไรให้กระแสอยู่นานๆ
สำหรับลูกชิ้นยืนกินมีขายนานแล้ว เดิมเป็นร้านเล็กๆ หลังสถานีรถไฟ เมื่อปี 2562 จัดระเบียบร้านค้า นำไว้ในพื้นที่สถานีรถไฟบางส่วน แต่ร้านลูกชิ้นยืนกินทั้งจังหวัดบุรีรัมย์มีมากกว่า 100 ร้าน แต่ละร้านมีสูตรน้ำจิ้มเฉพาะ
ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาระบุบุรีรัมย์จัดเทศกาลลูกชิ้นยืนกินครั้งแรกปี 2560 ปีที่แล้วไม่มีเพราะโควิด ส่วนปี 2564 เทศกาลกลับมาจัดอีกครั้ง เพราะสถานการณ์คลี่คลายบวกกับมีกระแสลิซ่า ทำให้ร้านค้าขายดิบขายดี 7 วัน รายได้ 100 กว่าล้าน มีการสั่งซื้อออนไลน์ส่งตรงจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ปัจจุบันธุรกิจลูกชิ้นยืนกินต้นตำรับจากบุรีรัมย์ยังต่อยอดไปที่กรุงเทพฯ มีการเซ็นเอ็มโอยู
“ กระแสลูกชิ้นยืนกินที่ได้รับความนิยมมาก มีการช้อปผ่านออนไลน์สั่งซื้อสินค้าจากที่ทั่วประเทศ นำมาสู่การประชุมเพื่อยกระดับลูกชิ้นยืนกิน จังหวัด โดยสำนักการท่องเที่ยวฯ เชิญสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และภาคีเครือข่าย หาแนวทางควบคุมคุณภาพลูกชิ้นยืนกินและน้ำจิ้ม รวมถึงจัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์รวบรวมข้อมูลร้านลูกชิ้นยืนกินจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะกระแสที่แรง ทำให้เกิดสินค้าเลียนแบบ จะทำให้ธุรกิจลูกชิ้นยืนกินยั่งยืนได้ต้องรักษาคุณภาพ ความสดใหม่เมื่อสินค้าถึงมือผู้บริโภค ปรับเทคนิคการทำน้ำจิ้มให้เก็บได้นานขึ้น โดยใช้งานวิชาการและนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยพัฒนาสินค้า เพื่อสร้างความประทับใจ ลูกค้าจะสั่งซื้อซ้ำ หรือซื้อเพิ่มในครั้งต่อไป ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์มีหลายสูตร แต่ความอร่อยไม่ทิ้งกัน “ กัญญารัตน์ กล่าว
เช็คอินลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ แลนด์มาร์คใหม่
พูดถึงลูกชิ้นยืนกินก็ต้องนึกถึงสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ว่าที่ ร.ต.ประวิทย์ พวงสวัสดิ์ นายสถานีรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า ลูกชิ้นยืนกินเป็นอาหารในตำนานของจังหวัดบุรีรัมย์ การนำร้านขึ้นมาในพื้นที่สถานีรถไฟเป็นการจัดระเบียบและสร้างจุดเช็คอินส่งเสริมการท่องเที่ยวในบุรีรัมย์ นอกจากไปเที่ยวพนมรุ้ง สนามกีฬา สนามแข่งรถ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ สมัยก่อนยืนกินหน้าร้าน แต่โควิดพฤติกรรมคนเปลี่ยนมาซื้อกลับไปกินที่บ้าน ภายใต้มาตรฐานสาธารณสุข อยากชวนมาลิ้มลองความอร่อยของดีบุรีรัมย์คนค้าขายจะได้มีกำลังใจและทำธุรกิจต่อไปได้ในวันที่โควิดยังอยู่กับชีวิตเรา เพราะมีแนวทางป้องกัน สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ฉีดวัคซีนมันเป็นวิถีปกติใหม่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |