ชุมชนพหลโยธิน 32 / พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานยกเสาเอกบ้านประชารัฐริมคลองเพิ่มอีก 1 ชุมชน 78 ครัวเรือน ขณะที่นักวิชาการออกแบบพัฒนาพื้นที่ริมคลองระบุจะพัฒนาคลองลาดพร้าวให้เหมือนเมืองอัมสเตอร์ดัม ทำให้ชาวบ้านริมคลองมีรายได้จากการท่องเที่ยว เผยความคืบหน้าสร้างบ้านริมคลองเสร็จแล้ว 1,223 ครัวเรือนใน 29 ชุมชน ด้านชาวชุมชนร่วมมิตรฯ เขตดอนเมืองยื่นหนังสือให้รัฐบาลแก้ปัญหากลุ่มค้านโครงการทำให้สร้างบ้านไม่ได้ ส่วนแกนนำคัดค้านโครงการโดนแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 73 ราย
วันนี้ (22 มิถุนายน) เวลา 10.00 ที่ชุมชนพหลโยธิน 32 ริมคลองลาดพร้าว เขตจตุจักร มีพิธียกเสาเอกบ้านประชารัฐริมคลอง โดยมีพลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรณรงค์สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่ริมคลองลาดพร้าว เป็นประธานในพิธี มีนายสมพร ใช้บางยาง ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) นายธนัช นฤพรพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันฯ ให้การต้อนรับ มีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานเขตจุตจักร กรมทหารราบที่ 9 และเครือข่ายชาวชุมชนริมคลองลาดพร้าวเข้าร่วมงานประมาณ 300 คน
นายเจริญ ชิดชอบ ผู้แทนชุมชนพหลโยธิน 32 กล่าวว่า ชุมชนมีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 6 ไร่เศษ ได้รับสัญญาเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ช่วงแรกระยะเวลา 30 ปี มีครัวเรือนทั้งหมด 126 ครัวเรือน แบ่งการก่อสร้างบ้านออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่หนึ่ง ดำเนินการภายใต้ “สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนพหลโยธิน 32 จำกัด” มีสมาชิกทั้งหมด 78 ครัวเรือน (รวมครอบครัวขยาย) และกลุ่มที่สอง ดำเนินการภายใต้ “สหกรณ์เคหสถานเพื่อที่อยู่อาศัย จำกัด” มีสมาชิกทั้งหมด 56 ครัวเรือน โดยในวันนี้มีพิธียกเสาเอกเพื่อก่อสร้างบ้านในกลุ่มที่ 1 รวมทั้งหมด 78 ครัวเรือน รูปแบบเป็นบ้านแถว 2 ชั้นและ 3 ชั้น ตามแผนงานจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ทั้งนี้แต่ละครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลผ่านทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนครัวเรือนละ 147,000 บาท แยกเป็น งบสาธารณูปโภค (ถนน ประปา ไฟฟ้า บ่อบำบัดน้ำเสีย) ครัวเรือนละ 50,000 บาท งบอุดหนุนเพื่อที่อยู่อาศัย (สมทบค่าตอกเสาเข็มบ้าน ฐานราก) ครัวเรือนละ 25,000 บาท งบช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ค่าเช่าบ้านระหว่างการก่อสร้างบ้านเดือนละ 3,000 บาทจำนวน 10 เดือน งบสมทบค่าที่อยู่อาศัยครัวเรือนละ 25,000 บาท ค่ารื้อย้าย-ขนของครัวเรือนละ 5,000 บาท ฯลฯ รวมทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ครัวเรือนละ 293,900 บาท ชำระคืน 15 ปี ผ่อนเดือนละ 2,480 บาท ดอกเบี้ย 6%
พลโทสรรเสริญ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาคูคลองในกรุงเทพฯ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้สะดวกและป้องกันน้ำท่วมได้ โดยเริ่มสร้างเขื่อนระบายน้ำในคลองลาดพร้าวซึ่งเป็นคลองสายหลักที่รับน้ำมาจากปทุมธานีเพื่อระบายลงสู่อุโมงค์ระบายน้ำ ดังนั้นจะต้องมีการย้ายบ้านเรือนที่ปลูกสร้างกีดขวางทางเดินน้ำรวมทั้งหมดประมาณ 7,000 ครัวเรือน โดยรัฐบาลจะให้การช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้รื้อย้ายบ้านเรือนขึ้นมาอยู่บนบกผ่านทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ ‘พอช.’ ครัวเรือนละ 147,000 บาท และให้สินเชื่อเพื่อก่อสร้างบ้านอีก
“ตอนนี้คอนโดฯ ของเอกชนที่สร้างอยู่ริมคลองมีราคาขายห้องหนึ่ง 2-3 ล้านบาท แต่บ้านประชารัฐริมคลองที่พี่น้องประชาชนกำลังสร้างอยู่นี้ ราคาไม่เกิน 370,000 บาท โดยรัฐบาลได้ให้งบสนับสนุนช่วยเหลือผ่านทาง พอช. แต่พี่น้องก็จะต้องร่วมจ่ายด้วย เพื่อช่วยกันพัฒนาคลองให้สะอาดสดใส ซึ่งต่อไปจะใช้คลองเป็นเส้นทางคมนาคมได้ด้วย” พลโทสรรเสริญกล่าว
