"บิ๊กป้อม" การันตี "พีระพันธุ์" คือคน พปชร. ตั้งมาช่วยงานตัวเอง "จุรินทร์" มั่นใจรัฐบาลทำงานด้วยกันได้ดีแนะรัฐบาลผสมถ้าไม่ไปแตะอะไรให้เกิดแรงกระเพื่อมปัญหาก็ไม่เกิด "แกนนำพท." ถาม "ประยุทธ์" เอาความมั่นใจจากไหนถึงกล้าบอกยินดีเป็นนายกฯ อีกสมัยเปิดตัว “รวมไทยยูไนเต็ด” ปัดเป็นนอมินี ไม่มีนายทุน ลั่นสู้ทุกกติกา "พรรคกล้า" เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต ชูผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีแต่งตั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ว่าเป็นการตั้งมาช่วยงานตน ไม่ใช่การจัดทัพ แต่ให้ช่วยตน เพราะงานตนเยอะ
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นายพีระพันธุ์ ช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นายพีระพันธุ์เป็นคนของพรรค แล้วจะเป็นคนของใครล่ะ ส่วนที่เลือกนายพีระพันธุ์ เพราะต้องการให้มาช่วยงาน และเขาก็สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว โดยไม่ได้มอบหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ให้ช่วยตนทุกเรื่อง และทุกคนเป็นขุนพลหมด
ถามว่า นายพีระพันธุ์จบโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร จึงถูกมองเป็นเซนต์คาเบรียลคอนเนกชันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า นายพีระพันธุ์รู้จักกันตนมานานแล้ว และคุ้นเคยกับตนตั้งแต่ปี 2551 โดยตนเป็น รมว.กลาโหม และนายพีระพันธุ์เป็น รมว.ยุติธรรม
ส่วนกรณีการตั้งนายสมศักดิ์ถือเป็นการปลอบใจหรือไม่ หลังไม่ได้แต่งตั้งเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค หัวหน้าพรรคพปชร.กล่าวว่า ไม่ได้ปลอบใจ เพราะให้มาเป็นที่ปรึกษาตน และมาช่วยงานตนเพราะงานเยอะ ทั้งสองคนจะดูแลทุกอย่างจากตน ส่วนการเลือกตั้ง อบต. ส.ส.พรรค พปชร.ไม่ต้องเตรียมพร้อมเพราะพรรคไม่ได้ส่ง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ยังทำงานร่วมกันไปได้ด้วยดี เท่าที่มองเห็นไม่มีปัญหาอะไรที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาถัดจากนี้ สถานการณ์เดินหน้าไปตามระบบ เพราะระบบรัฐสภาที่เป็นรัฐบาลผสมมีหลักเกณฑ์ วัฒนธรรมทางการเมืองในการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ถ้าไม่ไปแตะอะไร ไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมโดยไม่จำเป็นปัญหาก็ไม่เกิด และพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมาหลายสมัย เป็นฝ่ายค้านหลายครั้ง เป็นหัวหน้ารัฐบาลผสมก็หลายครั้ง เรามีประสบการณ์ จึงเข้าใจได้ดีถึงการทำงานร่วมกันในรูปแบบรัฐบาลผสมว่าต้องทำอย่างไร
"ประชาธิปัตย์ดำเนินการมีกฎเกณฑ์กติกาอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนมาจนถึงวันนี้ไม่ได้ แต่บางกรณีผมเข้าใจได้ อาจจะต้องซักซ้อมทำความเข้าใจกันบ้าง ถ้ามีปัญหาอะไรเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็นก็หารือกันในพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าคลี่คลายได้ทุกอย่างก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเป้าหมายสำคัญในภาวะวิกฤตเราก็ต้องช่วยกันประคับประคองให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ ไม่อย่างนั้นสุดท้ายกรรมจะไปตกกับประชาชน ซึ่งประชาธิปัตย์ไม่อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น" นายจุรินทร์กล่าว
ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น้ำท่วมมาเกือบเดือน ยังไม่เห็นรัฐบาลออกมาตรการเยียวยาประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม รัฐบาลเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน แต่ไม่ยอมแก้ไข เพราะสาละวนอยู่แต่กับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที ไม่ใช่ว่าพอทวงคืน 4 หน่วยงานกลับมาได้ก็กระหยิ่มยิ้มย่อง กอดคอกันต่อไป ละทิ้งและไม่สนใจแก้ปัญหา ทอดทิ้งประชาชน 7 ปีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สร้างวิกฤตทุกมิติ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงบอกว่ายินดีเป็นนายกฯ ต่ออีกสมัย ต้องถามประชาชนด้วยว่ายินดีหรือไม่ ถึงเวลาที่ควรยุติบทบาททางการเมืองได้แล้ว เพราะบริหารงานล้มเหลว
วันเดียวกัน นายวรนัยน์ วาณิชกะ อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร GQ, นายวินท์ สุธีรชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายณิชนัจทน์ สุดลาภา หรือเซเรน่า นางแบบข้ามเพศชื่อดัง และนายอภิรัต ศิรินาวิน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคมหาชน ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม “รวมไทยยูไนเต็ด” ร่วมกันแถลงเปิดตัวกลุ่ม “รวมไทยยูไนเต็ด” ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “รวมไทยยูไนเต็ด” โดยนายวรนัยน์กล่าวว่า รวมไทยยูไนเต็ด คือคนไทยทุกคนร่วมมือกัน อำนาจในมือประชาชนคือคำตอบ ยืนยันเราไม่ได้เป็นนอมินีของใคร เราจะหยิบยื่นความโปร่งใสให้ประชาชน และสื่อมวลชนสามารถตรวจสอบได้ ส่วนใครจะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป เราจะต้องมีการประชุมพรรคเพื่อให้สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรค ยืนยันไม่มีนายทุนหรือนายห้างมายึดพรรค มาซื้อพรรค
นายวินท์กล่าวว่า ถึงเราเป็นพรรคใหม่ แต่พวกเรายืนยันว่าจะเป็นพรรคใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบัตรกี่ใบ กติกาอะไร พวกเรามั่นใจจุดยืนของเราว่าจะสามารถรวบรวมประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศได้แน่นอน สิ่งที่เรารับไม่ได้คือการสืบทอดอำนาจ เราไม่สามารถรับ ส.ว.ที่มาเลือกนายกฯ ได้ แต่หากพรรคไหนก็แล้วแต่เกิดมาจากเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง เรารับได้
ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ร่วมเทศกาลถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต โดยได้ไปไหว้ศาลเจ้ากวนอู บ้านนาบอน พร้อมเปิดตัวนายเทมส์ ไกรทัศน์ เป็นผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดภูเก็ต โดยนายกรณ์กล่าวว่า ภูเก็ตมีของดีในตัวเองมากมาย ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่ผ่านมาก็ทำรายได้ให้ประเทศมาโดยตลอด วันนี้จะต้องขยายโอกาสไปต่ออีกขั้น ต้องบริหารจัดการระดับโลกในทุกมิติ และทั้งหมดนี้เชื่อมั่นว่าต้องเป็นการบริหารจัดการจากคนคุณภาพที่คนภูเก็ต กำหนดเอง เลือกเอง เพราะไม่มีใครรู้จักภูเก็ตดีเท่าคนภูเก็ตเอง
ด้านนายอรรถวิชช์กล่าวว่า การยกระดับจังหวัดภูเก็ตไม่ใช่แค่เป็นเขตเศรษฐกิจ แต่ต้องยกระดับไปถึงจังหวัดจัดการตนเอง ต้องเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด มีหน้าที่เต็มที่ทั้งงานระบบสาธารณูปโภค ถนน ไฟฟ้า ประปา และตำรวจ ภูเก็ตมีลักษณะเฉพาะที่สำคัญคือรายได้หลักร้อยละ 80 มาจากท่องเที่ยว ต้องมีคนที่เข้าใจภูเก็ตจริงๆ มาบริหาร นโยบายต้องเป็นแบบเสื้อสั่งตัด ไม่ใช่เสื้อโหล อย่าเอาระบบราชการล้าหลังมาใช้กับภูเก็ต.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |