8ต.ค.64-ที่จ.ตราด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ระหว่าง“จุรินทร์ ออนทัวร์” ภาคตะวันออก ที่จ.ตราด ถึงการเตรียมผู้สมัครลงเลือกตั้งส.ส. ในภาคตะวันออกของพรรค ว่า จันทบุรี ระยอง และตราด เป็นเป้าหมายของพรรค โดยได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วทั้งหมดเกือบ 100% แล้ว และมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เป็นผู้รับผิดชอบดูแลโดยตรง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าเป็นการเลือกตั้งแบบใช้บัตรสองใบ จ.ระยองจะมีส.ส.เพิ่มเป็น 5 คน ส่วนจ.จันทบุรี พรรคได้เปิดตัวผู้สมัคร 3 คนไปแล้ว ในนาม “ดรีมทีม ประชาธิปัตย์ จันทบุรี” สำหรับ จ.ตราดก็ได้เตรียมผู้สมัครแล้ว 1 คน รวมเป็นทั้งหมด 9 ที่นั่ง ถือว่าพรรคมีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือกตั้งทั้งหมด

“เมื่อวาน(7 ต.ค.)ได้คุยกันระหว่างแกนนำของพรรคฯทั้ง 3 เขตในจ.จันทบุรี และผู้สนับสนุนก็เห็นตรงกันว่ามีโอกาสสูงมาก เที่ยวนี้ที่เราจะได้ ส.ส.จันทบุรีทั้ง 3 คน เพราะผู้สมัครก็มีศักยภาพด้วย มีทั้งเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ รวมอยู่ทั้ง 3 คน เพราะเขต 1 เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เป็นทันตแพทย์ และมีศักยภาพสูง ลงพื้นที่สม่ำเสมอเป็นคนรุ่นใหม่ บุคลิกภาพดี ลงพื้นที่ติดดินตลอด คือทพ.อิทธิพล จังสิริมงคล เป็นศิษย์เก่า ร.ร.สวนกุหลาบ ทันตแพทย์ จุฬาฯ ปริญญาโท นิติศาสตร์ และเคยรับราชการที่ รพ.ศูนย์จันทบุรี ส่วนอีกเขต น้องเบนซ์  นายชรัตน์ เนรัญชร ลงสมัครส.ส.คราวที่แล้วแพ้ไม่มาก เที่ยวหน้าก็มีโอกาสเพราะทำงานการเมืองสม่ำเสมอ และจบปริญญาตรี เกียรตินิยม ด้านการตลาด ปริญญาโท ด้านการบริหารการเงิน ปัจจุบันเป็นรองเลขาธิการหอการค้าจังหวัดจันทบุรี  ส่วนนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา เป็นอดีต ส.ส. จันทบุรี 3 สมัย ของพรรค  แม้ย้ายพรรคไปรอบหนึ่ง แต่วันนี้ก็เลือดเก่าไหลกลับก็มีโอกาสมาก เมื่อกลับมาประชาธิปัตย์ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เที่ยวนี้จะได้ถ้ากลับมาลงในนามพรรคประชาธิปัตย์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว  

เมื่อถามถึงคู่แข่งในจังหวัดจันทบุรีเป็นขาใหญ่ของพรรคเพื่อไทยนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นธรรมดา ไม่มีเขตใดที่ลงคนเดียว เพราะฉะนั้นก็ต้องมีคู่แข่ง เราก็เป็นคู่แข่งของเขา เขาก็เป็นคู่แข่งของเรา ทุกเขตเลือกตั้งจะต้องเป็นเช่นนี้

เมื่อถามถึงการจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อมีความกังวลหรือไม่ ที่มีหลายฝ่ายมองว่าการเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของประชาธิปัตย์เป็นเรื่องยาก เพราะต้องฝ่า 18 ด่านอรหันต์ในเรื่องอาวุโส นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีเกณฑ์อยู่แล้วว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคบ้าง มีศักยภาพอย่างไร ความอาวุโสก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะพรรคจะเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ ที่ผ่านมาเมื่อตนมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ได้พิสูจน์ชัดเจน อย่างนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ เข้ามาพรรคครั้งแรก ตนก็สนับสนุนให้เป็นรองหัวหน้าพรรค เพราะเขามีศักยภาพ เป็นคนรุ่นใหม่ และทำหน้าที่ได้ดี ยังมีคนอื่นๆ อีกมาก เช่น นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ลงสมัครบัญชีรายชื่อ

 “การจัดลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความรู้ความสามารถ และผลงาน จะเป็นตัวชี้วัด ดังนั้น จึงไม่ใช่มีแค่อาวุโสอย่างเดียว คนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในพรรคก็มีโอกาส และวันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่จำนวนมากเดินเข้าพรรคประชาธิปัตย์ และผมได้ประกาศตัวไปตามลำดับอยู่แล้ว และยังมีอีกเยอะเมื่อถึงเวลาก็จะประกาศให้ทราบ ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคที่คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเดินเข้าพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุดยุคหนึ่ง จนวันนี้ก็ยังเดินเข้าอยู่ เมื่อวันที่ 6 ต.ค. มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ก็มีการรับสมาชิกใหม่ 7-8 พันคน ในจำนวนนั้นเป็นคนรุ่นใหม่ 20-30%” นายจุรินทร์ กล่าว