ผศ.พงศ์พร สุดบรรทัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ในฐานะผู้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ริมคลองลาดพร้าว กล่าวว่า ตนได้รับโจทย์จากทางรัฐบาลว่าอยากจะให้คลองลาดพร้าวเป็นเหมือนเมืองอัมสเตอร์ดัมของประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะเป็นเมืองที่สวยงามตั้งอยู่ริมแม่น้ำ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม แต่คลองลาดพร้าวของเราเน่าเสียเพราะถูกละทิ้งมานาน สามารถระบายน้ำได้เพียง 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นจึงต้องออกแบบให้ระบายน้ำได้ถึง 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นอกจากนี้ก็จะต้องขุดลอกคลองให้ลึกกว่าเดิมอีก 3 เมตร เพื่อให้การระบายน้ำได้ดี
“แต่ชาวบ้านก็จะต้องอยู่ได้ และจะต้องมีเศรษฐกิจที่ดี เพื่อนำรายได้มาเป็นค่าผ่อนบ้าน เป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน ซึ่งหลังจากที่มีการพัฒนาพื้นที่ริมคลอง ทำคลองให้สะอาด ชาวบ้านมีบ้านเรือนที่สวยงามแล้ว ก็สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ มีท่าเรือ มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมเรือ-รถยนต์-รถไฟฟ้า มีทางเดินเท้า เส้นทางจักรยานเลียบคลอง ชาวบ้านสามารถนำอาหาร ผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์ชุมชนมาวางขายให้นักท่องเที่ยว และต่อไปจะมีโครงการ ‘คลองอัจฉริยะ’ โดยจะวางระบบ WIFI ในพื้นที่ชุมชนริมคลอง มีข้อมูลชุมชนริมคลอง มีแผนที่การเดินทาง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงข้อมูลและเดินทางมาท่องเที่ยวได้” ผศ.พงศ์พรกล่าว
นายธนัช นฤพรพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กล่าวถึงความคืบหน้าในการสนับสนุนโครงการบ้านประชารัฐริมคลองเพื่อรองรับประชาชนในคลองลาดพร้าวว่า ขณะนี้ดำเนินการรื้อย้ายและสร้างบ้านใหม่แล้ว 29 ชุมชน โดยมีบ้านที่กำลังก่อสร้าง 2,656 ครัวเรือน ก่อสร้างเสร็จแล้ว 1,223 ครัวเรือน คิดเป็นความคืบหน้า 37.57 % จากเป้าหมายทั้งหมด 50 ชุมชน รวม 7,069 ครัวเรือน
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตระบายน้ำ ระยะทางรวม 45 กิโลเมตรเศษ ขณะนี้บริษัทรับเหมาตอกเสาเข็มเพื่อเป็นรากฐานการก่อสร้างเขื่อนแล้วจำนวน 22,232 ต้น รวมเป็นระยะทาง 16.72 กิโลเมตร คิดเป็นความคืบหน้า 37.05 % จากจำนวนเสาเข็มที่จะต้องตอกทั้งหมด 60,000 ต้น ซึ่งถือว่าล่าช้ากว่าแผนงาน ดังนั้นกรุงเทพมหานครในฐานะที่รับผิดชอบงานสร้างเขื่อนฯ จึงเร่งให้บริษัทรับเหมาตอกเสาเข็มเพิ่มให้ได้อีก 5,000 ต้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ในวันเดียวกันนี้ ตัวแทนชาวชุมชนร่วมมิตรแรงศรัทธา เขตดอนเมือง ซึ่งเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐริมคลองได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงพลโทสรรเสริญ โดยระบุว่า ชุมชนร่วมมิตรฯ มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 368 ครัวเรือน มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 171 ครัวเรือน รื้อย้ายบ้านเพื่อก่อสร้างบ้านใหม่แล้ว 39 หลัง แต่ติดขัดบ้านเรือนที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการขัดขวาง เช่น ไม่ให้ตัดต้นไม้ในชุมชน ไม่ยอมรื้อย้ายบ้าน จึงทำให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการไม่สามารถสร้างบ้านได้ จึงขอให้ทางรัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหา
สำหรับผู้ที่คัดค้านโครงการ ไม่ยอมเข้าร่วม โดยเฉพาะแกนนำและผู้ที่มีผลประโยชน์ เช่น เป็นเจ้าของบ้านเช่า หอพัก ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ราชพัสดุริมคลองได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกครอบครองที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน รวม 73 ราย ส่งฟ้องศาลแล้ว 3 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการดำเนินการชั้นอัยการ และมีเป้าหมายที่จะดำเนินคดีอีกประมาณ 70 ราย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |